ข่าว

โรนัลโด้เดี้ยง แต่โปรตุเกสแชมป์ยูโร2016

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ฝอยทอง" โปรตุเกส คว้าแชมป์ยูโร 2016 แม้ คริสเตียโน โรนัลโด้ จะเจ็บต้องออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 25


    ศึกยูโร 2016 นัดชิงชนะเลิศที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. "ฝอยทอง" โปรตุเกส ลงสนามพบ "ตราไก่" ฝรั่งเศส โดยโปรตุเกสได้ เปเป้ แนวรับ และ วิลเลียม คาร์วัลโญ กองกลางตัวหลักกลับมาสู่ทีมตัวจริงอีกครั้ง และ คริสเตียน โรนัลโด้ สร้างสถิติลงสนามในยูโรรอบสุดท้ายมากที่สุดเป็นเกมที่ 21 ขณะที่ฝรั่งเศสใช้ทีมชุดเอาชนะ เยอรมนี 2-0 ในรอบรองชนะเลิศลงสนามทั้งชุด
    เริ่มเกมได้ 4 นาทีเป็น โปรตุเกส ที่มีลุ้นประตูก่อน เซดริก ซัวเรส วางบอลยาวให้ นานี วิ่งทะลุไปพักอกลง แต่จังหวะยิงนั้นเหินข้ามคานไป ขณะที่ ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูนำนาทีที่ 10 ดิมิทรี ปาเยต์ เปิดบอลให้ อองตวน กรีซมันน์ วิ่งเข้าโหม่งแต่ รุย ปาทริซิโอ ยังลอยตัวปัดข้ามคานได้ทัน
    จากนั้นเป็น ฝรั่งเศส ที่คุมเกมในแดนกลางได้เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นการครองบอล และการวิ่งบีบแย่งบอล ขณะที่โปรตุเกสมีปัญหาการบาดเจ็บของ โรนัลโด้ ที่ถูก ปาเยต์ อัดเข้าที่หัวเข่าในช่วงต้นเกม แต่กัปตันทีมโปรตุเกสยังฝืนเล่นต่อ
    นาทีที่ 22 ฝรั่งเศส มีลุ้นอีกครั้ง มุสซา ซิสโซโก ลากทะลุมายิงที่หน้าเขตโทษบอลแฉลบข้ามคานไป ก่อนที่ โรนัลโด้ ต้องยอมถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 25 และเป็น ริคาร์โด กวาเรสมา ที่ลงมาแทน ก่อนฝรั่งเศสได้โอกาสจะๆนาทีที่ 34 ปาเยต์ ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ ซิสโซโก พลิกยิงแต่ ปาทริซิโอ ยังปัดออกมาได้ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 
    ครึ่งหลังเป็น ฝรั่งเศส ที่พยายามเดินเกมรุกเหมือนเดิมแต่ยังหาจังหวะลุ้นประตูจะๆไม่ได้ จนนาทีที่ 58 อองตวน กรีซมันน์ ได้หลุดไปยิงทางซ้ายของเขตโทษแต่ก็เข้ามือ ปาทริซิโอ และนาทีที่ 66 ฝรั่งเศส พลาดโอกาสทองอย่างไม่น่าเชื่อ คิงส์ลีย์ โกมอง ตัวสำรองเปิดบอลให้ กรีซมันน์ โหม่งโล่งๆแต่หลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ
    นาทีที่ 75 โอกาสยังเป็นของเจ้าถิ่น โกมอง ไหลบอลให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้ยิงจากระยะไม่กี่หลาในกรอบเขตโทษแต่ ปาทริซิโอ พุ่งปัดได้อีกครั้ง ตามด้วยนาทีที่ 84 ซิสโซโก ยิงไกลเต็มเท้าบอลพุ่งจะเข้ามุมซ้าย แต่ ปาทริซิโอ พุ่งปัดแบบหวุดหวิดได้อีกครั้ง และช่วงทดเจ็บ อองเดร ปิแอร์ ชีญักส์ ยังสำรองได้ยิงในเขตโทษแต่บอลไปชนเสาอีก จบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
    ช่วงต่อเวลานาทีที่ 104 โปรตุเกส มีลุ้นแบบจะแจ้ง กวาเรสมา เปิดเตะมุมทางขวาให้ เอแดร์ ตัวสำรองโหม่งแต่ อูโก ยอริส ยังปัดออกมาและมีกองหลังช่วงเคลียร์ทิ้งได้ จากนั้นนาทีที่ 108 โปรตุเกส ชวดโอกาสอีกครั้งจากฟรีคิกของ ราฟาเอล เกอร์เรโร บอลไปชนคานออกมา
    นาทีที่ 109 โปรตุเกส ได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้ เอแดร์ ใช้ความแข็งแกร่งลากบอลตัดจากซ้ายมายิงที่หน้าเขตโทษบอลพุ่งเสียบเสาแรกเป็น 1-0 และเป็นประตูชัยให้ โปรตุเกส ชนะไป 1-0 คว้าแชมป์ยูโรไปครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โปรตุเกส - รุย ปาทริซิโอ, เปเป้, ชูเซ ฟอนเต, ราฟาเอล เกอร์เรโร, คริสเตียโน โรนัลโด้ (ริคาร์โด กวาเรสมา 25), เจา มาริโอ, วิลเลียม คาร์วัลโญ, เรนาโต ซานเชส (เอแดร์ 79), นานี, เซดริก ซัวเรส, อาเดรียน ซิลวา (เจา มูตินโญ 66)
ฝรั่งเศส - อูโก ยอริส, ปาทริซ เอฟรา, อองตวน กรีซมันน์, ดิมิทรี ปาเยต์ (คิงส์ลีย์ โกมอง 58), โอลิวิเยร์ ชิรูด์ (อองเดร ปีแอร์ ชีญักส์ 78), แบรส มาตุยดี, ปอล ป๊อกบา, มุสซา ซิสโซโก (อองโตนี มาร์กซิยัล 110), บาคารี ซาญา, โลรองต์ กอสเซลนี, ซามูแอล อุมติตี้
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ