ข่าว

ไทยกับเจ้าภาพ “ซีเกมส์ 2019” คุ้มหรือไม่?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย ธนรัชต์ คูสมบัติ facebook.com/tanaruchatar.kusombut

ก่อนที่ซีเกมส์ 2017 จะเริ่มขึ้นที่ประเทศมาเลเซียวันที่ 19-30 สิงหาคมนี้จะเริ่มขึ้น แต่ตอนนี้กำลังมีปัญหาเกิดขึ้นในวงการกีฬาของชาวอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้าซะแล้ว

เมื่อฟิลิปปินส์ซึ่งได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ปี 2019 ขอถอนสิทธิ์จัดการแข่งขัน หลังจากที่นายวิลเลียม รามิเรซ ประธานคณะกรรมาธิการกีฬาของฟิลิปปินส์ ได้ออกมาเปิดเผยการร่วมประชุมกับประธานาธิบดีโรดริโก้ ดูแตร์เต

ซึ่งมีมติว่าจะขอถอนตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์กองกำลังติดอาวุธหัวรุนแรงที่สนับสนุนกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส)  ยังคงยึดครองเมืองมาราวี ในเกาะมินดาเนาเอาไว้

มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ และต้องการจะยุติปัญหาการก่อรร้ายให้เสร็จสิ้น รวมทั้งซ่อมแซมเมืองที่ได้รับความเสียหายก่อนเป็นอันดับแรก  (แต่ยังส่งทีมนักกีฬาเข้าแข่งขันเช่นเดิม)

ทำให้สมาพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องเร่งดำเนินการ หาเจ้าภาพมาให้เร็วที่สุด เพราะเหลือเวลาไม่มากสำหรับการเตรียมตัว ซึ่งตอนนี้มีกรแสข่าวออกมาหลายชาติที่จะรับหน้าเสื่อนี้

 

ข้อกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวด

 

ความจริงแล้วเดิมทีซีเกมส์ 2019 สิทธิ์ในฐานะประเทศเจ้าภาพในปีดังกล่าวได้ประกาศออกมาตั้งแต่ปี 2015 ได้แก่บรูไน  แต่ทางบรูไนก็ต้องขอถอนตัวโดยให้เหตุผลว่าขาดสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ที่พักรับรอง และสนามกีฬา ทำให้สิทธิ์ตกเป็นของชาติในลำดับถัดมาอย่างฟิลิปปินส์ ต้องรับเป็นเจ้าภาพไป(แบบไม่ค่อยจะเต็มใจนัก)

ทั้งนี้ช่วงหลายปีที่ผ่านมาซีเกมส์เริ่มมีปัญหากับการหาเจ้าภาพพอสมควร เพราะหลายชาติประสบปัญหาคล้ายคลึงกัน ทั้งความสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ งบประมาณในการจัดการจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ และสถานที่ที่ได้มาตรฐานสำหรับจัดการแข่งขัน

สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือตั้งแต่ช่วงกลางปี 2000 ฝ่ายจัดการแข่งขันเข้มงวดเรื่องของมาตรฐานในการแข่งขันมากขึ้น ทั้งสถานที่แข่ง ความปลอดภัยทั้งภายในภายนอก ที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกของแฟนกีฬาทั้งในและต่างประเทศ ด้วยกฎเหล่านี้จึงไม่เอื้อต่อชาติที่กำลังมีปัญหาภายใน หรือศักยภาพยังไม่เพียงพอ

 

 

 

ปัญหาและข้อจำกัดของแต่ละชาติ

 

หากดูตามลำดับชาติที่ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ที่วางเอาไว้แล้วนั้น  จากปี 2019 ซึ่งเป็นฟิลิปปินส์ซึ่ง ถัดมาในปี 2021 คือเวียดนาม ปี 2023 ได้แก่ กัมพูชา และปี 2025 คือไทย

โดยแนวทางปกติหากมีชาติใดถอนตัว สิทธ์จะตกไปอยู่ที่ชาติในครั้งถัดไปดังเช่นที่ฟิลิปปินส์ได้สิทธิ์จากการที่บรูไนถอนตัว ทำให้เวียดนามจึงถือเป็นชาติที่ได้รับการพิจารณาก่อนเมื่อเจ้าภาพของปี 2019 ว่างลง

เมื่อพิจารณาถึงความพร้อม เวียดนามก็เคยจัดการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ของเอชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2003 อีกทั้งยังเคยจัดการแข่งขันระดับทวีปมาแล้วทั้ง กีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ในปี 2006, เอเชียนอินดอร์เกมส์ ปี 2009 และล่าสุดคือเอเชียนบีชเกมส์  ปี 2016 ด้วยผลงานเหล่านี้ย่อมแสดงถึงความพร้อมของเวียดนามได้เป็นอย่างดี

แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลเกี่ยวกับเวียดนาม นั่นคือปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ เคยถึงขนาดได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ปี 2018 มาแล้ว แต่กลับต้องขอถอนตัว อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างน่าใจหาย  ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานทางกีฬาที่ทรุดโทรม และสถิติการแข่งขันที่ไม่น่าประทับใจ ส่งผลให้ความรู้สึกของประชาชนที่ไม่ค่อยสนับสนุนโครงการนี้ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวที่ก็มีโอกาสไม่น้อยเช่นกันที่รัฐบาลเวียดนามอาจจะปฏิเสธการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2019 ก็ได้

ขณะที่สิทธิ์ลำดับถัดมาอย่างกัมพูชา ก็ยังถูกกังขาเรื่องการสร้างความพร้อมให้ได้มาตรฐาน ภายในระยะเวลาที่เหลือแค่สองปี ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่? จากกำหนดการเดิมที่จะได้รับสิทธิ์คือปี 2023 และที่สำคัญยังถือเป็นครั้งแรกในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ของกัมพูชาอีกด้วย

ส่วนชาติอื่นๆที่มีศักยภาพพอ หากตัดมาเลเซียเจ้าภาพในปี 2017 และ สิงคโปร์ ที่เป็นเจ้าภาพในปี 2015 ออกไป

ที่น่าสนใจนั่นคืออินโดนีเซียที่มีความพร้อมในทุกๆด้าน แต่การที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ ต่อด้วยเอเชียนพาราเกมส์ ปี 2018 ซึ่งต้องใช้เงินทุนในการจัดการแข่งขันมหาศาล ทำให้ยากที่จะจัดรายการกีฬาใหญ่ติดต่อกันอย่างซีเกมส์ในปี 2019 เพราะนั่นหมายถึงงบประมาณที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก

 

“ไทย”กับเจ้าภาพซีเกมส์ 2019

 

จากปัญหาและข้อจำกัดของหลายชาติทำให้ “ไทย” กลายเป็นชาติที่มีโอกาสมากทีเดียวที่จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ หากแสดงเจตจำนงต่อฝ่ายจัดการแข่งขันอย่างจริงจัง

ล่าสุดพลตรีจารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ก็ออกมาเผยว่าอาจจะขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ หากเวียดนามและกัมพูชาสองชาติที่ได้สิทธิ์ก่อนหน้าไม่พร้อมที่จะจัด โดยกำลังพิจารณาคัดเลือกหนึ่งในสามจังหวัดได้แก่ เชียงใหม่,ชลบุรี และ สงขลา เป็นสถานที่ในการจัดการแข่งขัน ซึ่งเป็นแนวทางที่วางเอาไว้จากกำหนดการเดิมคือซีเกมส์ปี 2025

หากนับรวมตั้งแต่ชื่อการแข่งขันว่า “กีฬาแหลมทอง” มาจน “ซีเกมส์” ในปัจจุบัน

ไทยเป็นชาติที่เป็นเจ้าภาพมามากที่สุดถึง 6 ครั้ง (มาเลเซีย กำลังจะเทียบเท่าในปี 2017) อีกทั้งยังมักเป็นชาติที่เข้ามาจัดการแข่งขันแทนชาติที่ไม่มีความพร้อม

แต่กระนั้นหลายปีที่ผ่านมากีฬาซีเกมส์ถูกวิจารณ์เรื่องของการนำกีฬาที่ไม่ใช่สากลเข้ามาแข่งขันเพื่อเอื้อต่อความสำเร็จของเจ้าภาพ อีกทั้งผลงานของนักกีฬาไทยในช่วงหลังก็มีอันดับที่ดีกว่าชาติเพื่อนบ้านมาโดยตลอด

การทุ่มงบประมาณเพื่อจัดซีเกมส์ กับนำเงินไปพัฒนานักกีฬาเพื่อให้ก้าวขึ้นระดับสูงกว่าอาเซียน อะไรจะคุ้มค่ากว่ากัน?
 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ