ข่าว

อินทรีเหล็กงานหนักเจอของแสลงอัซซูรี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อินทรีเหล็ก" เยอรมนี งานหนักในยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้าย กับ "อัซซูรี" อิตาลี สถิติเป็นรองแุตยังไม่เคยเอาชนะอิตาลีได้ในทัวร์นาเม้นต์จริงทั้งฟุตบอลโลก และยูโร

    ศึกยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้ายวันที่ 3 กรกฏาคม ที่สนามสต๊าด เดอ บอร์กโดซ์ เวลา 02.00 น. "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี แชมป์โลก และแชมป์ยูโร 3 สมัย ที่ชนะ สโลวะเกีย 3-0 จะลงสนามพบคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "อัซซูรี" อิตาลี แชมป์ 1 สมัยที่เพิ่งระเบิดฟอร์มเอาชนะ "กระทิงดุ" แชมป์เก่า มา 2-0 ในรอบที่แล้ว ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาไม่ว่า เยอรมนี จะฟอร์มดีอย่างไรก็ยังไม่เคยเอาชนะ อิตาลี ได้ในการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ทั้งยูโรและฟุตบอลโลก
    2 ทีมที่คว้าแชมป์โลกรวมกันมาแล้ว 8 ครั้ง ขณะที่สถิติที่พบกันมาทั้งหมด 33 ครั้ง เยอรมนี ชนะได้เพียง 8 ครั้ง อิตาลีชนะ 15 ครั้ง และเสมอกัน 10 ครั้ง โดยล่าสุด เยอรมนี เอาชนะไป 4-1 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่สำหรับในการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์จริงแล้ว อิตาลี ไม่เคยแพ้แม้แต่นัดเดียวจากการพบกันทั้งหมด 8 ครั้ง ล่าสุดเพิ่งพบกันเมื่อรอบรองชนะเลิศเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อิตาลี เป็นฝ่ายชนะไป 2-1 และก่อนหน้านั้นในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพ อิตาลี ยังชนะได้ 2-0 ในช่วงต่อเวลา
    ในส่วนของตัวผู้เล่น เยอรมนี มีความสมบูรณ์เต็มที่ โยอาคิม เลิฟ ยังส่งผู้เล่นตัวหลักจากเกมที่ชนะสโลวะเกีย ลงสนามกันได้ครบ แนวรับ เยอโรม บัวเต็ง จับคู่เป็นเซ็นเตอร์แบ็คกับ มัทส์ ฮุมเมลส์ และฟลูแบ็คทั้งสองข้างยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจาก โจชัว คิมมิช และ โยนาส เฮคเตอร์
    แดนกลางแม้ว่า บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ จะฟิตกลับมาแล้ว แต่ เลิฟ จะใช้เป็นทีเด็ดที่ม้านั่งสำรองมากกว่า และให้คู่ของ โทนี โครส กับ ซามี เคดิรา ที่เล่นร่วมกันมาตั้งแต่เกมนัดแรกเป็นมิดฟิลด์คู่กลางต่อไป ส่วนแนวรุกจะเป็น โธมัส มุลเลอร์, เมห์ซุท โอซิล, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ และก่องหน้าตัวเป้าเป็น มาริโอ โกเมซ
    นอกจากนี้ เลิฟ ยังได้มีการเน้นหนักเรื่องแทกติกกับลูกทีมในการหาทางเอาชนะอิตาลีให้ได้ รวมทั้งมีการซ้อมเล่นลูกตั้งเตะทั้งเกมรุกและเกมรับอย่างเต็มที่ก่อนเกมนัดนี้
    ฝั่ง อิตาลี ของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ มีปัญหาหนักในแดนกลางที่จะต้องปรับทัพจากทีมตัวจริงไปพอสมควร เมื่อทั้ง ดานิเอเล เด รอสซี และ ติอาโก มอตตา ลงสนามไม่ได้ด้วยกันทั้งคู่ โดย เด รอสซี นั้นมีอาการบาดเจ็บต้นขาไม่น่าจะฟิตทัน ขณะที่ มอตตา ติดโทษแบนไปพอดี โดยคาดว่า เด รอสซี ไม่น่าจะฟิต 100 เปอร์เซนต์ลงสนามทัน และ คอนเต้ รู้ดีว่าเกมกับเยอรมนีจำเป็นต้องใช้ผู้เล่นที่มีความฟิต 100 เปอร์เซนต์ทั้ง 11 คน และทุกคนต้องเล่นให้ได้ถึง 120-140 เปอร์เซนต์ของตัวเองจึงจะเป็นผู้ชนะ
    ทางเลือกของ คอนเต้ จึงอยู่ที่การเอา สเตฟาโน สตูอาโร กองกลางจอมขยันของ ยูเวนตุส ลงมาแทน เด รอสซี หรือจะดันเอา เลโอนาร์โด โบนุชชี ขยับจากตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คขึ้นไปเล่นในแดนกลาง และส่ง อันเจโล ออกบอนนา ลงมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คอีกคน นอกจากนี้ในตำแหน่งวิงแบ็คทางซ้าย อันโตนิโอ คันเดรวา ยังเจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่าต้องใช้ มัตเตีย เด ชีโญ ลงมาเล่นแทนเหมือนเดิม
    ตำแหน่งอื่นๆแนวรับนอกจาก โบนุชชี แล้ว อันเดรีย บาร์ซาญี กับ จอร์โจ คิเอลลินี รอดโทษแบนจกเกมที่แล้วมาได้จึงจะได้ผนึกกำลังเป็น 3 กองหลังยูเวนตุสเหมือนเดิม โดยที่แดนกลาง สตูอาโร น่าจะได้ลงมาประสานงานกับ มาร์โก ปาโรโล และ เอมมานูเอเล จัคเครินี ส่วนคู่กองหน้ายังเป็น กราเซียโน เปลเล กับ เอแดร์    
    ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้
เยอรมนี ในระบบ 4-2-3-1 
    ผู้รักษาประตู - มานูเอล นอยเออร์
    กองหลัง - โจชัว คิมมิช, มัทส์ ฮุมเมลส์, เยอโรม บัวเต็ง, โยนาส เฮคเตอร์
    กองกลาง - โทนี โครส, ซามี เคดิรา, โธมัส มุลเลอร์, เมห์ซุท โอซิล, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์
    กองหน้า - มาริโอ โกเมซ
อิตาลี ในระบบ 3-5-2 
    ผู้รักษาประตู- จิอันลุยจิ บุฟฟอน
    กองหลัง - อันเดรีย บาร์ซาญี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, จอร์โจ คิเอลลินี
    กองกลาง - มัตเตีย เด ชีโญ, มาร์โก ปาโรโล, สเตฟาโน สตูอาโร, เอมมานูเอเล จัคเครินี, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี
    กองหน้า - กราเซียโน เปลเล, เอแดร์

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ