ข่าว

วันนี้ในอดีต...วันประวัติศาสตร์ของชาว "โสมแดง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้เมื่อ 51 ปีก่อน ทัพนักเตะ เกาหลีเหนือ สร้างประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลก 1966 ด้วยการเอาชนะ อิตาลี 1-0 พร้อมกับเขี่ยอดีตแชมป์โลก 2 สมัยตกรอบแรกไปแบบช็อกวงการ

       ทศวรรษที่ 1960 ประเทศเกาหลีเหนือเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตสงครามมาได้ไม่นาน สภาพบ้านเมืองอยู่ในระยะการฟื้นฟู แต่ในวงการฟุตบอล ทีมชาติเกาหลีเหนือได้สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ เมื่อผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1966 ที่อังกฤษได้สำเร็จ ทั้งๆไม่มีนักฟุตบอลอาชีพอยู่เลย โดยผู้เล่นในทีมส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหารและตำรวจที่เล่นฟุตบอลเป็นกิจกรรมยามว่างหลังเลิกงานเท่านั้น 

       โดยในศึกฟุตบอลโลก 1966 จริงๆแล้วชาติจากเอเชียได้โควต้าเข้ารอบสุดท้ายเพียง "ครึ่งทีม"เท่านั้น เพราะตัวแทนจากเอเชียจะต้องไปเพลย์ออฟกับตัวแทนจากทวีปแอฟริกาเพื่อชิงตั๋วใบสุดท้าย แต่บรรดาชาติในแอฟริกาทั้งหมดต่างถอนตัวออกไปเนื่องจากไม่พอใจฟีฟ่าที่ให้โควต้าทวีปตนเองน้อยเกินไป เกาหลีเหนือที่กรุยทางจนได้เป็นตัวแทนจากเอเชีย จึงได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปโดยอัตโนมัติ

       แม้จะเป็นชาติเล็กๆที่ไม่เคยมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลมาก่อน แต่ทีม "โสมแดง" ชุดนี้ต่างประกาศพร้อมสู้แบบถวายชีวิต หลังจาก "คิม อิล ซุง" ผู้นำประเทศ ได้ให้โอวาทก่อนเดินทางว่า

      "ชาติยุโรปและอเมริกาใต้ครองความยิ่งใหญ่ในฟุตบอลโลกมานาน พวกคุณไม่ได้เป็นตัวแทนของประเทศเราเท่านั้น แต่ยังแบกความหวังของชาวเอเชียและแอฟริกาด้วย ผมอยากเห็นพวกคุณชนะสัก 1-2 นัด ให้ทุกคนสมหวัง และจะได้ไม่มีใครดูถูกชาวเอเชียอย่างพวกเราอีก"

       ในการแข่งขันรอบสุดท้ายที่ประเทศอังกฤษ ทีมชาติเกาหลีเหนือถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ 4 ร่วมกับ อิตาลี, สหภาพโซเวียต และ ชิลี ซึ่งถือเป็นทีมระดับพระกาฬทั้งสิ้น โดย อิตาลี เป็นอดีตแชมป์โลก 2 สมัย นำทีมโดยคู่หูมิดฟิลด์ระดับโลกอย่าง จานนี่ ริเวร่า และ ซานโดร มัซโซล่า ขณะที่ สหภาพโซเวียต เป็นรองแชมป์ยุโรป 1964 นำมาโดย "ไอ้ปลาหมึกยักษ์ดำ" เลฟ ยาชิน สุดยอดนายทวารแห่งยุค ด้าน ชิลี ก็เพิ่งคว้าอันดับ 3 จากศึกฟุตบอลโลก 1958 ทำให้ไม่มีใครคิดว่าเกาหลีเหนือจะฝ่าด่านอรหันต์ผ่านรอบแบ่งกลุ่มนี้ไปได้

       และเมื่อเริ่มแมตช์แรกก็เหมือนจะเป็นไปตามคาด เมื่อ เกาหลีเหนือ ถูก สหภาพโซเวียต ถล่มไป 3-0 แต่เกาหลีเหนือก็ฮึดสู้จนตีเสมอ ชิลี 1-1 ในนัดต่อมา ทำให้พวกเขายังมีลุ้นเข้ารอบหากชนะ อิตาลี ได้ในนัดสุดท้าย (อิตาลี ชนะ 1 แพ้ 1)

       19 กรกฎาคม 1996 ที่สนาม อายร์ซัม ปาร์ค เกาหลีเหนือลงเล่นแมตช์ชี้ชะตากับอิตาลีที่เหนือกว่าแทบทุกประตู ซึ่งเมื่อเริ่มเกม ทัพ "อัซซูรี่" ก็บุกหนักทันทีและมีโอกาสหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังขึ้นนำไม่สำเร็จ แถมยังต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ จิอาโคโม่ บัลกาเรลลี่ กองหลังกัปตันทีม สกัดบอลพลาดจนตัวเองบาดเจ็บต้องออกจากสนามไป (กฎในเวลานั้นยังไม่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัว)

       ทันทีที่มีตัวผู้เล่นมากกว่า เกาหลีเหนือก็เริ่มมีกำลังใจและครองเกมบุกได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งนาทีที่ 41 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ จากการยิงของ ปัค ดู-อิค ท่ามกลางความดีใจจากชาวโสมแดงทั้งประเทศ รวมถึงท่านผู้นำ คิม อิล ซุง ที่ฟังวิทยุรายงานสดการแข่งขันแมตช์นี้อยู่แม้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนในเกาหลีเหนือแล้วก็ตาม

       หลังจากนั้น อิตาลีก็พยายามทุกวิถีทางที่จะตีเสมอให้ได้  แต่แนวรับโสมแดงรวมถึง รี ชาง-เมียง นายทวารดาวรุ่งวัย 19 ปี ก็โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันไว้ได้ทั้งหมด จบเกม เกาหลีเหนือจึงพลิกล็อกเฉือนชนะอิตาลีไป 1-0 สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ พร้อมกับเขี่ยอิตาลีตกรอบแรกไปแบบสุดเจ็บช้ำ

       (คลิป Youtube // user: Noviceproductions)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ