ข่าว

วันนี้ในอดีต...เมื่อ "หมอผี" ช็อกโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้เมื่อ 27 ปีก่อน ศึกฟุตบอลโลก 1990 เกิดเรื่องฮือฮาไปทั่วโลกตั้งแต่นัดเปิดสนาม เมื่อ "หมอผี" แคเมอรูน พลิกล็อกโค่นแชมป์เก่า อาร์เจนติน่า 1-0

       8 มิถุนายน 1990 ที่สนาม จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า ศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศอิตาลีเปิดฉากขึ้นเป็นนัดแรก โดยเป็นการแข่งขันในกลุ่ม บี "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนติน่า แชมป์เก่าและเต็ง 1 ของรายการ พบกับ "หมอผี" แคเมอรูน ตัวแทนจากกาฬทวีปซึ่งเพิ่งผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้เป็นหนที่ 2 ต่อจากฟุตบอลโลกปี 1982 ที่สเปน

       สำหรับอาร์เจนติน่าชุดนั้นยังเต็มไปด้วยดาวดังระดับโลกเช่นเดียวกับเมื่อ 4 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น "เสือเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า นักเตะหมายเลข 1 ของโลกในเวลานั้น รวมถึงบรรดาซูเปอร์สตาร์ที่ค้าแข้งอยู่ในอิตาลี อย่าง อาเบล บัลโบ้-เนสเตอร์ เซนซินี่ สองคู่หูจากอูดิเนเซ่ และ เคลาดิโอ คานิกเกีย จาก อตาลันต้า ส่วน แคเมอรูน แทบจะไม่มีใครรู้จักนักเตะของพวกเขามาก่อน โดยส่วนใหญ่ถ้าไม่ค้าแข้งอยู่ในประเทศ ก็สังกัดอยู่กับสโมสรระดับล่างๆของฝรั่งเศสเท่านั้น ที่คุ้นหูหน่อยก็น่าจะเป็น โทมัส เอ็นโคโน่ นายทวารจากทีมเอสปันญ่อล ในศึก ลา ลีก้า สเปน

       หลายคนอาจคิดว่าเกมนี้จะเป็นการยำใหญ่ของแชมป์เก่าแน่นอน แต่แคเมอรูนของกุนซือ วาเลรี่ เนปอมเนียชี่ โค้ชชาวรัสเซีย วางแผนให้ลูกทีมเล่นแบบ "ถึงลูกถึงคน" จนนักเตะอาร์เจนติน่าไปไม่เป็น โดยเกมนี้ นักเตะ "หมอผี" ทำฟาล์วคู่แข่งไปกว่า 30 ครั้ง และ 1 ใน 3 คือการหยุดยั้ง ดีเอโก้ มาราโดน่า ไม่ให้สร้างสรรค์เกมได้ถนัด แต่ก็ทำให้แคเมอรูนโดนไป 3 ใบเหลืองตั้งแต่ครึ่งแรก

       ครึ่งหลัง นาทีที่ 61 แคเมอรูนต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ อ็องเดร กาน่า-บียิค ไปทำฟาล์วเคลาดิโอ คานิกเกีย ในจังหวะที่กำลังจะหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออกทันทีแบบไม่ต้องมีการเตือน 

       โมเมนตัมเหมือนจะเทมาที่ฝั่ง อาร์เจนติน่า แต่หลังจากนั้นแค่ 6 นาที กลับกลายเป็น "หมอผี" ที่มาได้ประตูขึ้นนำ จากการโหม่งของ ฟรังซัวส์ โอมัม-บียิค (ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือน้องชายของ อ็องเดร กาน่า-บียิค ที่เพิ่งจะถูกไล่ออกไปนั่นเอง)

       เวลาที่เหลือ แชมป์เก่าพยายามทุกวิถีทางที่จะตีเสมอให้ได้ แต่บรรดานักเตะแคเมอรูนก็ทุ่มกายถวายชีวิตป้องกันไว้ได้หมด แม้นาทีที่ 89 จะต้องเหลือผู้เล่นแค่ 9 คน จากจังหวะที่ เบนจามิน แมสซิ่ง ไปเสียบสกัดใส่ เคลาดิโอ คานิกเกีย แบบสุดโหดจนถูกไล่ออก แต่ก็ไม่มีผล จบเกม แคเมอรูน พลิกล็อกเฉือนชนะ อาร์เจนติน่าไปหวุดหวิด 1-0

       หลังจากนั้น แคเมอรูนก็สร้างปรากฏการณ์ต่อไปด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม บี พร้อมกับกรุยทางจนทะลุไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะพ่ายต่อ "สิงโตคำราม" อังกฤษ 2-3 ตกรอบไปแบบได้ใจแฟนบอลทั่วโลก ส่วนทางด้าน อาร์เจนติน่า แม้จะแพ้ตั้งแต่เปิดหัว แต่ก็กู้สถานการณ์จนผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้ในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด และก็ทะลุเข้าถึงรอบชิงได้เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ก่อนจะแพ้ต่อ เยอรมันตะวันตก ไป 0-1

       (คลิป Youtube // user: Grandes partidas entre seleções)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ