ข่าว

“ซิโก้” รับหนักใจ เตะเกมแรกอิเหนา วางคิว11ธ.ค.เดินทาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แข้ง “ช้างศึก” วางคิววันที่ 11 ธ.ค.ยกพลบุก อินโดนีเซีย เตะ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” รอบชิงฯ นัดแรก 14 ธ.ค. กุนซือใหญ่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง รับหนักใจ

    ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขัน 2 นัดเหย้า-เยือน นัดแรก วันที่ 14 ธันวาคมนี้ โดย อินโดนีเซีย จะพบ ไทย ที่สนามปากานซารี เมืองโปเกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นนัดที่ 2 วันที่ 18 ธันวาคม ไทย พบ อินโดนีเซีย ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีถ่ายทอดสดให้ชมทุกนัด
    ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ทัพ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนมีโปรแกรมซ้อมแค่ช่วงเช้าภายในที่พักโรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดา โดยผู้เล่น 11 คนแรกที่ลงในเกมถล่ม เมียนมาร์ 4-0 ลงสระว่ายน้ำเพื่อผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อ ส่วนคนที่เหลือซ้อมเบาๆด้วยการวิ่งเพื่อรักษาสภาพร่างกาย
    “ซิโก้” เปิดเผยว่า ทีมจะซ้อมในวันที่ 10 ธันวาคมนี้อีก 1 ครั้งเท่านั้น จากนั้นวันที่ 11 ธันวาคม จะออกเดินทางไปยัง ประเทศอินโดนีเซีย แต่ต้องรอเช็กเรื่องการเดินทางให้พร้อมก่อน หากมีตั๋วเครื่องบินสามารถเดินทางตอนเช้าได้เมื่อไปถึงแล้วก็จะลงฝึกซ้อมในช่วงเย็นต่อทันที หลังจากนั้นทีมจะมีเวลาฝึกซ้อมอีก 2 วันก่อนแข่งขันวันที่ 14 ธันาคม
    “เมื่อเดินทางถึงอินโดนีเซียแล้วอาจจะต้องนั่งรถต่อไปอีกเมืองราว 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากสนามแข่งขันไม่ได้อยู่ในจาการ์ตา แต่คิดว่า สภาพนักเตะคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทีมได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายนักเตะเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว อีกทั้งเวลาเดินทางไปก็ไม่กี่ชั่วโมง ต่างจากตอนไปแข่งแถวตะวันออกกลางใช้เวลานาน ตรงนี้คิดว่าไม่น่ามีผลอะไร”
    กุนซือทีมชาติไทยเผยต่อว่า สำหรับอาการบาดเจ็บของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ต้องเปลี่ยนตัวออกในเกมกับเมียนมาร์นั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อาการไม่หนักมาก ดูแล้วพร้อมที่จะลงเล่นกับอินโดนีเซียแน่นอน ซึ่งการไปเยือนในนัดแรกถือว่าไม่ง่าย แม้ทีมชาติไทยจะเคยชนะ อินโดนีเซีย มาแล้วในรอบแรกก็ตาม
    “อินโดนีเซียแสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าไม่เก่งจริงคงผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเตรียมทีมชาติไทยให้พร้อมที่สุด ตอนนี้ได้ทำการบ้านหาข้อมูลไว้หมดแล้ว ทั้งตัวผู้เล่นและระบบการเล่นต่างๆ สิ่งที่ยากก็คือ การที่ต้องไปเยือน ซึ่งนัดแรกที่เราชนะ 4-2 ทำให้อินโดนีเซียเห็นจุดอ่อนของเราเช่นกัน”
    “ซิโก้” กล่าวอีกว่า เกมรับของอินโดนีเซียถือว่า ทำได้ดี กองหลังรูปร่างสูงใหญ่ แบ็กซ้ายเติมเกมได้ดี และมีความฟิต ส่วนกองหน้ามีผู้เล่นโอนสัญชาติมาถือว่า ไม่ธรรมดา ดังนั้นต้องวางแผนให้ดีเพื่อปิดจุดอ่อนไม่ให้เขาโจมตีให้ได้ เป้าหมายคือคว้าแชมป์เท่านั้น ส่วนการจะเป็นแชมป์แบบชนะทุกนัดเพื่อทำสถิติใหม่นั้นไม่ได้คิด
    “เป้าหมายขอทีมคือการเป็นแชมป์ ตอนนี้คิดแต่เพียงว่า จะเก็บชัยชนะไปทีละนัด ก้าวไปทีละก้าว ทุกเกมที่ลงสนามล้วนมีความกดดันในตัวอยู่แล้วเพราะทีมต้องการชนะ ถ้าทีมสามารถเอาชนะและคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จก็จะเป็นการสร้างสถิติขึ้นเองอยู่แล้ว” ซิโก้ กล่าวปิดท้าย
    สำหรับทีมชาติไทยผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศทัวนาเมนต์นี้เป็นครั้งที่ 8 เคยได้แชมป์ 4 สมัยเท่ากับ สิงคโปร์ หากครั้งนี้ “ช้างศึก” คว้าแชมป์จะเป็นทีมที่ได้แชมป์มากที่สุด 5 สมัยทันที ส่วน อินโดนีเซีย เข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 5 หลังได้รองแชมป์มาแล้ว 4 สมัย โดยเป็นการแพ้ไทยในรอบชิงชนะเลิศ 2 ครั้งในปี 2002 และ 2002
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ