ข่าว

'ผี'ดึง'โรนัลโด'กลับคืนค่าตัว3,200ล.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'แมนฯ ยูไนเต็ด' พร้อมดึง 'คริสเตียโน โรนัลโด' กลับคืนด้วยค่าตัว 3,200 ล้านบาท แพงที่สุดในสหราชอาณาจักร บวกค่าจ้าง 14.5 ล้านบาท สถิติใหม่ใน 'ยูเค'

 

                         "เดอะ ซัน" หนังสือพิมพ์ชื่อดังของประเทศอังกฤษ ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก ต้องการดึงตัว คริสเตียโน โรนัลโด ปีกกัปตันทีมชาติโปรตุเกส กลับคืนจาก รีล มาดริด ดับเบิลรองแชมป์ลาลีกา-คิงส์คัพ ให้ได้ก่อนวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคมนี้ หลังจากขายให้ "ราชันชุดขาว" ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2009 ด้วยค่าตัวสถิติโลก 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,900 ล้านบาท)

                         ซึ่งราคาที่จะซื้อคืนนั้น "เรดเดวิล" ตั้งไว้ที่ 65 ล้านปอนด์ (3,200 ล้านบาท) แม้เป็นค่าตัวที่ต่ำกว่าการขายเมื่อ 4 ปีก่อน แต่ก็สูงพอที่จะเป็นค่าตัวนักฟุตบอลสูงสุดในสหราชอาณาจักรอยู่ดี อีกทั้งยังจะให้ค่าจ้างปีกวัย 28 ปีผู้นี้ สูงถึงสัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์ (14.5 ล้านบาท) แพงที่สุดใน "ยูเค" ที่ขณะนี้ เวย์น รูนีย์ กองหน้ายูไนเต็ด คือเจ้าของสถิติค่าจ้างสูงสุดที่ราคา 250,000 ปอนด์ (12 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

                         สำหรับเหตุผลว่าทำไมต้องการได้ตัวโรนัลโดก่อนวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคมนี้นั้น เป็นเพราะต้องการเปิดตัว "รอน" ก่อนหนึ่งวันที่จะลงสนามในเกมเชิดชูเกียรติ "เทสติโมเนียล แมทช์" ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซ็นเตอร์แบ็กวัย 34 ปี ที่จะพบกับ เซบีญา ทีมอันดับ 9 ลาลีกา ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของตัวเอง

                         ดังนั้นความเป็นไปได้จึงอยู่ที่การเจรจาสัญญาว่าจ้างฉบับใหม่ระหว่างโรนัลโด กับมาดริด ที่ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากเดอะ ซัน ระบุว่า โรนัลโด เรียกร้องค่าจ้างไว้ที่ 32 ล้านปอนด์ หรือเฉลี่ย 345,000 ปอนด์ (16.5 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ บวกกับค่าลิขสิทธิ์จากการขายเสื้อแข่งที่ติดชื่อของเขาแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำเงินได้มากกว่า 15 ล้านปอนด์ (720 ล้านบาท) ต่อปี

                         ซึ่งโรนัลโดได้กล่าวถึงการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับชุดขาวว่า "ผมเฉยๆ ไม่ได้กังวลในเรื่องนั้น ผมไมได้หมกมุ่น เพราะผมเชื่อว่าจะตกลงกันได้" แต่จากคำกล่าวอ้างของเดอะ ซัน เชื่อว่าการพูดของโรนัลโด คือไม่ต่อรอง หากไม่เป็นไปตามนั้น ก็พร้อมจะย้ายกลับไปอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นคำรบสอง

 

 

--------------------

(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : EPA)

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ