ข่าว

‘กองเต’ว่าที่ผู้เล่นแห่งปีของอังกฤษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชั่วโมงนี้สำรหับตำแหน่งมิดฟิลด์ด้วยกันคงไม่มีใครเกิน เอนโกโล กองเต กองกลางของเชลซี ซึ่งเมื่อจบฤดูกาลนอกจากความสำเร็จกับต้นกัดแล้ว ยังจะมีสถิติอีกหลายอย่างตามมา

“หากเขาทำสำเร็จจะกลายเป็นผู้เล่นคนที่สองในรอบ 24 ปี ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลติด กับ 2 สโมสร ต่อจาก เอริค คันโตนา ตำนานลูกหนังชาวฝรั่งเศส ทำไว้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 1992 กับ 1993” นี่คือสถิติที่กำลังจะเกิดขึ้นจากกองกลางที่กำลังได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดชั่วโมงนี้

เอนโกโล กองเต กองกลางชาวฝรั่งเศส กำลังอยู่บนเส้นทางนำต้นสังกัดสิงโตน้ำเงินครามเข้าป้ายแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลล่าสุด หลังทีมนำเป็นจ่าฝูงของตารางพร้อมกับทิ้งห่าง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ รองจ่าฝูงอยู่ 10 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 11 นัด ซึ่งจากความยอดเยี่ยมดังกล่าวจึงไม่น่าแปลกใจที่มิดฟิลด์ วัย 25 ปี จะมีชื่อเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลผู้เล่นแห่งปีของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ รางวัลพีเอฟเอ ไปครองในปีนี้
 

สถิติ
แค่ปีเดียวหลังย้ายจาก ก็อง ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวเพียง 5.6 ล้านปอนด์ (ราว 23 ล้านบาท) เมื่อปี 2015 “กองเต” สร้างประวัติศาสตร์พา เลสเตอร์ ซิตี ซิวแชมป์ลีกสูงสุดมาครองในรอบ 133 ปีของสโมสร ก่อนที่ซัมเมอร์ที่ผ่านมาจะตัดสินใจย้ายร่วมทัพสิงห์บลูส์ ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ (ราว 1,300 ล้านบาท) พร้อมกับเป็นคีแมนย์สำคัญในระบบ 3-4-3 ของ อันโตนิโอ คอนเต กุนซือชาวอิตาเลียนในฤดูกลาลนี้ทันที
สถิติของ “ออปตา”บริษัทรวบรวมสถิติเจ้าดังของอังกฤษ ระบุว่า กองเต แท็กเกิล 175 ครั้ง และสกัดได้ 157 ครั้ง มากกว่าผู้เล่นทุกคนบนเวทีพรีเมียร์ลีก เมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ในปีนี้ลงสนามไป 26 นัดในลีก เข้าสกัดบอล 94 ครั้ง สูงสุดอันดับ 2 เป็นรองเพียง อิดริสซา กูเอเย ของเอฟเวอร์ตัน อันดับ 1 ที่ทำไว้ 102 ครั้ง ส่วนจำนวนการแย่งบอลคืนได้เมื่อทีมเสียการครองบอลอยู่ที่ 208 ครั้ง สูงสุดอันดับ 3 เป็นรองเพียง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ของลิเวอร์พูล (212 ครั้ง) และ โอริโอล โรเมอู จากเซาแธมป์ตัน (222 ครั้ง)
นอกจากการวิ่งพล่านไปทั่วสนามแล้วอีกสิ่งที่ กองเต ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก คือ การรักษาสภาพร่างกายที่เจ้าตัวแทบไม่เคยเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บมาเล่นงานจนต้องพลาดการลงสนามในเกมสำคัญโดยปีที่แล้วพลาดลงสนามให้กับเลสเตอร์ไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น จากจำนวนเกม 38 นัดในลีก ขณะที่ปีนี้มีเพียงเกมกับ บอร์นมัธ ในช่วงบ็อกซิงเดย์ เพียงนัดเดียว ที่พลาดลงช่วยสิงโตน้ำเงินครามในลีก เนื่องจากโดนโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวประโยคที่ว่า "สองในสามของโลกปกคลุมด้วยน้ำ ส่วนที่เหลือปกคลุมด้วย เอนโกโล กองเต จึงไม่ใช่เรื่องเกินเลยแต่อย่างใด


ใช้ผลงานพิสูจน์
กองเต ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักเตะที่ใช้พรแสวงมากกว่าพรสวรรค์โดยดูได้จากการใช้ผลงานในสนามเป็นเครื่องพิสูจน์ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 เจ้าของส่วนสูง 169 เซนติเมตร เพิ่งได้รับโอกาสประเดิมเส้นทางนักเตะอาชีพครั้งแรกกับ บูโลญจน์ สโมสรเล็กๆ ในฝรั่งเศส ถัดมา 2 ปี ย้ายมาเล่นให้กับ ก็อง ก่อนเป็นกำลังสำคัญพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีก เอิง ในฤดูกาล 2013/14 เวทีที่เขาฝันว่าจะได้ลงเตะสักครั้งในชีวิต และนั่นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับอาชีพค้าแข้งของเขาไปตลอดกาล เมื่อลงสนามในลีก เอิง ไปทั้งสิ้น 37 เกม เป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยให้ทีมอยู่รอดปลอดภัย จนโชคชะตานำพาให้ สตีฟ วอลช์ มือขวาข้างกาย เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือเลสเตอร์ ซิตี ในตอนนั้นหยิบยื่นโอกาสให้โยกมาค้าแข้งในอังกฤษ
กองเต เผยว่า “ช่วงอายุ 10-19 ปี เขาลงเล่นให้กับสโมสรสมัครเล่นในบ้านเกิดอยู่หลายทีมกระทั่งได้รับโอกาสจากบูโลญจน์ เขาไม่เคยวิเคราะห์ความสามารถของตัวเองสำหรับเกมฟุตบอลเลย ขณะที่เวลาเล่นเกมรับเขาแค่พยายามเอาบอลคืนมาเพราะคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อเกมเท่านั้นเอง


ในนามทีมชาติ
หลังสร้างชื่อกับ “เดอะ ฟ็อกซ์” ได้เพียงฤดูกาลเดียวโชคชะตาก็เข้าข้าง กองเต อีกครั้ง เมื่อก่อนเริ่มศึกยูโร 2016 เพียงไมกี่วัน ลาสซานา ดียาร์รา มิดฟิลด์ตัวรับที่ถูกเรียกติดทีมไปลุยฟุตบอลยุโรปในตอนนั้น เกิดได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัว ทำให้โอกาสจึงตกมาอยู่ในมือของ กองเต ก่อนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้พวกเขาเสียไปแค่ 1 ประตู ในรอบแบ่งกลุ่ม แม้สุดท้าย ขุนพลตราไก่ จะเข้าป้ายเพียงตำแหน่งรองแชมป์แต่นั่นก็ถือว่าเป็นโบนัสสำหรับนักเตะที่เพิ่งถูกเรียกตัวมาลุยทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ครั้งแรกอย่าง กองเต มากเลยทีเดียว


สุดท้ายนี้ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมที่เจ้าตัวได้สร้างไว้อาจทำให้มีอีกหลายสถิติเกิดขึ้น โดยนอกจากจะเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์กับ 2 สโมสร ต่อจาก คันโตนา แล้ว อีกสิ่งน่าสนใจก็คืิอ รางวัลผู้เล่นแห่งปีของพีเอฟเอ ซึ่งหาก กองเต คว้ารางวัลนี้มาครองได้สำเร็จ จะทำให้กลายเป็นกองกลางตัวรับที่ได้รางวัลนี้ต่อจากรอย คีน อดีตกองกลางแมนฯยูไนเต็ดที่ทำไว้เมื่อฤดูกาล 1999/2000 หรือ ในรอบ17 ปีนั่นเอง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ