ข่าว

“สิงห์ทอง อคาเดมี” ก้าวที่ 2 ในเส้นทางลูกหนัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โสภณ เพชรแท้...เรื่อง // อธิพัชร์ โภคินพิทยนันท์...ภาพ


               ชื่อของ "อิศวะ สิงห์ทอง” หรือ จ่าฮอต หากย้อนไปในเส้นของฟุตบอลทีมชาติไทยนี่คือส่วนหนึ่งของผู้เล่นทีมชาติไทยในขณะนั้นได้อันดับ 4 ในเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ ปี 2545, แชมป์ฟุตบอลแห่งชาติอาเซียน หรือไทเกอร์คัพ จัดขึ้นที่อินโดนีเซีย ปี 2545 และแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 22 จัดขึ้นที่เวียดนาม ปี 2546

               อาจกล่าวได้ว่านั่นเป็นช่วงหนึ่งที่วงการฟุตบอลไทยบันทึกเอาไว้ถึงนักฟุตบอลที่เล่นในสไตล์ดุดัน เจ้าของหมายเลข 8 ในเส้นทางฟุตบอล สำหรับ “จ่าฮอต” นักเรียนจ่าอากาศ จากการเป็นนักฟุตบอลให้สโมสรทหารอากาศ กระทั่งติดธงไตรรงค์และสร้างประสบการณ์ที่ท้าทายด้วยการไปค้าแข้งอยู่ที่เวียดนามนาน 10 ปีและกลับมาไทยเป็นนักเตะให้หลายสโมสรไม่ว่าจะเป็นเชียงราย ยูไนเต็ด, เชียงใหม่ เอฟซี ต่อเนื่องมาถึงทีโอที เอสซี เป็น 20 ปีในเส้นทางฟุตบอล

               อิศวะ สิงห์ทอง ตัดสินใจแขวนสตั๊ดเมื่อเข้าสู่ฤดูกาล 2016 ของฟุตบอลอาชีพและผันตัวเองไปสู่การเป็นโค้ชให้อคาเดมีของทีมฟุตบอลเยาวชนทหารอากาศเพราะความผูกพันที่มีอย่างยาวยาน กระทั่งพฤศจิกายนที่ผ่านมา จ่าฮอตเริ่มงานใหม่ในเส้นทางฟุตบอลด้วยการจัดตั้ง "สิงห์ทอง อคาเดมี” โดยเปิดสอนทุกเสาร์-อาทิตย์ ที่สนามคลับ 69 ถนนหทัยราษฎร์-สายไหม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นการนำเอาประสบการณ์ในเส้นทางฟุตบอลตลอด 20 ปีมาถ่ายทอดสู่เยาวชน 

               อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยให้สัมภาษณ์ “คม ชัด ลึก” ว่าการเปิด “สิงห์ทอง อคาเดมี” ถือเป็นก้าวที่สองในเส้นทางฟุตบอล โดยก้าวแรกคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพตลอด 20 ปี กระทั่งเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องปลดระวางจึงหันมาจัดทำอคาเดมี ดังนั้น “สิงห์ทอง อคาเดมี" จึงเป็นการขับเคลื่อนชีวิตให้ก้าวไปอีกขั้นเป็นการนำเอาประสบการณ์ทั้งการเป็นนักฟุตบอลกระทั่งการเป็นโค้ชให้อคาเดมีมาเป็นโมเดลในการสร้าง "สิงห์ทอง อคาเดมี" อคาเดมีแห่งนี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้พื้นฐานด้านฟุตบอลให้เยาวชนและเป็นสถานที่ที่จะดึงเยาวชนออกห่างจากการเล่นเกมมาเป็นการออกกำลังกาย

 

“สิงห์ทอง อคาเดมี” ก้าวที่ 2 ในเส้นทางลูกหนัง

อิศวะ สิงห์ทอง

 

               “จริงอยู่ที่อคาเดมีเกิดขึ้นมากมาย เพียงแต่สิ่งที่ผมและทีมงานสอนคือเราจะเอาความเป็นมืออาชีพในวงการฟุตบอลมาปูพื้นฐานให้เยาวชน สิ่งที่ทุกคนจะได้เรียนรู้จากที่นี่จะมากกว่าทักษะทั่วไป เพราะเป็นการคำนึงถึงการทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งชีวิต นำเอาสิ่งที่เรียนรู้จริงมาสอนให้ผู้เรียน ผมโชคดีที่ได้เพื่อนนักฟุตบอลมาร่วมเป็นวิทยากรไม่ว่าจะเป็น เจษฎา จิตสวัสดิ์, ภัทร ตั้งอนุรัตน์, ศุภชัย คมศิลป์, กฤษณะ กลั่นกลิ่น ทุกคนล้วนมีโปรโฟล์ทั้งฟุตบอลอาชีพและการเล่นให้ทีมชาติ นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้หลักประกันแก่ผู้ปกครองถึงความมั่นใจในสิ่งที่วิทยากรจะถ่ายทอดไปสู่ผู้เรียน”

               อิศวะกล่าวด้วยว่า นอกจากความช่วยเหลือของพี่น้องในวงการฟุตบอลแล้ว ความช่วยเหลือจากผู้สนับสนุนไม่ว่าจะเป็น ธารา พฤกษ์ชะอุ่ม จากแกรนด์สปอร์ตกรุ๊ป, สนามคลับ 69 และครอบครัวสิงห์ทอง ที่เป็นแรงผลักดันให้อคาเดมีแห่งนี้ก้าวไปได้ เพราะการทำอคาเดมีให้ได้รับการยอมรับไม่ใช่งานง่ายและนี่คือการร่วมต่อจิ๊กซอว์ส่วนที่สองในเส้นทางฟุตบอลในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อรอวันกลับลงสู่งานภาคสนามในบทบาทของโค้ชฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว

               “ผมอยู่กับฟุตบอลมาทั้งชีวิตและสิ่งที่ผมอยากไปให้ถึงคือการทำหน้าที่โค้ชฟุตบอลลีกอาชีพ หากทำสำเร็จจะเป็นการตอบโจทย์ชีวิตผมอย่างแท้จริง วันนี้ผมกำลังทำงานหนักในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ผ่านงานอคาเดมี” อิศวะ กล่าว

               วันนี้ อิศวะ สิงห์ทอง อดีตนักเตะทีมชาติไทยวัย 36 ปี ในเส้นทางชีวิตที่ท้าทายอีกด้านเพื่อไปให้ถึงปลายทางของคำว่า “ชีวิตนักฟุตบอล” อย่างแท้จริง

 

 

---------------------------

(“สิงห์ทอง อคาเดมี” ก้าวที่ 2 ในเส้นทางลูกหนัง : โสภณ เพชรแท้...เรื่อง // อธิพัชร์ โภคินพิทยนันท์...ภาพ)

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ