"อยากให้เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้"
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานกีฬาชาติ เป็นประธานมอบนโยบายการบริหารงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่กระทรวงฯ ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารหน่วยงานกีฬา และท่องเที่ยว ในสังกัดกระทรวงฯ ร่วมรับฟังนโยบาย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายด้านกีฬาว่า อยากให้กระทรวงฯ ฟื้นฟูโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นการจับคู่องค์กรเพื่อให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดยขอให้ผู้เกี่ยวข้องประสานงานกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มีรัฐวิสาหกิจใดบ้างที่เข้มแข็ง รวมถึงภาคเอกชนด้วยเพื่อเป็นข้อมูลในการเจรจาให้มาสนับสนุนเรื่องของกีฬา ซึ่งอยากให้เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้
สำหรับ โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจที่ผ่านมาที่ตนเคยดูแลนั้น ดร.สมคิด กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจมักจะเลือกสนับสนุนแต่กีฬาที่มีชื่อเสียง ดังนั้นครั้งนี้จึงอยากให้มองไปที่กลุ่มกีฬาด้อย ๆ ลงมาด้วย ขณะที่อีกนโยบายสำคัญคือ เน้นการสร้างนักกีฬาตั้งแต่เยาวชนเพื่อเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในอนาคต โดยให้เน้นไปที่กีฬาเยาวชน และลีกเยาวชนตามแต่ละชนิดกีฬาที่มีอยู่ ทำอย่างไรให้ลีกเยาวชนตื่นตัว มีชีวิตชีวามากขึ้น ให้เด็กไทยหันมาเล่นกีฬามากขึ้น
ในขณะที่ “รมต.กีฬา” นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์กีฬาทั้ง 4 หมวด ได้แก่ กีฬาพื้นฐาน, มวลชน, เป็นเลิศ และอาชีพ นั้น ยังไม่ขอลงลึกในรายละเอียดมากอยากให้รอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งใหญ่ในวงการกีฬาอย่าง ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ประธานบอร์ดกกท.และประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ มาแถลงร่วมกัน โดยกระทรวงฯ จะเน้นส่งเสริมการออกกำลังกายของเด็ก และผู้สูงอายุ ทั้งในเมือง และนอกเมือง ขณะเดียวกันก็จะเข้าไปจับมือกับกระทรวงศึกษาธิการอีกครั้งเพื่อผลิตและส่งครูพลศึกษาคุณภาพเข้าไปสอนเด็กไทยโดยตรง
“เรื่องของกีฬาเป็นเลิศ เราต้องค้นหาดาวรุ่งนำมาต่อยอด เฟ้นหากันตั้งแต่เยาวชนมาดูแลเสริมสร้างด้วยหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาเต็มรูปแบบเพื่อเป้าหมายประสบความสำเร็จในอนาคต ส่วนกีฬาอาชีพปัจจุบันที่ทำอยู่นั้นถือว่ามีระบบที่ดีอยู่แล้วอยากให้รักษาระบบนี้ไว้ต่อไปเรื่อยๆ” นายวีระศักดิ์ กล่าว
“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะนำโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ กลับมาอีกครั้ง ซึ่งตนได้มอบหมายให้ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ กกท. ไปหาข้อมูลการดำเนินการที่ผ่านมาของโครงการนี้เตรียมไว้ โดยอยากให้ทุกสมาคมกีฬาเอาจริงเอาจังและใช้เงินงบประมาณจากการสนับสนุนของทั้งภาครัฐวิสาหกิจ และเอกชนอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง