ข่าว

 ใช้ศึก "คิงส์คัพ" เฟ้นกำปั้นบู๊มวยโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคมวยสากลฯ เตรียมใช้ศึก “คิงส์คัพ” เป็นเวทีตัดสินเฟ้นหานักชกลุยศึกชิงแชมป์โลก 2017 เดือน ส.ค.ที่ประเทศเยอรมนี

  

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมเตรียมรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นรายการ “ไทยแลนด์ อินวิเตชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล บ็อกซิ่ง ทัวร์นาเม้นท์ 2017 หรือศึก “คิงส์คัพ” เดิม ช่วงวันที่ 4-8 เม.ย.นี้ ที่สนามบีจีฮอลล์ รังสิต คลอง 3 จ.ปทุมธานี เวลานี้มีนักชกจาก 18 ชาติ จำนวน 19 ทีม ส่งรายชื่อเข้ามาเรียบร้อยแล้ว โดยมีเงินรางวัลรวมกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 2 ล้านบาท เป็นเดิมพันซึ่งถือว่า มากที่สุดตั้งแต่จัดการแข่งขันมา 

สำหรับ ขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทยนั้น จะแยกส่งนักชกออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดเอ และ ชุดบี เพื่อต้องการให้ทุกคนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างผลงานให้ดีที่สุด หลังจากทั้งหมดได้ชุบตัวฟิตซ้อมมาเป็นเวลาพอสมควรกับ “จูเลี่ยน ริคาร์โด้ กอนซาเลซ เซเดโย่” เฮดโค้ชมวยสากลชาวคิวบามาตั้งแต่ปีที่แล้ว ดังนั้นเราจึงต้องการพิสูจน์ผลงานของนักชกแต่ะคนว่า มีการพัฒนาดีแค่ไหนอย่างไรบ้าง อะไรที่ยังต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะตัวหลักสำคัญที่เรามีอยู่อาทิ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข อดีตเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์, “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี อดีตแชมป์เอเชีย, “เจ้าลม” สายลม อาดี อดีตเหรียญทองซีเกมส์ และ “เจ้าแดง” ธเนศ องศ์จันทร์ต๊ะ เหรียญทองแดงอินเตอร์เนชั่นแนล ที่บัลแกเรีย ยังมีข้อผิดพลาดตรงจุดไหนบ้าง ตลอดจนการศึกษาข้อมูลคู่ต่อสู้สำคัญที่เดินทางมาทั้ง คิวบา, คาซัคสถาน และ อุซเบกิสถาน 3 ชาติมหาอำนาจที่ครองเจ้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมี ออสเตรเลีย กับ ฟิลิปปินส์ ที่จะส่งนักมวยแถวหน้ามาครบทั้ง 7 รุ่น คือ รุ่น 49 กก., 52 กก., 56 กก., 60 กก., 64 กก., 69 กก.และ 75 กก.นับว่า เป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่ง

“บิ๊กชาย” นายสมชาย ยังกล่าวอีกว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ คณะกรรมการบริหารสมาคมได้ปรึกษาหารือกับทางทีมงานสตาฟฟ์โค้ชชาวคิวบาว่า จะใช้เป็นเวทีในการตัดสินและเฟ้นหานักชกที่มีผลงานดีที่สุด เพื่อได้รับโอกาสไปร่วมการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2017 ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งเวลานี้มีนักชกหลายคนที่มีผลงานคู่คี่สูสีกันมาก แต่ทุกอย่างคงต้องดูจากผลงานในศึกครั้งนี้เป็นสำคัญ เนื่องจากคู่แข่งแต่ละชาติที่เดินทางมานั้นล้วนแข็งแกร่งทั้งสิ้น หากนักชกไทยสามารถผ่านด่านทดสอบตรงจุดนี้ไปได้ เชื่อว่า อีกหลายรายการที่เหลือเราก็ไม่น่าเกรงกลัวใคร เพราะเวลานี้ทุกคนได้รับการเสริมเขี้ยวเล็บและเทคนิคต่างๆอย่างเต็มที่แล้ว ทุกอย่างอยู่บนเวทีว่า จะงัดออกมาใช้อย่างไรเท่านั้นเอง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ