“มุ้ย” รอวันทุบสถิติดาวยิงอาเซียน

               “ช้างศึก” ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสมราคา “แชมป์เก่า” และแชมป์ 4 สมัย ของศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 เมื่อผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ตั้งแต่เกมนัดที่ 2 ของรอบแรก

               ทีมชาติไทย อยู่กลุ่ม เอ ร่วมกับ “เจ้าภาพ” ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ โดยเกมแรกสอย อินโดนีเซีย 4-2 และนัด 2 เชือด สิงคโปร์ 1-0 ทำให้มี 6 แต้มเต็ม ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทันที ทั้งที่เหลือเกมอีก 1 นัด พบ “เจ้าภาพ”

               หนำซ้ำ “ช้างศึก” ยังเข้ารอบในฐานะ “แชมป์กลุ่ม” เนื่องจากหลังจบนัดที่ 2 ปรากฏว่าอันดับ 2 ฟิลิปปินส์ มีแค่ 2 คะแนน อันดับ 3 และ 4 อินโดฯ กับ สิงคโปร์ มีทีมละ 1 คะแนน นั่นหมายความว่าเกมนัดสุดท้าย ต่อให้ไทยแพ้ก็คว้าแชมป์กลุ่มอยู่ดี

 

 

               นี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมชาติไทย และไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ลงทำศึก

               นอกเหนือจากผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงคือการทำประตูของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าหมายเลข 10 ที่ในศึกชิงแชมป์อาเซียนหนนี้ ได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขน “กัปตัน” ทีมชาติไทยด้วย

               ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 “มุ้ย” ลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งแรก ในฐานะกองหน้าตัวสำรอง เพราะเป็นดาวรุ่ง ทว่า ธีรศิลป์ กลับซัดไปถึง 4 ประตู คว้าดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ ร่วมกับ บูดี ซูดาโซโน จากอินโดนีเซีย และอากู คาสเมียร์ จากสิงคโปร์ ที่ซัดคนละ 4 ประตูเท่ากัน

 

วรวุธ ศรีมะฆะ

 

               แต่น่าเสียดายที่ธีรศิลป์ ชวดคว้าแชมป์กับทีมชาติไทย เพราะนัดชิงชนะเลิศ แพ้ เวียดนาม สกอร์รวม 2-3 แม้ว่านัดชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 “มุ้ย” จะทำประตูได้ด้วยก็ตาม

               ต่อมาปี 2010 ธีรศิลป์ มีโอกาสบวกสกอร์ให้ตัวเองเพิ่ม ทว่าน่าเสียดายที่ผลงานของทีมชาติไทยไม่ดีเอาเสียเลย และต้องตกรอบแรกท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอลชาวไทย

               อย่างไรก็ตามในปี 2012 ธีรศิลป์ กลับมาอีกครั้ง พร้อมพา ไทยเข้าชิงชนะเลิศ แต่น่าเสียดายที่นัดชิงต้องปราชัยให้แก่สิงคโปร์ สกอร์รวม 2-3 แต่ธีรศิลป์ได้รางวัล “ดาวยิงสูดสุด” มาปลอบใจ ด้วยการซัดไป 5 ประตู

 

 

               ปี 2014 “ช้างศึก” คว้าแชมป์มาครองได้อีกครั้ง แต่ “มุ้ย” ไม่มีส่วนร่วมกับทีม เพราะไม่มีชื่อติดไปทำศึก อย่างไรก็ตาม 4 ประตูในปี 2008 และ 5 ประตูในปี 2012 ทำให้ “มุ้ย” ซัดรวม 9 ลูกในศึกชิงแชมป์อาเซียน มีโอกาสพาตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ตลอดกาลของทัวร์นาเมนต์

               โดยปี 2016 ที่กำลังแข่งขันกันอยู่นี้ “มุ้ย” ประเดิมสนามเกมแรกด้วยการซัดแฮตทริกใส่อินโดนีเซีย ให้ไทยชนะ 4-2 ซึ่งนั่นคือประตูที่ 10, 11 และ 12 ของเจ้าตัวในรายการนี้

               จำนวน 12 ประตูดังกล่าว ทำให้ “มุ้ย” ขึ้นมาเป็นดาวยิงอันดับ 2 ของทีมชาติไทย เทียบเท่า “ซิโก้” และเข้าใกล้การทำลายสถิติต่างๆ ของรุ่นพี่ที่เคยทำไว้ต่างๆ นานา

 

เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์

 

               สถิติการทำประตูสูงสุดของทีมชาติไทย ต่อหนึ่งทัวร์นาเมนต์ ในรายการชิงแชมป์อาเซียน เป็นของ “โย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ซึ่งสังหารไป 15 ลูก ในปี 1996 รวม 3 ลูก, 1998 รวม 3 ลูก, 2000 รวม 5 ลูก และ 2002 รวม 4 ลูก นั่นหมายความว่า “มุ้ย” ต้องการอีก 3 ลูก จะทาบสถิติของวรวุธ และขออีก 4 ลูก จะทำลายสถิติของรุ่นพี่ทันที

               อย่างไรก็ตามสถิติยิงรวมสูงสุดในรายการเป็นของ นอห์ อลัมห์ ชาห์ จากสิงคโปร์ ที่ยิงไป 17 ลูก ฉะนั้น “มุ้ย” ต้องยิงอีก 6 ลูก ถึงจะทำลายสถิติดาวยิงตลอดกาล

               ส่วนอีกหนึ่งสถิติที่ “มุ้ย” มีโอกาสทำลาย คือยิงประตูสูงสุดต่อหนึ่งทัวร์นาเมนต์ ซึ่งปัจจุบันสถิติดังกล่าวของทีมชาติไทย เป็นของ “อัลเฟรด” เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ ที่ยิงในปี 1996 รวม 7 ลูก

               ทว่าสถิติตลอดกาลยังเป็นของนอห์ อลัมห์ ชาห์ จากสิงคโปร์เจ้าเก่า ที่ยิงรวดเดียวในปี 2007 รวม 10 ลูกด้วยกัน

 

นอห์ อลัม ชาห์ (สิงคโปร์)

 

               “ผมไม่ทราบถึงสถิติการยิงประตูของรายการนี้มากนัก แต่คิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรให้ทีมชาติไทยเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดแค่นั้นเอง” ธีรศิลป์ กล่าว

               “แน่นอนว่าตำแหน่งของผมคือต้องทำประตู ดังนั้นจะพยายามอย่างเต็มที่ ส่วนสถิติหากทำลายได้ก็น่าภาคภูมิใจ”

               “มุ้ย” มีโอกาสทำลายสถิติต่างๆ ได้ในปีนี้เพราะยังเหลือโปรแกรมให้เตะอีกอย่างน้อย 2 นัด ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งหากเข้าชิงชนะเลิศ ก็จะเพิ่มโอกาสมากขึ้นไปกว่าเดิม

               อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถทำลายสถิติต่างๆ ได้ในปีนี้ ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะจบลง เพราะในวัยเพียง 28 ปี ยังมีเวลาให้ธีรศิลป์ ได้ไล่ล่าประตูอีกอย่างน้อย 2 ปีข้างหน้า

               ฉะนั้นตำแหน่ง “ดาวยิงอาเซียน” คงไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป...ขอแค่รอวันเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น!!!