ท่องยุทธจักร ลูกหนังโลก : โดย...จิตติ
เป็นว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล โดนโทษแบนจากข้อหาผลักอกผู้ตัดสินที่ 4 ในเกมชนะเบิร์นลีย์ด้วยการห้ามคุมทีมข้างสนาม 4 นัด และปรับเงินอีกเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งกำลังจะเป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่าโทษเพียงเท่านี้ไม่ได้ทำให้บรรดาผู้จัดการทีมหลาบจำ
ในรายของเวนเกอร์ นอกจากจะมีการต่อว่าผู้ตัดสินในจังหวะที่เสียจุดโทษแล้ว ยังมีการถึงเนื้อถึงตัวก่นด่า ทำให้กุนซือรายนี้จะไม่คุมทีมข้างสนามสักช่วงหนึ่ง แต่ที่ผ่านมามีสิ่งที่บ่งบอกว่าโทษแบบนี้แทบจะไม่มีผลอะไรกับผลงานของทีม
ก่อนหน้านี้ เวนเกอร์ มักจะมีเรื่องมีราวกับผู้ตัดสินใจยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นเหตุให้ถูกแบนถึง 3 ครั้งในรอบ 12 เดือน มีเกมที่ไม่ได้คุมทีมข้างสนามอยู่ 6 นัด แต่อาร์เซนอล ยังเก็บชัยชนะได้ถึง 5 นัดเมื่อ เวนเกอร์ นั่งอยู่บนสแตนด์
ขณะที่ตัวอย่างของ “เฟอร์กี” เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ก็มีเหมือนกันคือในปี 2011 เฟอร์กี โดนแบนห้ามลงไปยืนข้างสนามอยู่ 5 นัด แต่ปีศาจแดงก็ยังมีผลงานชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด
รายของ อลัน พาร์ดิว สมัยที่คุมทีม “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล เมื่อปลายปี 2014 ก็โดนแบนยาวจากข้อหาใช้หัวโขกนักเตะฝ่ายตรงข้าม แต่นิวคาสเซิล ก็ไม่ตกชั้นและทำอันดับไปอยู่กลางตารางอีกต่างหาก
อีกตัวอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานคือรายของ ชูเซ มูรินโญ ที่ถูกห้ามคุมปีศาจแดงข้างสนามมาแล้ว 2 นัดในฤดูกาลนี้ แต่ทีมก็ยังบุกชนะ สวอนซี 3-1 และชนะเวสต์แฮม 4-1 ในลีกคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ดังนั้นเรื่องลงโทษแบนผู้จัดการทีมเลือดร้อน ปากไว ด้วยการแบนห้ามคุมทีมข้างสนาม ไม่ใช่บทลงโทษที่บรรดากุนซือทั้งหลายต้องกลัว หรือเมื่อมีการปรับเงินด้วยก็เพียงหลักหมื่นปอนด์ไม่ได้ทำให้กุนซือค่าเหนื่อยแพงต้องระคายเคืองอะไร
ทางที่ดีหากเอฟเอ ต้องการเอาจริงกับเรื่องนี้ก็น่าจะหาบทลงโทษที่หนักขึ้นอีกหน่อย อันที่จริงแล้วถ้าเอากฎหมายที่ใช้ปรับเงินผู้ขับรถเร็วเกินกำหนดมาใช้บ้างก็คงดี เพราะไม่มีจำนวนเงินที่แน่นอน แต่จะปรับจากรายได้ 1 สัปดาห์ครึ่ง
อย่างกรณีของเวนเกอร์ ต้องเสีย 239,422 ปอนด์ ส่วนของมูรินโญ จะเป็น 346,153 ปอนด์
ถ้าเอากฎนี้มาใช้ บรรดาผู้จัดการทีมน่าจะเรียบร้อยขึ้นอีกเยอะ
-------------------------
(ท่องยุทธจักร ลูกหนังโลก : ไร้ผล : โดย...จิตติ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง