”รัชนก อินทนนท์”พร้อมกลับมาล่าแชมป์

     เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วเมื่อวานที่ผ่านมา สำหรับ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือ7ของโลกชาวไทย ที่แม้จะได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ในศึกแบดมินตันโยเน็กซ์ ออล อิงแลนด์ โอเพน 2017 ที่บาร์เคลย์การ์ด อารีนา เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่12มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมทั้งที่เป็นเพียงการหวนคืนสนามรายการแรกในรอบปี ก็ทำให้กองเชียร์ได้เห็นความหวังว่า ”มิราเคิล เมย์” พร้อมจะกลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในปีนี้

สนามแรกในรอบปี

     รัชนก ร้างสนามไปนานหลายเดือน จากอาการบาดเจ็บเอ็นเข่าซ้ายซึ่งเรื้อรัง ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ต้องลงแข่งสลับกับพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ตลอด รวมถึงแมตช์ใหญ่ส่งท้ายปีในรายการแบดมินตันเวิลด์ซูเปอร์ซีรีส์ ไฟนอลส์ ที่ฝืนลงแข่งทั้งที่ยังไม่ฟิต แต่หลังจากพักฟื้นร่างกายให้พร้อมสมบูรณ์เต็มที่ สาวน้อยมหัศจรรย์คืนสนามรายการแรกด้วยเป้าหมายใหญ่กับศึกออล อิงแลนด์ ที่ยังไม่เคยมีนักแบดมินตันไทยคว้าแชมป์มาได้เลยในประวัติศาสตร์ ซึ่งตัวรัชนกเอง เข้าใกล้สุดกับตำแหน่งรองแชมป์ในปี2013 เส้นทางของรัชนกที่ถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับ5ของรายการไล่ตบคู่ปรับทีละแมตช์ ทั้งซายากะ ซาโตะ (ญี่ปุ่น)ในรอบแรก,ซื่อ หย่า ฉิง(ไต้หวัน)ในรอบสอง, รอบก่อนรองชนะเลิศ คว่ำอดีตแชมป์โลก2สมัย อย่างคาโรลินา มาริน(สเปน)ด้วยหัวใจสิงห์พลิกจากตามหลัง11-18ในเกมที่สอง หวดรวดเดียว10แต้ม กลับมาคว้าชัยชนะได้อย่างเหลือเชื่อ,รอบตัดเชือกปราบอากาเนะ ยามากุชิ(ญี่ปุ่น) ล้างตาได้สำเร็จ หลังพ่ายตกรอบในโอลิมปิก ”รีโอเกมส์” ที่ประเทศบราซิล เมื่อปีก่อน จนมาถึงรอบชิงชนะเลิศต้องเจอกับคู่ซี้อย่าง ไท่ ซื่อ ยิง มือ1ของโลกจากไต้หวัน ที่เป็นนักแบดมินตันสายเทคนิคเหมือนกัน ทั้งยังเคยขับเคี่ยวกันมาตลอดตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชน ทำให้รูปเกมออกมาคู่คี่สูสีกัน แต่พละกำลังและความแข็งแกร่งของรัชนกสู้ไม่ได้ พ่ายไป2เกมรวด รับเพียงตำแหน่งรองแชมป์เป็นสมัยที่2 แต่ก็ต้องนับว่าเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเกินความคาดหมายสำหรับแฟนลูกขนไก่ไทย ที่ไม่คาดคิดว่า รายการแรกหลังร้างสนามไปนาน รัชนก จะทำผลงานได้ดีขนาดนี้

ป้องกัน3แชมป์+ล่าแชมป์โลก

     ปีที่แล้วคือปีแห่งปรากฏการณ์ของรัชนก กับการผงาดคว้าแชมป์รายการระดับซูเปอร์ซีรีส์3รายการติดต่อกัน จนอันดับโลกพุ่งขึ้นเป็นมือ1โลก ทำให้ปีนี้ หลังจากเดินทางกลับถึงเมืองไทย รัชนกมีเวลาฟิตซ้อมติวเข้มอย่างหนักกับทีมงานผู้ฝึกสอน ประมาณ2สัปดาห์ ก่อนจะเดินทางกลับไปป้องกันแชมป์ ทั้ง3รายการ เพื่อรักษาคะแนนอันดับที่ทำไว้ เริ่มจาก “โยเน็กซ์ ซันไรส์ อินเดีย โอเพน ซูเปอร์ซีรีส์” วันที่ 28 มี.ค. - 2 เม.ย. ที่ประเทศอินเดีย, “มาเลเซีย โอเพน ซูเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์” วันที่ 4 - 9 เม.ย. ที่ประเทศมาเลเซีย และ “สิงคโปร์ โอเพน ซูเปอร์ซีรีส์” วันที่ 11 - 16 เม.ย. ที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากงานสุดหินกับการป้องกัน3แชมป์แล้ว รัชนกยังตั้งเป้าหมายกับการคว้าแชมป์โลกให้ได้อีกครั้งหลังจากเคยทำได้ในปี2013 โดยปีนี้จัดที่สกอตแลนด์ ระหว่าง วันที่21-27ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับการแข่งขันอีก2รายการ คือ ซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซีย และกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่ไต้หวัน แม้ว่ารัชนกจะยอมรับว่าเสียดายที่ไม่ได้ไปรับใช้ชาติในกีฬาภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเธอเองก็ยังไม่เคยสัมผัสเหรียญทองหญิงเดี่ยว แต่จากการหารือกับทีมงานโค้ชแล้ว รายการชิงแชมป์โลกจะเป็นอีกบททดสอบหนึ่งของตัวรัชนกว่าจะสามารถกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้งได้หรือไม่ ซึ่งนั่นคือความท้าทายและความกระหายแชมป์ของนักตบลูกขนไก่จอมเทคนิค

ความฝันสูงสุด=เหรียญโอลิมปิก

     แน่นอนว่าความฝันของนักกีฬาทุกคนทุกประเภทคือการได้ครอบครองเหรียญการแข่งขันกีฬาของมวลมนุษยชาติ อย่าง”โอลิมปิกเกมส์” ซึ่งตัวรัชนกเองก็เช่นกัน นักตบลูกขนไก่สาว ผิดหวังอกหักกับการแข่งขัน2ครั้งที่ผ่านมา ทั้งแพ้รอบก่อนรองชนะเลิศ ในลอนดอนเกมส์2012 ที่ประเทศอังกฤษ และร่วงรอบ2 ในรีโอเกมส์2016 ที่ประเทศบราซิล ทำให้ป้ายต่อไปของโอลิมปิกฤดูร้อนที่”โตเกียวเกมส์”ประเทศญี่ปุ่น อีก3ปีข้างหน้า จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของรัชนกที่หวังคว้าเหรียญสักเหรียญให้ได้เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการแบดมินตันไทย ส่วนการจะกลับขึ้นสู่อันดับ1โลกอีกครั้งนั้น รัชนก มองเป็นเป้าหมายรอง โดยชี้ว่าอันดับ1-8โลกในเวลานี้ ทุกคนถือว่าฝีมือทัดเทียมกันหมด พร้อมเอาชนะกันได้เสมอ ดังนั้น มือ1โลกสำหรับเธอจึงไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่การรักษาสภาพร่างกายและมาตรฐานฝีมือของตัวเองให้อยู่ในระดับสูงให้ยาวนานที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่เธอใส่ใจมากกว่า

     เห็นฟอร์มการคัมแบ็คอันยอดเยี่ยมและความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมของสาวน้อยมหัศจรรย์ ตลอดปีนี้แฟนแบดมินตันชาวไทย ได้ลุ้นส่งกำลังใจให้”รัชนก อินทนนท์”กันอย่างสนุกแน่นอน