ข่าว

เปิดใจ“ริกะ อิชิเกะ”หวังศิลปะต่อสู้หญิงเป็นที่นิยม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าริกะ อิชิเกะยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เธอจะต้องมีความโดดเด่นกว่าใครด้วยความที่มีรูปร่างหน้าตางดงามแบบสาวเอเชียแท้ๆ

      ริกะ มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาอย่างมากจนพูดได้ว่าเธอสามารถขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ เดินบนรันเวย์แคทวอร์คในเสื้อผ้าเทรนด์ล่าสุด หรือเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมความงามระดับไฮเอนด์ทางโทรทัศน์ได้สบายๆ 

     อย่างไรก็ตาม อิชิเกะไม่ได้มีเพียงวงหน้าที่สวยสะดุดตาเท่านั้น หากตัวตนที่แท้จริงของเธอคือการเป็นนักกีฬาศิลปะการต่อสู้ระดับมืออาชีพ 

     สาวสวยคนนี้เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 28 ปี เธอเกิดในครอบครัวที่หลงใหลในศิลปะการต่อสู้ พ่อของเธอซึ่งเสียไปแล้วเป็นนักยูโด ส่วนพี่สาวเป็นอายุรแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนกีฬาเทควันโด 

      ริกะ ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อของเธออย่างมาก เธอจึงเริ่มฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวทั้งไอคิโด คาราเต้ และเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ขวบ 

      “ฉันเริ่มฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อายุน้อย ตอนนั้นคิดว่าต้องการท้าทายตนเอง จึงเริ่มฝึกคาราเต้ เทควันโด และไอคิโดไปพร้อมกัน” ริกะเผย 

     แต่เธอก็เป็นเหมือนเด็กทั่วไปที่เมื่อเติบโตขึ้นก็ต้องพักการฝึกศิลปะการต่อสู้ไว้ก่อน เพื่อให้ความสำคัญกับการศึกษาแทน 

      ถึงแม้เธอจะไม่สามารถให้เวลากับการฝึกซ้อมได้ แต่เธอก็ยังให้ความสนใจกับกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (mixed martial arts หรือ MMA) ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นจากการถ่ายทอดทางโทรทัศน์และเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต 

     เสน่ห์ของกีฬา MMA ที่เปี่ยมด้วยการแสดงเทคนิคอันน่าตื่นตาตื่นใจและธรรมชาติของการแข่งขันที่ดุเดือด ทำให้เธอหวนกลับมาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อีกครั้ง 

     ซึ่งคาราเต้และไอคิโดไม่สามารถตอบสนองต่อความกระหายในการเรียนรู้ที่เพิ่มสูงขึ้นได้ หรือพูดง่ายๆก็คือ เธอต้องการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่เข้มข้นยิ่งขึ้น 

     ริกะฝึกปรือทักษะการเป็นนักศิลปะการต่อสู้ด้วยการผสมผสานรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างกัน กระทั่งเข้าสู่สนามแห่งการต่อสู้แบบผสมผสานหรือ MMA อย่างเต็มตัว 

     ริกะที่มีสมญานามว่า “ตุ๊กตาตัวน้อย” หรือ “Tinydoll” เนื่องจากมีรูปร่างเล็ก เตรียมขึ้นเวทีต่อสู้เป็นครั้งที่ 3 ในการแข่งขันที่จัดโดย ONE Championship กับนักต่อสู้หน้าใหม่ชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อว่าโจมารี ตอร์เรสในรายการ ONE: KINGS & CONQUERORS ซึ่งจะระเบิดความมันในโคไท อารีน่า สนามกีฬาชื่อดังที่ตั้งอยู่ในโรงแรมเวเนเชียน มาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ 

     “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน MMA ที่จัดโดยบริษัทโปรโมเตอร์ที่ยิ่งใหญ่สุดในโลกอย่าง ONE Championship ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสนี้ ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัวและเพื่อคนไทยทุกคนด้วย” ริกะกล่าว 

     ด้วยการสวมนวมขนาด 4 ออนซ์ของ MMA ขึ้นชก ริกะมองว่านี่คือเกียรติยศและความภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าแข่งขัน ONE Championship ซึ่งได้รับการยกย่องในวงกว้างว่าเป็นองค์กรกีฬาชั้นนำของเอเชีย 

     “ตอนแรก ฉันไม่รู้สึกถึงความกดดันแม้แต่น้อยในฐานะที่เป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ขึ้นชกในกรงบนเวที MMA เพราะฉันมีความเชื่อมั่นในตนเองและมั่นใจในความสามารถของตนเอง ฉันคิดว่าสามารถรับมือกับการต่อสู้ครั้งนี้ได้ แต่แล้วฉันกลับกลายเป็นที่สนใจอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างดูง่ายดายได้อีกแล้ว” ริกะกล่าวติดตลก 

     “ครอบครัวของฉันจะเดินทางไปชมด้วย คนไทยเกือบทั้งประเทศก็จะดูด้วยเช่นกัน การต่อสู้ไฟต์นี้จึงต้องชนะสถานเดียว แน่นอนว่าฉันจะทำให้ดีที่สุด” ริกะกล่าวเพิ่มเติม 

     ริกะไม่คิดว่าจะมีอุปสรรคใดๆ บนเส้นทางสู่โลกแห่งการต่อสู้แบบผสมผสานของ MMA เนื่องจากเธอเชื่อว่าเธอมีความพร้อมเต็มที่สำหรับการปฏิบัติภารกิจตรงหน้า 

     “ฉันหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ จึงมีความสุขอย่างมากเมื่อได้แบ่งปันและเรียนรู้สิ่งใหม่เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้กับคนอื่น ฉันได้รับการสนับสนุนจากคนรอบข้างในการฝึกซ้อม ซึ่งทำให้ฉันเข้มแข็งมากขึ้นและมีความพร้อมสำหรับไฟต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้” สาวสวยกล่าวยืนยัน 

     ถึงแม้เป้าหมายหลักของริกะจะอยู่ที่การคว้าชัยชนะครั้งที่ 3 ติดต่อกันในฐานะนักต่อสู้ระดับมืออาชีพ แต่เธอก็ยังต้องการเป็นกระบอกเสียงที่ช่วยยกระดับพลังสตรีด้วยการทะลายกำแพงที่แบ่งแยกเพศ 

     ริกะเน้นย้ำว่า การต่อสู้ MMA ระดับมืออาชีพครั้งที่ 3 ของเธอควรจะเป็นเหมือน “ก้าวกระโดด” สำหรับผู้หญิงที่จะเข้าใจว่าพวกเธอสามารถทำอะไรก็ได้ถ้ามีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างแท้จริง 

     “ศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องของผู้ชายเท่านั้น มีผู้หญิงไทยมากมายที่ขึ้นเวทีต่อสู้หลากหลายรูปแบบในประเทศไทย ทั้งมวยไทย เทควันโด คาราเต้ และแขนงอื่นๆ อีกมากมาย ตัวฉันเองเป็นเหมือนตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงสามารถต่อสู้ได้” ริกะกล่าว “สังคมแห่งศิลปะการต่อสู้ให้การต้อนรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ มีรูปร่างเล็กหรือตัวสูงใหญ่” 

      “หลายคนไม่เข้าใจในศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน พวกเขาคิดว่ามันไม่มีกฎกติกาและป่าเถื่อน” ริกะอธิบายเพิ่มเติม “ริกะต้องการแสดงให้พวกที่คิดแบบนั้นเห็นว่าเขาคิดผิด เพราะนี่คือกีฬาจริงๆ ริกะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่สามารถต่อสู้บนเวทีที่จัดโดยองค์กรระดับโลก การต่อสู้ไม่ใช่เรื่องโหดร้าย แต่อยู่ที่เทคนิค” 

      ริกะตื่นเต้นที่ได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักต่อสู้ชั้นนำอย่างแองเจล่า ลี เจ้าของฉายา “Unstoppable” แชมป์โลกอะตอมเวตของ ONE Women, เม “V.V” ยามากูชิ, อิสเตล่า นูเนส, จีน่า อิเนียง, เจนน่า หวง และแอน “Athena” ออสแมนในวงการ MMA ของผู้หญิงที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในเอเชีย 

      “ปัจจุบัน นักต่อสู้ผู้หญิงในเอเชียมีเวทีมากมายให้เลือกแสดงทักษะและศักยภาพซึ่งจัดโดยองค์กรระดับโลกอย่าง ONE Championship แองเจล่า, แอน และอีกหลายคนบุกเบิกเส้นทางสำหรับนักต่อสู้ผู้หญิงคนอื่นๆ อย่างตัวฉัน ซึ่งฉันมายืนอยู่ตรงจุดนี้เพื่อสานต่อสิ่งที่พวกเขาทั้งหลายได้เริ่มต้นไว้” ริกะกล่าว 

      ถึงแม้ว่าความเท่าเทียมทางเพศจะยังคงเป็นประเด็นร้อนที่ต้องถกเถียงกันต่อไป แต่ริกะเชื่อว่าศิลปะการต่อสู้คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยลดกำแพงดังกล่าวลง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ