ท่องยุทธจักรลูกหนังโลก : โดย...จิตติ
ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าฟอร์มการเล่นของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล น่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แม้ว่า “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี จะคว้าชัยชนะรวดไปแล้ว 6 นัด ซึ่งตอนนี้ทุกคนคงมีมติเอกฉันท์ว่าหากจะมีทีมใดเอาชนะ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้ก็ต้องเป็นหงส์แดงของ เจอร์เกน คลอปป์ นี่แหละ
เจอร์เกน คลอปป์ ใช้เวลา 1 ฤดูกาลปรับโฉมของลิเวอร์พูลให้เป็นทีมที่ดุดัน มีประสิทธิภาพทั้งเรื่องผลการแข่งขัน และในแง่ความสนุกสนานของแฟนบอล ชนิดที่น่าจะจริงอย่างที่เจ้าตัวว่าเอาไว้ว่าแนวรุกของทีมตอนนี้เป็นแนวรุกระดับ “เวิลด์คลาส”
การปรับให้ลิเวอร์พูลเป็นแบบนี้ได้ ต้องยกความดีความชอบให้ คลอปป์ เพียงผู้เดียวที่ทำให้แนวรุกที่มีผู้เล่นอย่าง อดัม ลัลลานา, ฟิลิปเป คูตินโญ, โรแบร์โต ฟีร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน เมื่อเล่นร่วมกันแล้วเป็นแนวรุกที่สุดอันตรายได้
เป็นการพิสูจน์ว่าไม่จำเป็นจะต้องซื้อนักเตะแพงๆ ระดับ 50 หรือว่า 100 ล้านปอนด์ เหมือนทีมใหญ่ทีมอื่นๆ
จากผลงานแบบนี้ชี้ชัดว่าจุดสำคัญคือเรื่องของระบบทีมมากที่สุด ความเร็วทั้งในช่วงที่มีบอล และไม่มีบอลของหงส์แดงทำได้อย่างเหลือเชื่อ
หลังจากบุกชนะทั้งเชลซี และอาร์เซนอล เกมที่แฟนเดอะ ค็อป เฝ้ารอคือเกมในวันที่ 18 ตุลาคม ที่จะเล่นเกมแดงเดือดกับ “ปีศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์ รวมทั้งมั่นใจว่าน่าจะชนะปีศาจแดงได้
หากทำได้อย่างที่คิดก็จะมีเวลาโกยแต้มและทำฟอร์มกดดัน แมนฯ ซิตี ก่อนจะไปเจอกันจริงๆ เอาในวันสิ้นปี
สิ่งที่น่าเสียดายคือคู่นี้เจอกันช้าไปหน่อย ถ้าเจอกันตอน ลิเวอร์พูล ฟอร์มขึ้นๆ แล้ว ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ขึ้นชื่อว่าเกมรับแย่มีโอกาสโดน
ถ้ามองอีกแง่ ความสมบูรณ์แบบในช่วงต้นฤดูกาลอาจจะทำให้การลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูล ลำบากสักหน่อย แต่ระยะยาวแล้ว ลิเวอร์พูล จะก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของอังกฤษและยุโรปได้แน่ เพียงแต่อาจจะถูกตัดตอนซะก่อน
เมื่อ คลอปป์ ทำทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อไร เมื่อนั้น ลิเวอร์พูล มีโอกาสสูงที่จะต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีม
เอาแค่ตอนนี้ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ก็น่าจะจองคิวเอาไว้แล้ว ไหนจะมี “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่โยอาคิม เลิฟ น่าจะวางมือในอีก 2 ปีข้างหน้า
--------------------------
(ท่องยุทธจักรลูกหนังโลก : อยู่ไม่นาน : โดย...จิตติ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง