"จอห์นสัน"ซิวแชมป์พร้อมขึ้นมือ1โลก

          ศึกกอล์ฟพีจีเอทัวร์ “เจเนซิส โอเพ่น” ชิงเงิน 7 ล้านดอลลาร์ ที่ริเวียรา คันทรีคลับ พาร์ 71 ในเมืองแปซิฟิก ปาลิซาเดส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการตีในรอบสุดท้าย ดัสติน จอห์นสัน โปรชาวอเมิรกัน เจ้าของแชมป์ยูเอส โอเพ่น 2016 ออกสตาร์ทในตำแหน่งจ่าฝูง ก่อนตีประคองตัวเก็บ 3 เบอร์ดีที่หลุม 1, 2, 6 จากนั้นมาพลาดเสียโบกีที่หลุม 9, 15, 16 จบวันมีแค่ อีเวนพาร์ 71 สกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 267 ซึ่งดีพอจะคว้าแชมป์ไปครองพร้อมเงินรางวัล 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42 ล้านบาท) โดยทิ้งห่างอันดับ 2 ร่วมอย่าง โธมัส ปีเตอร์ส จากเบลเยียม ที่เร่งหวดเข้ามา 8 อันเดอร์พาร์ 63 และ สกอตต์ บราวน์ โปรเจ้าถิ่น ที่เก็บเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 67 ไปแบบขาดลอยถึง 5 สโตรค
          จากชัยชนะในนัดนี้ ส่งผลให้ จอห์นสัน วัย 32 ปี คว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ได้เป็นรายการที่ 13 ในอาชีพ พร้อมเลื่อนจากมือ 3 ของโลก ขึ้นมาครองบัลลังก์มือ 1 ของโลกได้สำเร็จ
          ส่วน เจสัน เดย์ โปรชาวออสซี่ รอบสุดท้ายที่อีเวนพาร์ 71 สกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 286 จบที่ 64 ร่วม ทำให้ต้องร่วงไปรั้งมือ 2 ของโลกหลังเป็นมือหนึ่งมานาน 47 สัปดาห์ และเบียดให้ รอรี่ แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ ที่หยุดพักรักษาอาการบาดเจ็บซี่โครง หล่นไปอยู่ที่ 3 ของโลก
          "ผมเชื่อมั่นในตัวเอง ว่าผมคือผู้เล่นชั้นยอด ดีที่สุดในโลก ก่อนนี้ผมพูดไม่ได้ว่าตัวเองคือนักกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ผมพูดได้แล้ว" จอห์นสัน กล่าวในที่สุด