แบดคู่ผสม'ชายคู่'ซ้อมหนักลุ้นเหนื่อย

          กีฬาแบดมินตันในโอลิมปิก 2012 “ลอนดอนเกมส์” ที่จะมีขึ้น แม้จะเป็นที่น่าเสียดายที่สมาคมแบดมินตันจะพลาดเป้าหมายการผลักดันให้นักกีฬาได้สิทธิ์ไปแข่งขันครบทุกประเภท โดยไปหลุดเอาในประเภทหญิงคู่ แต่การได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันถึง 6 คน จาก 4 ประเภท ก็ถือว่าเป็นผลงานที่สวยหรูไม่น้อย

 

          ถามว่าใครคือคนที่มีโอกาสเข้าไปถึงเหรียญรางวัลมากที่สุด คำตอบของทุกคนพุ่งตรงไปที่ “คู่ผสม” ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง “เจ้าเต่า” สุดเขต ประภากมล กับ “ผู้กองส้ม” ร.อ.หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ 2 จอมเก๋าที่เล่นร่วมกันมานานนับสิบปี ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทุกสังเวียนแข่งขันในโลกนี้มาหมดแล้ว

          นอกจากความเก๋า รวมถึงทีมเวิร์กที่ทำให้คู่นี้เล่นด้วยกันชนิดไม่ต้องมองตาก็รู้ใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่มีสิทธิ์ “ลุ้นเหรียญ” ก็คือ ระบบการแข่งขันที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ จากเดิมแพ้คัดออก มาเป็นการแบ่งสายในรอบแรก มี 4 สาย สายละ 4 คู่ เล่นแบบพบกันหมดนำทีมที่มีอันดับ 1 และ 2 เข้าไปเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งจะน็อกเอาท์ไปจนถึงการชิงเหรียญทอง

          มีการคาดหมายกันว่า รอบแรกไม่ใช่ปัญหาสำหรับทั้งคู่ ที่จะได้เป็นคู่มืออันดับ 5-8 ของรายการ จะเจองานหนักก็แค่มือ 1-4 คนใดคนหนึ่ง ซึ่งหากได้เข้ารอบก่อนรอง แล้วเกิดชนะขึ้นมา เท่ากับมีลุ้นเห็นๆ ทันที

          ทั้งคู่บอกว่าทุกวันนี้ฝึกซ้อมกันอย่างหนัก เพราะลึกๆ ก็แอบตั้งความหวังไว้ เนื่องจากมือท็อปๆ ของโลก ในเวลานี้ก็เคยเจอกันมาหมด โอกาสแพ้ชนะพอๆ กัน

          ในเมื่อคนอื่นมีโอกาสลุ้นเหรียญได้ ทำไมงานนี้ “เต่า” กับ “ส้ม” จะแอบลุ้นบ้างไม่ได้...

          ส่วนนักตบลูกขนไก่ในประเภทคู่อีก 2 ราย ที่ได้ไปวาดลวดลายใน “ลอนดอนเกมส์” ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ ก็คือ “เจ้าเอ” มณีพงศ์ จงจิตร กับ “เจ้าอาร์ต” บดินทร์ อิสสระ ดาวรุ่งในประเภทชายคู่ ที่ต้องถือว่าเป็นผลงานการฟูมฟักของสมาคมลูกขนไก่โดยเฉพาะ

          เพราะสมาคมใช้เวลาเพียงปีเศษๆ วางแผนการแข่งขันให้ดาวรุ่งทั้งคู่ได้เก็บสะสมคะแนน จากเดิมที่อยู่ร้อยกว่าๆ สุดท้ายมาคว้าแชมป์ที่อินเดีย ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของการเก็บสะสมคะแนนไปโอลิมปิก คว้าตั๋วไปลอนดอนได้สำเร็จหน้าตาเฉย

          “ลอนดอนเกมส์” หนนี้เป็นครั้งแรกของทั้งคู่ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่แอบหวังลึกๆ แม้ว่าตามหน้าเสื่อแล้วจะเป็นรองคู่แข่งจากชาติต่างๆ อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคู่มือ 1 จากเกาหลีใต้และไต้หวัน ที่เจอกันเมื่อไหร นักตบไทยผูกปีแพ้ยันเต

          เมื่อศักยภาพเป็นรอง แถมไม่ได้เป็นมือวาง รอบแรกต้องเจอไฟท์บังคับดวลกับ คู่มือ 1-8 ของโลก แบบเต็มๆ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือ การเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด นั่นคือการซ้อมหนักที่สุดในชีวิต เช้า กลางวัน เย็น วันละ 9 ชั่วโมง โดยมี ศิริพงษ์ ศิริภูล อดีตนักตบทีมชาติในประเภทคู่ คอยดูแลใกล้ชิดยิ่งกว่าลูก

 

          เรียกว่าซ้อมหนักจนเก็บเอาไปฝัน ได้เลย....

 

 

--------------------

(แบดคู่ผสม-ชายคู่ ซ้อมหนัก-ลุ้นเหนื่อย : สกู๊ป แบดมินตัน โอลิมปิก 2012)