ข่าว

"ช้างศึก"ถึงไทย “ซิโก้”สั่งลุยต่อนัด 2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แข้ง “ช้างศึก” เหินฟ้ากลับถึงไทย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง สั่งลูกทีมมีสมาธิลุยต่อในเกม “เอเอฟเฟ ซูซูกิคัพ 2016” รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 กับ เมียนมาร์

                   นักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่บุกไปชนะ เมียนมาร์ 2-0 ในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่กรุงย่างกุ้ง เดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้วเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 16.55 น. ด้วยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ทีจี 302 โดยทีมชาติไทยมีคิวเตะรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 กับ เมียนมาร์ วันที่ 8 ธันวาคมนี้ เวลา 19.00 น.ที่ราชมังคลากีฬาสถาน

                   “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนเดินทางกลับได้นำนักเตะลงฝึกซ้อมเบาๆบริเวณที่พัก โรงแรมโรสการ์เดน ผู้เล่นกลุ่มที่ลงสนามในเกมกับ เมียนมาร์ ให้คลายกล้ามเนื้อลงสระน้ำ ส่วนที่เหลือวิ่งในรูปแบบต่างๆ สำหรับเย็นวันนี้จะไม่มีการฝึกซ้อมปล่อยให้นักเตะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง

                   “แม้เกมแรกทีมชาติไทยจะชนะมา 2-0 แต่ยังต้องการชัยชนะในนัดที่ 2 ดังนั้นจะจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามแน่นอน และได้ย้ำว่าห้ามประมาทอย่างเด็ดขาด ทุกคนต้องมุ่งมั่นเหมือนเดิม เนื่องจากเคยมีบทเรียนมาแล้ว เมื่อรอบชิงชนะเลิศ 2 ปีก่อน นัดแรกชนะ มาเลเซีย 2-0 แต่พอนัด 2 ไปโดนยิงนำ 3 ลูก ยังดีที่กลับมาคว้าแชมป์ได้ในที่สุด” ซิโก้ กล่าว

                   กุนซือ “ช้างศึก” เผยต่อว่า ทีมชาติไทยยังมีภารกิจที่ต้องทำต่อ เป้าหมายของทีมคือากรผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศและคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ดังนั้นทุกคนต้องมุ่งมุ่นกันต่อไป ทีมจะไม่ปล่อยนักเตะออกจากแคมป์และจะปักหลักซ้อมอยู่ที่กรุงเทพมหานครต่อทันทีในวันที่ 6-7 ธันวาคมนี้เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดสำหรับเกมในวันที่ 8 ธันวาคม

                   “สิ่งที่ต้องแก้ไขจากที่เห็นในเกมแรกคือความเฉียบขาด แน่นอนว่าในเกมฟุตบอลไม่มีอะไรง่าย แต่เราต้องแก้ตรงจุดนี้ให้ได้ ขณะที่ เมียนมาร์ จะต้องมาเจอความกดดันจากเสียงเชียร์ของแนฟบอลไทยบ้าง เชื่อว่าหากเราไม่ประมาทเราจะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้ตามเป้าหมาย ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตูนั้นเชื่อว่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้อีกแน่นอน” ซิโก้ กล่าวอย่างมั่นใจ

                   สำหรับทีมชาติไทยหากคว้าแชมป์ได้สำเร็จจะแซง สิงคโปร์ ที่เคยได้แชมป์ 4 ครั้งเท่ากันขึ้นไปทำสถิติใหม่เป็นแชมป์สมัยที่ 5 มากกว่าทุกชาติ รวมถึง “ช้างศึก” ที่ชนะรวดมาแล้ว 3 เกมมีสิทธิ์ลุ้นทำสถิติชนะรวดทุกนัดได้เป็นชาติแรกนับตั้งแต่การแข่งขันเปลี่ยนมาเป็นระบบเหย้า-เยื่อนในรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศตั้งแต่ปี 2002

                   นอกจากนั้น “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตูขึ้นนำตำแหน่งดาวซัลโวยังได้ลุ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดสมัยที่ 3 ของตัวเองอีกด้วย หลังเคยได้ดาวซัลโวร่วมเมื่อปี 2008 และดาวซัลโวเดี่ยวเมื่อปี 2012 มาแล้ว รวมถึงมีลุ้นทำสถิติยิงประตูมากที่สุดตลอดกาลของทีมชาติไทยในทัวนาเมนต์นี้ด้วยหลังยิงไปแล้วทั้งหมด 14 ประตู ซึ่งสถิติเก่า “โย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ยิงไว้ที่ 15 ประตู

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ