ข่าว

5 แข้งดังที่กลับมาตายรังกับทีมเก่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การตัดสินใจกลับมาปิดฉากอาชีพค้าแข้งยังสโมสรแรกที่ตัวเองแจ้งเกิดขึ้นมาสำหรับนักฟุตบอลแล้วอาจจะถือเป็นตอนจบที่สมบูรณ์แบบ

เช่นเดียวกับกรณีของ เวย์น รูนีย์ ที่อำลาชีวิต 13 ปี ในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้วย้ายกลับมาสวมเสื้อเอฟเวอร์ตันเป็นคำรบสอง

อย่างไรก็ตามเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษไม่ใช่รายแรกที่เลือกกลับมายังสโมสรอู่ข้าวอู่น้ำของตัวเอง และวันนี้จะขอพาไปพบกับบรรดาแข้งที่เลือกกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายกับสโมสรที่ฟูมฟักพวกเขาขึ้นมาว่าจะมีใครกันบ้าง


เฟร์นานโด ตอร์เรส (แอตเลติโก มาดริด) 
ปี 2001-2007 และปี 2015-ปัจจุบัน
    หลังออกไปเผชิญโชคในเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และศึกกัลโช เซเรียอา อิตาลี เป็นเวลากว่า 8 ปี อดีตศูนย์หน้าทีมชาติสเปนซึ่งมีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลกและแชมป์ยุโรปกับทีมกระทิงดุ ก็ได้ตัดสินใจกลับมาอยู่กับสโมสรที่เคยให้โอกาสเขาลงเล่นในทีมชุดใหญ่ขณะที่อายุเพียงแค่ 17 ปี อีกครั้งในปี 2015 แม้การกลับมารับใช้ทีม“ตราหมี”ในคำรบที่สองจะไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนตอนที่แจ้งเกิดขึ้นมาสมัยเป็นดาวรุ่ง แต่ ตอร์เรส ก็ยังได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากแฟนบอลซึ่งยกให้เขาเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของสโมสรแห่งนี้ และที่สำคัญการกลับมาหนนี้ยังทำให้เขายิงครบ 100 ประตู ให้กับแอต.มาดริด อีกด้วย

อันเดร เชฟเชนโก (ดินาโม เคียฟ) 
ปี 1994-1999 และปี 2009-2012

    เจ้าของตำแหน่งบัลลงดอร์ ปี 2004 แจ้งเกิดขึ้นมากับ ดินาโม เคียฟ สโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกบ้านเกิด ซึ่งเจ้าตัวเข้ามาร่วมทีมตั้งแต่อายุ 14 ปี และตลอดช่วงเวลา 6 ปีกับ ดินาโม เคียฟ (1994-1999) เชฟเชนโก เดินหน้าถล่มประตูเป็นกอบเป็นกําจนพาต้นสังกัดจากยูเครนกวาดแชมป์ลีก 5 สมัยติด รวมไปถึงคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศ นอกจากนี้ยังพาทีมทะลุเข้ารอบลึกๆเสมอในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และเป็นสโมสรแห่งนี้ที่ส่งให้เขาก้าวขึ้นไปติดทีมชาติยูเครนเมื่ออายุได้เพียง 19 ปี แม้ในนามทีมชาติ เชฟเชนโก จะไม่ค่อยประสบความสําเร็จเท่าใดนัก แต่เขาก็ได้ฝากผลงาน 48 ประตู ซึ่งถือเป็นสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลมาถึงปัจจุบัน
    “เชวา” ย้ายกลับมาอยู่กับ ดินาโม เคียฟ เป็นหนที่สองในปี 2009 หลังออกไปไล่ล่าความสำเร็จกับเอซี มิลาน และ เชลซี โดยเขาลงเล่นอีก 3 ปี และแขวนสตั๊ดหลังจากจบศึกยูโร 2012

ฮวน เซบาสเตียน เวรอน (เอสตูเดียนเตส) 
ปี 1993-1995 และปี 2006-2017

    อดีตกองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา วัย 41 ปี เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรอาร์เจนไตน์ทีมนี้ในปี 1994 และเล่นให้กับทีม 3 ช่วงด้วยกัน ก่อนจะรีไทร์เมื่อปี 2014 พร้อมกับขยับบทบาทขึ้นไปเป็นประธานสโมสร แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ตัดสินใจกลับมาลงเล่นอีกครั้ง หลังจากให้คำมั่นสัญญากับแฟนบอลว่าจะลงเล่นในศึกโคปา ลิเบร์ตาดอเรส ปี 2017 หากมีแฟนบอลซื้อตั๋วชมเกมถึง 65 เปอร์เซ็นต์ในสนามแห่งใหม่ โดยเซ็นสัญญาร่วมทีมอย่างเป็นทางการด้วยระยะเวลา 18 เดือน
    การกลับมาโลดแล่นบนพื้นหญ้าหนนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสโมสรแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ๆ เขาผ่านประสบการณ์ตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชน, กัปตันทีม จนกระทั่งก้าวขึ้นเป็นประธานสโมสร จึงไม่แปลกที่การคัมแบ็กรอบนี้เขาจะไม่รับค่าเหนื่อยแม้แต่บาทเดียวและเลือกที่จะบริจาคเงินเพื่อพัฒนาสโมสรแทน
    ปัจจุบัน เวรอน ลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 5 นัด ในศึกโคปา ลิเบร์ตาดอเรส ซึ่งเขาช่วยให้ทีมคว้าชัยไปได้ถึง 3 นัด และแพ้อีก 2 เกมด้วยกัน

ดาเนียล แอกเกอร์ (บรอนด์บี)
ปี 2004-06 และปี 2014-16

    บรรดา“เดอะ ค็อป” ยังไม่ลืมตอนที่อดีตปราการหลังทีมชาติเดนมาร์ก ตัดสินใจอำลาลิเวอร์พูลไปเมื่่อปี 2014 ขณะที่อายุ 29 ปี ซึ่ง ณ ตอนนั้นเจ้าตัวถือว่ายังมีทางเลือกอีกมากมายในการย้ายไปเล่นกับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป แต่ แอกเกอร์ กลับเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับบรอนด์บีในบ้านเกิด โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการย้ายไปร่วมทีมคู่แข่งและต้องกลับมาเผชิญหน้ากับทีม“หงส์แดง”
    คุณค่าของอดีตกองหลังรายนี้แม้จะไม่ใช่นักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รักของแฟนบอลคือเรื่องของหัวจิตหัวใจที่เขามีให้กับสโมสรที่ลงเล่น และการกลับมายังถิ่นเก่าเจ้าตัวก็ยังได้รับการต้อนรับที่ดีเฉกเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เลือกเดินจากไปตอนสมัยเป็นดาวรุ่ง โดยใช้เวลาอยู่กับทีม 2 ฤดูกาล ลงเล่นไป 43 นัด ยิงไป 2 ประตู ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดชนิดช็อกแฟนลูกหนังด้วยวัยเพียง 31 ปี

ราฟาเอล มาร์เกวซ (แอตลาส)
ปี 1996-99 และปี 2015-ปัจจุบัน

    ภูผาหินแห่งจังโก้ เริ่มต้นอาชีพลูกหนังกับทีม แอตลาส ในบ้านเกิด เมื่อปี 1996 ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวมีอายุเพียง 17 ปี เท่านั้น และหลังจากฉายแววได้อย่างโดดเด่นในฐานะปราการหลังตัวกลาง เจ้าตัวจึงได้โอกาสไปเปิดประสบการณ์กับทีมชั้นนำในยุโรปอย่างโมนาโก ซึ่งเป็นที่ๆเขาใช้เวลาอยู่กับทีม 4 ปี ก่อนถูกบาร์เซโลนาคว้าตัวไปร่วมทีม พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นจังโก้คนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งหลังประสบความสำเร็จอย่างสูงกับพลพรรค“อาซูลกรานา” เขาเลือกไปใช้ชีวิตในเมเจอร์ลีก สหรัฐ กับนิวยอร์ค เรดบูลส์ ช่วงสั้นๆ ก่อนที่ปี 2015 จะตัดสินใจกลับมาอยู่กับ แอตลาส อีกครั้งในบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง
    บนวัย 38 ปี มาเกวซ ยังคงได้รับความไว้วางใจในการเป็นหัวใจในแนวรับให้กับทีมอยู่เช่นเคย ดูได้จากสถิติที่ลงรับใช้ทีมตลอด 2 ฤดูกาล ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขบอกไว้ว่า ลงเล่นไปถึง 37 นัด ทำไป 1 ประตู โดยปัจจุบันยังคงเดินนำลูกทีมลงสนามในฐานะกัปตันทีมและยังไม่มีวี่แววว่าจะเลิกเล่นแต่อย่างใด


    สำหรับบรรดานักเตะอาชีพ การได้โอกาสย้ายไปประสบความสำเร็จกับทีมยักษ์ใหญ่ย่อมเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่จะดีแค่ไหนหากเขาได้โอกาสกลับมาประสบความสำเร็จกับทีมที่ตนเองแจ้งเกิดขึ้นมา ซึ่งจะทำให้การปิดฉากอาชีพค้าแข้งกลายเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบบนเส้นทางลูกหนังของพวกเขานั่นเอง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ