ข่าว

“ก้าวสู่เซเรีย บี” : บันไดขั้นสุดท้ายของปาร์มา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย ธนรัชต์ คูสมบัติ facebook.com/tanaruchatar.kusombut

หลังสิ้นเสียงนกหวีดเกมในชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟ ของเลกา โปร ที่สนามอาร์เตมิโอ ฟรังคี่ เมืองฟลอเรนซ์ เมื่อวันที่  17 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นความชื่นมื่นของชาวเมืองปาร์ม่า เมื่อ ปาร์มา กัลโช่ 1913 เอาชนะคู่แข่งอย่าง อเลสซานเดรีย” ไป 2-0 คว้าสิทธิ์ขึ้นไปเล่นลีกซีเรีย บี ได้สำเร็จ
ชัยชนะครั้งนี้ทำเอาสาวก “จัลโลบลู” หรือแม้กระทั่งแฟนฟุตบอลอิตาลียุค 90 วาดฝันถึงอดีตที่หอมหวน ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมที่เกรียงไกรทั้งในอิตาลีและยุโรปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วจะกลับมาอีกครั้ง

เพราะเหลือบันไดอีกขึ้นเดียวเท่านั้น ก็จะสามารถกลับไปอยู่ในลีกสูงสุดคือซีเรีย เอ นับตั้งแต่ถูกปรับตกชั้นไปเล่นระดับเซเรีย ดี ลีกระดับล่างสุดของฟุตบอลอาชีพในอิตาลี ในปี 2015 จากปัญหาภาวะหนี้สินและการเงิน

 

อดีตที่ยิ่งใหญ่และหายนะทางการเงิน

จากที่เคยเป็นทีมที่ต่อสู้กับยักษ์ใหญ่ในประเทศไม่ว่าจะเป็น  เอซี มิลาน, อินเตอร์, ยูเวนตุส, โรม่า หรือ นาโปลี ได้อย่างพอฟัดพอเหวี่ยง และประสบความสำเร็จอย่างสูงในยุค 90 เป็น รองแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 1996-1997 จากการแพ้ ยูเว่ แค่ 2 แต้ม, ครองแชมป์โคปปา อิตาเลีย 3 รอบในระหว่างปี 1992-2002, แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ 1993 และยังได้แชมป์ยูฟ่า คัพ อีก 2 รอบในปี 1995 กับ 1999 เช่นเดียวกับการเป็นขาประจำของโควต้าฟุตบอลยุโรปยุโรป

อีกทั้งมีนักเตะระดับสตาร์ระดับโลกอยู่ไม่ขาดสาย ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, จานฟรังโก้ โซล่า, เอร์นาน เครสโป, เอ็นริโก้ เคียซ่า, ลิลิยอง ตูราม, ดิโน่ บาจโจ้, ฟาบิโอ คันนาวาโร่ หรือจานลุยจิ บุฟฟ่อน

ด้วยข้อเท็จจริงเหล่านี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าปาร์ม่า คือหนึ่งในทีมที่มีเสน่ห์มากที่สุดทีมหนึ่งในอิตาลีและยุโรปของยุคนั้น

อย่างไรก็ตามหายนะทางการเงินที่เริ่มก่อตัวมาตั้งช่วงต้นปี 2000 เมื่อสปอนเซอร์หลัก Parmalat ล้มละลาย แม้ว่าทีมจะพยายามพยุงสถานการณ์ไว้ แต่ทุกอย่างก็มาปะทุอย่างรุนแรงจากปัญหาที่หมักหมมและนโยบายการแก้ปัญหาที่ผิดพลาด กระทั่งไม่มีสตางค์จ่ายค่าจ้างนักเตะ โดนตัดแต้ม 7 คะแนน จนต้องประกาศ 'ล้มละลาย' ในเดือน มี.ค. 2015 ด้วยยอดหนี้ที่สูงอย่างน่าตกใจถึง 218 ล้านยูโร โดย 63 ล้านยูโรในนั้นคือค่าจ้างนักเตะที่ค้างชำระ

นอกจากจะไม่มีเงินจ่ายนักเตะและทีมงานแล้ว ก็ยังถึงขั้นไม่มีเงินจัดแข่งแต่ละเกมด้วย ในช่วงปลายซีซั่น 2014/15 และถูกประกาศเป็นทีมล้มละลายต้องลงไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในลีกล่างสุดคือซีเรีย ดี ในซีซั่น   2015-16  ทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด ไปจนถึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น 'ปาร์มา กัลโช่ 1913'  

อย่างไรก็ตาม ในโชคร้ายยังมีโชคดีเมื่อ  “กีโด้ บารีย่า”  ซีอีโอของบริษัทผลิตพาสต้าระดับโลกบาร์ลิลล่า เจ้าของทรัพย์สินส่วนตัว 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มหาเศรษฐีลำดับที่ 19 ของอิตาลีและลำดับที่ 906 ของโลก เข้ามาเป็นเจ้าของทีม พร้อมแต่งตั้ง “ลุยจิ อปอลโลนี่” อดีตกองหลังปาร์ม่ายุค 90 เข้ามาเป็นกุนซือ

 

กาต่อสู้ในซีเรีย ดี

เส้นทางของปาร์ม่านั้นแตกต่างจากยูเวนตุสที่เคยถูกปรับตกชั้นเช่นกัน ยูเว่ยังสามารถเก็บนักเตะระดับชั้นนำไว้ได้ แต่ปาร์ม่าเหลือนักเตะเก่าเพียงคนเดียวคือ “อเลสซานโดร ลูคาเรลลี่” กองหลังกัปตันทีมจอมเก๋า นอกนั้นกระจัดกระจายไปหมด ทั้ง อันโตนิโอ คาสซาโน่ ไปซามพ์โดเรีย, โจนาธาน เบียเบียนี่ ไปอินเตอร์, รัฟฟาเอลเล่ ปัลลาดิโน่ ไปโครโตเน่, อันโตนิโอ มิรันเต้ ไปโบโลญญ่า, กาเบรียล ปาเล็ตต้า ไปมิลาน, อิชัค เบลโฟดิล ไปบานี่ยาส ยูเออี, มัสซิโม่ ก็อบบี้ ไปคิเอโว่, อับเดลกาแดร์ เกซซัล ไปโคโม่, ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ทำให้ทีมต้องใช้บริการผู้เล่นระดับสมัครเล่นในหลายตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม ในซีซั่น 2015-2016 ของลีกสมัครเล่นอย่างซีเรีย ดี โซนดี จากทั้งหมด 9 โซน ลูกทีมของอปอลโลนี่ รวมพลังกันจนสร้างผลงานระดับ “ไร้พ่าย” ยึดจ่าฝูงตั้งแต่ต้นยันจบด้วยการชนะ 28 เสมอ 10 ยิง 82 เสีย 17 เก็บไป 94 คะแนน ได้สิทธิ์เลื่อนชั่นไปเล่นระดับ 'เลกา โปร' ลีกอาชีพลำดับสุดท้าย ลำดับที่ 3 ในปิรามิดฟุตบอลิตาลี (เซเรีย อา > เซเรีย บี > เลกา โปร)

โดยการขึ้นมาเล่นระดับลีกอาชีพอีกครั้งของทีม ทำให้สถานะทางการเงินดีขึ้นไปด้วย เพราะเหล่าสปอนเซอร์มีความเชื่อมั่นมากขึ้น รวมไปถึงนโยบายของสโมสรที่ใช้แนวทางระดมทุนโดยการแบ่งขายหุ้น 25% ให้แฟนบอล หุ้นละ 500 ยูโร จนสามารถจ้างนักเตะที่มีระดับมากขึ้นได้ อาทิเอมานูเอเล่ คาลาโย่  จากสเปเซีย, มิเคเล่ คานินี่ จากอตาลันต้า, โมฮาเหม็ด โคลี่ กับ มานูเอล สคาโวเน่ แพ็คคู่จากโปร แวร์เซลลี่ และ เฟลิเซ่ เอวาคูโอ จากโนวาร่า

 

คว้าตั๋วไปเล่นซีเรีย บี

เข้าสู่ฤดูกาล 2016-2017 ในเลกา โปร ด้วยความมุ่งหวังว่าทีมจะยังคงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมดังเช่นซีซั่นก่อน เพราะทุกอย่างมีความพร้อมกว่าเดิมมาก แต่ปรากฏว่าระดับการเล่นอาชีพนั้นแตกต่างจากระดับสมัครเล่นอย่างซีเรีย ดี โดยสิ้นเชิง

ผลงานในช่วงครึ่งฤดูกาลของปาร์ม่าเกาะติดอยู่แค่ในกลุ่มกลางตารางค่อนบนเท่านั้น ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือด้วยการปลดอปอลโลนี่ จากนั้นแต่งตั้งรักษาการอย่างซือ สเตฟาโน่ มอร์โรเน่ แล้วก็ส่งไม้ต่อให้กับ โรแบร์โต้ ดาแวร์ซ่า เข้ามาเป็นกุนซือถาวรเมื่อ 3 ธ.. 2016

ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยผลงานจบฤดูกาลใน ในเลกา โปร กลุ่มบี แชมป์ตกเป็นของเวเนเซีย ที่เก็บคะแนนไป 80 คะแนนจาก 38 นัด โดยปาร์ม่าได้ที่สองตามหลัง 10 คะแนน ต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ในฐานะรองแชมป์ โดยได้สิทธิ์ไปเล่นรอบที่สอง

ก่อนที่จะผ่านเจอปิอาเชนซ่า (รอบสอง), ลุคเคเซ่(แปดทีม), ปอร์เดโนเน่ (รอบรองชนะเลิศ) จนกระทั่งปราบอเลสซานเดรีย รองแชมป์กลุ่มเอ นัดชิงชนะเลิศ คว้าตั๋วไปเล่นในซีเรีย บี ได้สำเร็จ

 

ทิศทางในอนาคต

การขึ้นมาเล่นระดับซีเรีย บีในซีซั่นหน้าของปาร์ม่า มาด้วยความหวังอีกเช่นเดิม คราวนี้แฟนบอลอาจจะฝันไปไกลกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อตอนนี้ทีมกำลังจะได้เศรษฐีใหม่มาเป็นเจ้าของทีมคือ “เจียง ลีจาง” นักธุรกิจชาวจีนที่เป็นเจ้าของทีมกรานาด้า ในสเปน และยังถือหุ้นทีมมินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ทีมบาสเกตบอลในเอ็นบีเอ ที่ใกล้จะบรรลุข้อตกลงซื้อหุ้นจำนวน 60% ของทีม

นั่นหมายถึงปาร์ม่า จะมีกำลังทรัพย์มากขึ้นในการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวไปสู่ลีกสูงสุด

ซึ่งไม่แน่เหมือนกันว่าบทความนี้อาจถูกนำข้อมูลมารีรันอีกครั้ง แต่เพิ่มเรื่องราวในซีเรีย บี เข้าไป ในวันที่ปาร์มา กลับสู่ซีเรีย เอ นั่นเอง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ