ข่าว

5 นายด่านค่าตัวแพงสุดของโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ในยุคสมัยที่ผู้รักษาประตูในวงการลูกหนังมีค่าตัวที่สูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน

จอร์แดน พิคฟอร์ด สถาปนาตัวเองเป็นนายด่านที่ค่าตัวสูงสุดบนเกาะอังกฤษ หลังย้ายจากทีมตกชั้นอย่างซันเดอร์แลนด์ มาร่วมทัพเอฟเวอร์ตัน

ขณะที่ เอแดร์สัน ทำลายสถิติที่อยู่มายาวนาน 16 ปี พร้อมกับก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารค่าตัวแพงสุดของโลก หลังแมนฯซิตี ทุ่มเงิน 34.7 ล้านปอนด์ ให้กับเบนฟิกา

แม้ก่อนหน้านี้ตำแหน่งผู้รักษาประตูจะไม่เคยมีค่าหัวเท่านี้มาก่อน สังเกตได้จากมือ 1 ที่ผ่านมาของบรรดาทีมหัวแถวพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็น ดาบิด เด เกอา ที่ย้ายร่วมทัพแมนฯยูไนเต็ด หรือ โฆเซ เรนา ตัดสินใจมาเฝ้าเสาในรั้วแอนฟิลด์ กระทั่ง ปีเตอร์ เชค ที่อาร์เซนอลไปเซ็นฟรีมาจากเชลซี ซึ่งทุกรายที่กล่าวมานั้นเทียบไม่ได้เลยกับดีลที่เกิดขึ้นกับเอฟเวอร์ตันและแมนฯซิตีที่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของอันดับผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวแพงสุดของโลกไปตลอดกาล

เคลาดิโอ บราโว - 17.1 ล้านปอนด์ (ราว 730 ล้านบาท)
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมช่วสเปน สร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับสาวกแมนเชสเตอร์ ซิตีทันที เพียงแค่ปีแรกที่เข้ามาคุมทัพ เมื่อตัดสินใจเขี่ย โจ ฮาร์ท ซึ่งยึดตำแหน่งมือ 1 ของทีมมายาวนาน พร้อมกับไปคว้าตัวนายด่านชาวชิลีมาจาก บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 17.1 ล้านปอนด์ (ราว 730 ล้านบาท) เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ บราโว เล่นบอลด้วยเท้าได้ดีกว่าผู้รักษาประตคูทีมชาติอังกฤษ
แม้การย้ายมาเฝ้าเสาในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม จะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนครั้งเล่นให้บาร์เซโลนา แถมยังเสียตำแหน่งมือ 1 ให้กับ วิลลี กาบาเยโร ในตอนท้ายฤดูกาล แต่ในนามทีมชาติ บราโว ถือเป็นนายทวารที่ดีที่สุดที่ชิลีเคยมีมา เมื่อสามารถพาทีมคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ได้ถึง 2 สมัย โดยเป็นการเอาชนะจุดโทษอาร์เจนตินาทั้ง 2 ครั้ง พร้อมกับทำให้เจ้าตัวครองตำแหน่งผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมในรายการนี้ 2 สมัยซ้อน อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นชิลีคนแรกที่ติดทีมชาติครบ 100 นัดไปแล้วอีกด้วย

ดาบิด เด เกอา - 18.3 ล้านปอนด์ (ราว 780 ล้านบาท )
ผลผลิตจากอคาเดมีของแอตเลติโก มาดริด โดยเริ่มเข้าสู่วงการลูกหนังตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ ด้วยรูปร่างที่สูง และใช้เท้าเล่นกับบอลได้ดี ทำให้ เด เกอา พัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็วและได้ลงเล่นฟุตบอลอาชีพนัดแรกด้วยอายุเพียง 18 ปี ก่อนตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2011 เพื่อเข้ามาเป็นมือ 1 แทน เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ที่เลิกเล่น
แม้ต้องเผชิญกับปัญหาการปรับตัวในฤดูกาลแรกซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างที่หวังไว้เมื่อต้องเจอกับปัญหาลูกกลางอากาศที่ผิดพลาดหลายครั้ง แต่ปีถัดมาก็สามารถกลับมาสู่ฟอร์มที่เคยทำได้อีกครั้ง ด้วยผลงานเซฟชอตสำคัญจนพาทีมสอยแชมป์ลีก ลงเล่นทั้งหมด 28 นัด 11 คลีนชีท พร้อมกับติดทีมยอดเยี่ยมในปีนั้น นอกจากนี้ เด เกอา ยังตอกย้ำความเป็นขวัญใจแห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังถูกโหวตให้คว้ารางวัลนี้ถึง 2 สมัยซ้อน (ในฤดูกาล 2013-14 กับ 2014-15)

จอร์แดน พิคฟอร์ด - 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,270 ล้านบาท)
กลายเป็นนักเตะค่าตัวสถิติสโมสรของเอฟเวอร์ตันหลังจากบรรลุข้อตกลงย้ายจากซันเดอร์แลนด์ พิคฟอร์ด ถือเป็นการเสริมทัพรายแรกของ โรนัลด์ คูมัน ในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเซ็นสัญญากัน 5 ปี หลังจากตกลงค่าตัวกับซันเดอร์แลนด์เริ่มแรกที่ 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,062 ล้านบาท) ซึ่งอาจเพิ่มไปถึง 30 ล้านปอนด์ ขึ้นอยู่กับผลงานของทีมและผลงานของนักเตะ แม้ซีซั่นที่ผ่านมาจะไม่สามารถช่วยให้ทีมแมวดำอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้ แต่จากผลงานและลีลาป้องกันประตูที่ได้รับคำชมอยู่บ่อยครั้ง ลงเล่น 31 นัด เก็บไป 4 คลีนชีต
ส่วนในทีมชาติ พิคฟอร์ด ลงรับใช้ทีมชาติอังกฤษมาทุกรุ่นอายุตั้งแต่ ยู-16 จนถึงยู-21 และก็ถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 นอกจากนี้ยังมีชื่อเข้าชิงรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอประจำฤดูกาล 2016/17 แม้ว่าทางซันเดอร์แลนด์จะตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกก็ตาม

จานลุยจิ บุฟฟอน - 32.6ล้านปอนด์ (ราว 1,400 ล้านบาท) 
ถือเป็นดีลระดับปรากฏการณ์ในสมัยนั้นเลยทีเดียว เมื่อยูเวนตุส กล้าทุ่มเงินจำนวนถึง 32.6 ล้านปอนด์ (ราว 1,400 ล้านบาท) เพื่อกระชากตัวเขามาจากปาร์มา เมื่อปี 2001
บุฟฟอน ประสบความสำเร็จมามากมายทั้งตำแหน่งแชมป์ลีก, แชมป์ฟุตบอลโลก 2006, รางวัลถุงมือทองคำ เป็นเครื่องการันตีประสบการณ์ในวงการฟุตบอลว่าเขานี่แหละ คืออีกหนึ่งตำนานผู้รักษาประตูแห่งแดนมะกะโรนี แม้ต้องผิดหวังได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก หลังพ่ายเรอัล มาดริด 1-4 ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดย บุฟฟอน เป็นรองแชมป์รายการนี้ถึง 3 สมัย แต่จากชื่อเสียงและความสำเร็จที่ผ่านมาย่อมไม่มีใครลืมนายด่าน วัย 39 ปี รายนี้ได้อย่างแน่นอน

เอแดร์สัน - 34.7 ล้านปอนด์ (ราว 1,500 ล้านบาท) 
ผู้รักษาประตูชาวบราซิลเลียนรายนี้ ได้ทำลายสถิตินายด่านค่าตัวแพงสุดของโลกซึ่งอยู่มายาวนาน 16 ปี ของบุฟฟอนลงได้สำเร็จ
มือกาววัย 23 ปี สูง 188 เซนติเมตร เริ่มต้นเส้นทางกับทีมเยาวชนของเซา เปาโล ในบ้านเกิด ก่อนถูก เบนฟิกา ฉกเข้าแคมป์เยาวชนเมื่อปี 2009 กระทั่งได้ขึ้นชุดใหญ่ในฤดูกาล 2015-16 พร้อมกับคว้าแชมป์ลีก 2 ปีติดต่อกัน ล่าสุดคือแชมป์โปรตุกีส คัพ ชนะ วิคตอเรีย กิมาไรส์ 2-1ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่จะย้ายมาร่วมทัพ แมนฯซิตี
การย้ายสู่ถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ตำแหน่งมือ 1 รอ เอแดร์สัน อยู่ไม่ไกล เพราะ เคลาดิโอ บราโว อายุ 34 ปีแล้ว ส่วน โจ ฮาร์ท เตรียมถูกขาย ด้าน วิลลี กาบัลเยโร ถูกปล่อยฟรีไปแล้ว ซึ่งจากนี้คงต้องมาลุ้นกันว่าฟอร์มการเซฟประตูของนายด่านสถิติโลกรายนี้จะออกมาเป็นเช่นไรบนเกาะอังกฤษ

สุดท้ายนี้เชื่อว่าอันดับผู้รักษาประตูค่าตัวแพงสุดของโลกอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในไม่ช้านี้อีกครั้ง เมื่อนักเตะอย่าง จานลุยจิ ดอนนารุมมา ของเอซีมิลาน หรือกระทั่งในรายดาบิด เด เกอา ที่มีข่าวใกล้จะอำลาโอลด์ แทรฟฟอร์ดเต็มที ทำให้ตลาดนักเตะในตำแหน่งนายด่านสุดท้ายนี้ยังเป็นอีกสีสันของการซื้อ- ขายในซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ