ข่าว

ลา ลีกากับกุนซือผู้ดี “ไม่เหมาะ หรือ ไม่คู่ควร” ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย ธนรัชต์ คูสมบัติ facebook.com/Tanaruch.Kusombut/

เริ่มต้นงานได้อย่างย่ำแย่เหลือเกินสำหรับ “โทนี่ อดัมส์” กับตำแหน่งกุนซือชั่วคราวของ “กรานาด้า” ทีมโซนท้ายตารางของ ลา ลีกา สเปน  สองนัดของอดีตกัปตันทีมอาร์เซนอล เริ่มตั้งแต่ เปิดบ้านแพ้เซลต้า บีโก้ ไป 3-0 และ และล่าสุดบุกไปแพ้เซบีย่า อีก 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

แม้ว่าจะมาเป็นแค่กุนซือชั่วคราว แต่หลายคนก็เป็นห่วงว่าจะมีโอกาสไม่น้อยทีเดียว ที่เส้นทางการคุมทีมในฟุตบอลแดนกระทิงดุ จะล้มเหลวซ้ำรอย “แกรี่ เนวิลล์  อดีตกุนซือเพื่อนร่วมชาติที่พังไม่เป็นท่ากับบาเลนเซีย

อีกทั้งกลายเป็นสิ่งที่ตอกย้ำคำถามที่สงสัยกันมาตลอดว่า กุนซือที่มาจาก “สหราชอาณาจักร”  นั้น “ไม่เหมาะ” หรือ “ไม่คู่ควร”  กับ ลา ลีกา สเปน  กันแน่?

 

ภาวะ “สมองไหล” กลางยุค 80

ในความจริงแล้วกุนซือจากสหราชอาณาจักร ที่เคยไปแสดงฝีมือในลีกสเปน ใช่ว่าจะล้มเหลวไปเสียทุกคน โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ 80-90 ที่ถือว่าเป็นยุคที่กุนซือจากเครือจักรภาพไปออกไปท่องยุทธจักรฟุตบอลยุโรปกันมากที่สุด

อันเนื่องมาจากผลงานของสโมสรฟุตบอลในอังกฤษในยุค 30 กว่าปีก่อนกำลังเป็นช่วงที่เบ่งบ่านแบบสุดขีด แต่ละทีมไปสร้างผลงานสะท้านสะเทือนทั่วทั้งทวีป ในถ้วยใบใหญ่อย่าง “ยูโรปี้ยน คัพ”  ก็มี ลิเวอร์พูล ที่เป็นเต้ยในรายการนี้ อีกทั้งยังมีทีมอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ แอสตัน วิลา ที่ผงาดขึ้นมาคว้าแชมป์ได้บางปี

ขณะที่ “คัพ วินเนอร์ส คัพ” ก็มีทีมอย่างเอฟเวอร์ตัน ที่โดดเด่นขึ้นมา ยังไม่รวม ทีมอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ อิปสวิช ทาวน์ ที่ประสบความสำเร็จในถ้วย “ยูฟ่า คัพ”  

ด้วยผลงานแบบนี้ บรรดาสโมสรยักษ์ใหญในยุโรปจึงจ้องกันตาเป็นมันเพื่อดึงกุนซือชาวบริทิชไปคุมทีม จนกระทั่งเหตุการณ์ครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี 1985 ทีมจากอังกกฤษ ถูกยูฟ่าแบนห้ามเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรป  5 ปี

จึงเป็นโอกาสดีของสโมสรทั่วยุโรป ขณะที่บรรดากุนซือเหล่านี้เองก็ต้องการหาช่องทางไปประกาศศักดาตัวเองอยู่แล้ว

ดังนั้นช่วงกลางทศวรรษที่ 80 วงการฟุตบอลอังกฤษจึงเกิดภาวะ “สมองไหล” (Brain drain)  และ ลาลีกา เป็นหนึ่งในเป็นจุดหมายปลายทาง

 

 

ทำผลงาน “มาตรฐาน” ในสเปน

ผลงานของบรรดากุนซือสหราชอาณาจักรที่รับงานใน ลา ลีกา เริ่มจาก “เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์”  กับ “บาร์เซโลน่า” ช่วงปี 1984-1987  คว้าแชมป์ล าลีกา, รองแชมป์ โกปา เดล เรย์ และ รองแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ อย่างละ 1 ครั้ง มีสถิติการคุมทีม 105 นัด  ชนะ 57 เสมอ 28 แพ้ 20 คิดเป็นสัดส่วนชัยชนะ 54.3%

ต่อมาคือ “จอห์น  ทอแช็” กับ “เรอัล โซเซียดาด” ในปี 1985-1989 พาทีมคว้ามแชมป์ โกปา เดล เรย์ ได้หนึ่งครั้ง  ก่อนที่จะไปคุม “เรอัล มาดริด” ในปี 1989-1990  และพาทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้ โดยทอแช็ก นั้นวนเวียนรับงานใน ลา ลีกา อีกหลายครั้งในยุค 90 ทั้งกับลาคอรุนญ่า, มูร์เซีย และยังได้กลับมาคุม โซเซียดาด และเรอัล มาดริด โดยมีสถิติการคุมทีมในลีกสเปนรวม 588 นัด ชนะ 256 เสมอ 152 แพ้ 170 คิดเป็นสัดส่วนชัยชนะ 43.5 %

สำหรับ “โฮเวิร์ด เคนดัลล์” อดีตตำนานของเอฟเวอร์ตันนั้น ผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับ “แอธเลติก บิลเบา” คุมทีมในช่วง 1987-1989 ไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆได้ โดยมีสถิติ  102 นัด ชนะ 44 เสมอ 29 แพ้ 29  คิดเป็นสัดส่วนชัยชนะ  43.14%

ส่วนอีกคนที่มีผลงานน่าสนใจคือ  “บ็อบบี้ ร็อบสัน” ก่อนที่จะติดยศเป็นอัศวิน มีโอกาสคุมทีม “บาร์เซโลน่า” เพียงแค่ 1 ฤดูกาล ในปี 1996-1997  ได้รองแชมป์ ลา ลีกา และคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์  รวมไปถึง แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ มีสถิติการคุมทีม 58 นัด ชนะ 38 เสมอ 12 แพ้ 8 คิดเป็นสัดส่วนชัยชนะ  65.52%

แม้ว่าจะมีคนที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งเห็นได้ชัดคือเรื่องของ “มาตรฐาน” ของผลงานที่ไม่ถึงกับ  “พังยับ” เช่นปัจจุบัน ทุกคนมีสถิติเก็บชัยชนะไม่ต่ำกว่า 40% ทั้งสิ้น

ขณะที่ ในยุคหลังของบรรดากุนซือสหราชอาณาจักรที่ไปหากินในสเปน ไล่ตั้งแต่ “คริส โคลแมน” กับโซเซียดาด อยู่ที่ 38.1%  “เดวิด มอยส์กับ กับโซเซียดาด เช่นกัน อยู่ที่ 28.57% และ  “แกรี่ เนวิลล์” กับ บาเลนเซีย 35.71%

 

 

การขาดแคลนยอดกุนซือของอังกฤษ

ความจริงแล้วผลงานความล้มเหลวในลา ลีกา อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะปัจจุบันไม่มีกุนซือชาวสหราชอาณาจักรไปคุมทีมในลีกยักษ์ใหญ่ในยุโรปเลย สะท้อนว่าทั่วยุโรปไม่มีความเชื่อมั่นในฝีมือ

ขณะที่ปัจจุบัน 20 สโมสรพรีเมียร์ลีก ชาวสหราชอาณาจักร 9 คน และเป็นอังกฤษแค่ 6 คนที่ ที่ตลกร้ายคือทั้ง 6 คน ผลงานดีที่สุดคืออันดับ 12 ของ เคร็ก เช็คสเปียร์ นายใหญ่เลสเตอร์ ซิตี้ ที่จะคุมทีมถึงจบฤดูกาล 


เช่นเดียวกับทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่หมดยุคของปู่บ็อบ กุนซือ "สิงโตคำราม" สัญชาติผู้ดี ล้วนแต่ทำผลงานชวนถอนหายใจทุกคน โดยเฉพาะ 10 ปีหลังสุด ไล่ตั้งแต่ สตีฟ แม็คคลาเรน, สจ๊วร์ต เพียร์ซ, รอย ฮ็อดจ์สัน และ แซม อัลลาไดซ์ ขณะที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต แฟนบอลก็ยังไม่เชื่อมั่นในฝีมือ
 

เป็นเรื่องที่แฟนบอลก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมชาติต้นตำรับกีฬาลูกหนังจึงหากุนซือมีฝีมือไม่ได้?
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ