ข่าว

พลิกแฟ้มสตาร์แซมบาในรั้วเปแอสเช

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กลายเป็นข่าวฮือฮาในตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้ สำหรับดีลสถิติโลกของเนย์มาร์ สตาร์ชาวบราซิล ที่กำลังจะย้ายจากบาร์เซโลนามาเป็นสมาชิกใหม่ของปารีส แซงต์-แชร์ดแมง

ที่ผ่านมา “เปแอสเช” มักจะมีดาวเตะชาวแซมบามาสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักแก่แฟนบอลทั่วโลกอยู่เสมอมา ซึ่งวันนี้เราจะขอพาทุกท่านย้อนกลับไปดูผลงานของอดีตสตาร์แซมบาที่เคยสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นขวัญใจแห่งถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ว่าพวกเขาเคยฝากผลงานอะไรไว้ให้พูดถึงกันบ้าง

 

ไร (1993-1998)
- ย้ายจากเซาเปาโล 4.6 ล้านดอลลาร์

อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1994 ซึ่งมีชื่อเต็มว่า “ซูซา วิเอยรา เดอ โอลิเวยรา” แจ้งเกิดขึ้นมากับ เซาเปาโล ในลีกบ้านเกิด โดยพกดีกรีดาวเตะแห่งปีของอเมริกาใต้ ก่อนย้ายมาร่วมทัพปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 4.6 ล้านดอลลาร์ (ราว 147 ล้านบาท) เมื่อปี 1993

ตลอด 5 ฤดูกาลในสีเสื้อน้ำเงินเลือดหมู “ไร” ลงเล่นไปถึง 217 แมทช์ ยิงให้ทีมไปทั้งสิ้น 74 ประตู พาทีมกวาดแชมป์รายการสำคัญๆ ตั้งแต่ ลีกเอิง, เฟรนช์ คัพ, เฟรนช์ ลีกคัพ และยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมายเจ้าตัวได้เลือกกลับไปแขวนสตั๊ดกับเซาเปาโล ทีมเก่า ด้วยวัย 33 ปี

 

โรนัลดินโญ (2001-2003)
- ย้ายจากเกรมิโอ 5 ล้านยูโร

ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปเป็นดาวเตะชื่อเสียงโด่งดังกับบาร์เซโลนา อดีตสตาร์แซมบาผู้นี้เคยผ่านการค้าแข้งในถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ มาก่อน จากผู้เล่นที่ใครต่อใครกล่าวขวัญถึงผลงานอันสุดยอดในลีกบ้านเกิดตลอด 2 ปีกับเกรมิโอ ซึ่งขณะนั้นได้รับการจับตามองในฐานะดาวดวงใหม่แห่งวงการลูกหนังและเป็นที่ต้องการตัวของหลายทีมในยุโรป

แต่สุดท้าย โรนัลดินโญ กลับเลือกมาอยู่กับเปแอสเช ในปี 2001 ซึ่งการย้ายทีมหนนั้นได้สร้างปัญหาถึงขั้นเกรมิโอฟ้องร้องต้นสังกัดแดนน้ำหอมว่าแอบเจรจากับนักเตะแบบผิดกฎ กระทั่งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีคำสั่งห้ามลงเล่นจนกว่าคดีจะคลี่คลาย ซึ่งทำให้เจ้าตัวต้องร้างสนามไปนาน 4 เดือน

อย่างไรก็ตามหลังกลับมาลงสนาม เจ้าตัวก็ยังได้รับโอกาสลงเล่นที่จำกัด กระทั่งมาปลดล็อกประตูแรกในเกมที่ซัดจุดโทษตีเสมอ โอลิมปิก ลียง 2-2 จนสถานการณ์ในทีมเกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วงคริสต์มาส เมื่อ เจย์เจย์ โอโคชา ต้องไปช่วยไนจีเรียทำศึก "แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์” ขณะที่ นิโกลาส์ อเนลกา มีปัญหาแตกหักกับ หลุยส์ แฟร์กนองเดซ กุนซือของทีมในตอนนั้นจนถูกปล่อยให้ลิเวอร์พูลยืมตัวไปใช้งาน 

เมื่อสองกำลังหลักในแนวรุกหายไป โรนัลดินโญ จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญในการทำเกมแทน ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ร่ายฟอร์มการเล่นชนิดที่หาตัวจับยาก ยิงประตูสำคัญๆ พาทีมเก็บชัยต่อเนื่อง มีลูกฟรีคิกที่เชื่อใจได้ หรือแม้กระทั่งการโซโล่เดี่ยวกว่า 50 หลาฝ่าแนวรับคู่แข่งเข้าไปทำประตูก็เคยมาแล้ว

ด้วยผลงานดังกล่าวทำให้ โรนัลดินโญ สถาปนาขึ้นมาเป็นขวัญใจคนใหม่ได้ในที่สุด แม้สุดท้ายจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของถ้วยรางวัล แต่ความโดดเด่นในเวทีลูกหนังเมืองน้ำหอมก็ช่วยให้เขามีชื่อเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพร่วม หลังจากนั้นเรื่องราวของเขาจะกลายมาเป็นตำนานที่ถูกพูดถึงดังเช่นทุกวันนี้

 

เนเน่ (2010-2013)
- ย้ายจากโมนาโก 5.5 ล้านยูโร

แม้ชื่อเสียงอาจไม่เป็นที่รู้จักเท่ากับสตาร์บราซิลเลียนคนอื่นๆ ที่เคยมาโลดแล่นกับทีมเมืองหลวงแห่งนี้ แต่ เนเน่ ก็จัดว่าเป็นดาวเตะที่โชว์ฟอร์มได้เข้าตาทีเดียวกับระยะเวลา 3 ฤดูกาลที่ลงรับใช้ทีม โดยจุดเด่นของเขาอยู่ที่การไปกับบอลได้ดีและมีลูกเปิดจากริมเส้นที่อันตราย นอกจากนี้ยังมีทีเด็ดที่ลูกตั้งเตะซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัว โดยถึงขนาดถูกยกไปเปรียบกับ โรนัลดินโญ ที่เคยรับบทบาทนี้มาก่อน

เนเน่ ย้ายจากโมนาโก มาอยู่กับ เปแอสเช ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านยูโร (ราว 210 ล้านบาท) ในปี 2010 แม้ปีแรกกับต้นสังกัดใหม่จะไม่มีโทรฟีใดๆ ติดมือ แต่เจ้าตัวก็สามารถพังตาข่ายแตะหลัก 20 ประตู ก่อนที่ฤดูกาลที่สองจะเป็นการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว เมื่อคว้าดาวซัลโวสูงสุดของลีก 21 ประตู ร่วมกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ พาทีมจบในตำแหน่งรองแชมป์พร้อมกับได้สิทธิ์ไปเล่นบอลถ้วยใหญ่ยุโรป

ฤดูกาล 2012-2013 คือซีซั่นสุดท้ายที่ เนเน่ ได้ลงเล่นในสีเสื้อเปแอสเช พร้อมกับการพาเหรดเข้ามาของบรรดาแข้งชื่อดัง อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ลูคัส มูรา, ติอาโก ซิลวา และมาร์โก แวร์รัตติ แม้เมื่อจบฤดูกาลทีมจะเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกสูงสุดไปครอง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้อยู่ร่วมฉลองความสำเร็จนี้เนื่องจากถูกปล่อยตัวไปให้อัล การาฟา ของกาตาร์ ตั้งแต่ช่วงตลาดนักเตะเปิดในเดือนมกราคมปี 2013

 

ลูคัส มูรา (2012-ปัจจุบัน)
- ย้ายจากเซาเปาโล 45 ล้านยูโร

นับเป็นปีกที่มีความเร็วสูงเเละความสามารถล้นเหลืออย่างมากอีกคน โดยดาวเตะวัย 24 ปี ซึ่งเกิดที่เมืองเซาเปาโล เริ่มต้นเล่นฟุตบอลเหมือนกับเด็กบราซิลทั่วๆ ไป ก่อนจะกลายมาเป็นแข้งที่ถูกจับตามองจากการสร้างผลงานโดดเด่นกับทีมบ้านเกิด โดยตลอด 3 ปี ลงเล่นไป 128 นัด ทำไป 33 ประตู และเป็นกำลังสำคัญที่พาทีมสอยแชมป์โคปา ซูดาเมริกานา เมื่อปี 2012 กระทั่งถูกทีมดังจากปารีสดึงตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติแพงสุดของสโมสรในขณะนั้น จำนวน 45 ล้านยูโร (ราว 1,700 ล้านบาท)

ระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ย้ายจากบ้านเกิดมายังฝรั่งเศส มูรา ค่อยๆ พัฒนาการเล่นของตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ โดย 3 จาก 5 ฤดูกาล เขาได้ลงเล่นแตะหลัก 50 นัดขึ้นไป ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย, เฟรนช์ ลีกคัพ 4 สมัย และเฟรนช์ คัพ อีก 3 สมัย แม้ที่ซีซั่นล่าสุดจะต้องเสียแชมป์ให้โมนาโก แต่ปีกบราซิลรายนี้ก็ยังฝากผลงาน 19 ประตู จากการลงเล่น 52 นัด

นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อ 47 ปีก่อน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีผู้เล่นสัญชาติบราซิลที่มาค้าแข้งที่นี่ทั้งหมด 30 ราย โดย ดานี อัลเวส ฟูลแบ็กจอมบุก คือแข้งแซมบารายล่าสุด และตัวเลขทำท่าจะไม่หยุดแค่นั้น เมื่อซูเปอร์สตาร์อย่าง เนย์มาร์ ใกล้จะย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่อีกหนึ่งราย ซึ่งจากนี้ก็ต้องรอดูกันว่าดาวเตะ “เซเลเซา” รายใหม่จะทำได้ดีหรือเหนือกว่าอดีตแข้งรุ่นพี่แค่ไหนหากย้ายมาจริง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ