แข้ง19ปีข้ามช็อตเล็งตัดเวียดนาม

          14 ก.ย.54  ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลเยาวชนไทย อายุไม่เกิน 19 ปี ที่เดินทางมาฟาดแข้งแย่งเป็นเจ้าลูกหนังอาเซียน ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า หลังจากเก็บ 6 แต้มจาก 2 แมทช์ ที่ถือว่าหินที่สุดของกลุ่ม เอ ทั้งชัยชนะเหนือ มาเลเซีย 1-0 และถล่ม กัมพูชา 5-0 ทำให้ 2 นัดสุดท้ายที่จะย้ายไปแข่งขัน ออง ซาน สเตเดี้ยม พบ ฟิลิปปินส์ ในวันที่ 15 กันยายน และสิงคโปร์ วันที่ 17 กันยายน ต้องการชัยชนะนัดเดียวจะการันตีแชมป์กลุ่มทันที

          'น้าฉ่วย' สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือใหญ่ทีมเยาวชนไทย กล่าวว่า แม้สถานการณ์ของเราสามารถที่จะเลือกการเข้ารอบเป็นอันดับ 1-2 ของสายได้ แต่เท่าที่ประเมินตอนนี้ต้องบอกว่า 2 แมทช์ที่เหลือเจอคู่แข่งที่ไม่หนัก ดังนั้นนัดพบ ฟิลิปปินส์ยังคงต้องเน้นใช้ตัวหลักลงสนาม เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้ จากนั้นค่อยให้นักเตะ 4 คนที่มีใบเหลืองติดค้างมา ทั้งฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, จตุรงค์ พิมพ์คูน, อาทิตย์ วิเศษศิลป์ และธนากร สายปัญญา พยายามหาโอกาสล้างโทษ เพื่อจะได้เล่นในรอบตัดเชือกอย่างไม่มีความกดดัน

          "ถึงตรงนี้ 2 นัดที่เหลือไม่ใช่งานหนัก แต่เราประมาทคู่ต่อสู้ไม่ได้ ซึ่งหากเราเก็บ 3 แต้มจากฟิลิปปินส์ได้ จะเป็นการการันตีแชมป์กลุ่มทันที ดังนั้นหากเลือกได้ ในรอบรองชนะเลิศอยากเจอเวียดนามมากกว่า เพราะการเล่นกับเจ้าภาพอย่างพม่าในรอบตัดเชือก ต้องยอมรับว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะจากผลงานในรอบแรกที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่า ผู้ตัดสินอาจเกิดอาการนกหวีดหวานให้เจ้าบ้านได้ หากไปเจอกันรอบชิงชนะเลิศน่าจะเป็นอะไรที่คลายความกังวลให้กับเรามากกว่า" น้าฉ่วย กล่าว

          นอกจากนี้ 'น้าฉ่วย' ยังกล่าวต่อไปว่า สำหรับเกมนัดสุดท้ายพบสิงคโปร์ หากเป็นไปได้คงจะปล่อยผู้เล่นตัวสำรองให้ได้มีโอกาสลงไปพิสูจน์ตัวเองให้มากที่สุด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการพิจารณาตัวผู้เล่นที่จะเข้าสู่การแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ในช่วงปลายเดือนตุลาคมต่อไป อีกทั้งยังจะเป็นการพักฟื้นสภาพร่างกายของผู้เล่นตัวหลักๆ หลังจากกรำศึกหนักมาตลอดอีกด้วย

          ทั้งนี้สถานการณ์ในกลุ่ม บี ขณะนี้เวียดนามเล่นไป 3 นัด มี 7 คะแนน, ลาว 4 คะแนน, พม่า 4 คะแนน โอกาสเป็นนักเตะเวียดนามจะซิวแชมป์กลุ่มมีสูงที่สุด เพราะผลต่างประตูได้-เสียถึง 12 ประตู ส่วนลาว 7 ประตู และเจ้าภาพ 6 ประตู โดยนัดสุดท้ายวันที่ 15 กันยายน เวียดนาม พบ ลาว และพม่า พบ อินโดนีเซีย

          สำหรับผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนามพบ ฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย  ผู้รักษาประตู วัชระ บัวทอง, แบ็กขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, เซ็นเตอร์แบ็ก ธนากร สายปัญญา กับอดิศร พรหมรักษ์, แบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, กองกลาง ฉลองชัย โพธิ์ทอง หรือเจตริน เพชรบริสุทธิ์ แทนที่อิทธิพล ยอดพรหม ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, อาทิตย์ วิเศษศิลป์, กษิต์เดช เวทยาวงษ์ และกองหน้า จตุรงค์ พิมพ์คูน กับปกรณ์ เปรมภักดิ์

 

แข้ง 16 ปี โหด ถล่มกวม 11-0 'สิทธิโชค' ซัด 5 ประตู !

          การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2012 รอบคัดเลือก กลุ่ม จี ดวลแข้งเป็นนัดที่ 2 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน นักเตะ 'ช้างศึก' ทีมชาติไทย ที่นัดแรกโชว์ฟอร์มเก่งเอาชนะออสเตรเลีย 3-2 พบ 'กวม' ที่เกมแรกแพ้ฮ่องกง 1-4 นัดนี้ทีมส่งผู้เล่นชุดใหญ่มี ศรัณญ์ พวงบุตร และสิทธิโชค กันหนู นำทัพ

          เริ่มเกมทีมชาติไทยบุกใส่ทันทีและเพียงแค่ 7 นาที ก็ได้ประตูออกนำ อำนาจ ภมรประเสริฐ จ่ายให้ สุชานนท์ มะลิซ้อน หลุดไปถึงเส้นหลังแล้วผ่านมาให้ จิราวุธิ กุลชาติ วิ่งมาซัดจ่อๆ ให้ทีมออกนำ 1-0 นาทีต่อมา อรรถวิทย์ สุขช่วย จ่ายบอลทะลุช่องให้ ศรัณญ์ พวงบุตร หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเป็น 2-0 ถัดมานาที 16 อำนาจ ภมรประเสริฐ  ยิงไกลให้ทีมหนีห่าง 3-0

          จากนั้น สิทธิโชค กันหนู มายิงคนเดียว 2 ประตูในนาที 27 และ 31 ให้ทีมนำ 5-0 ถัดไปนาที 35 วศิณ เทียมเมือง ยิงให้ทีมชาติไทยหนีห่างไปไกล 6-0 ก่อนที่นาที 39 สุชานนท์ มะลิซ้อน จะยิงให้ไทยนำ 7-0 ในครึ่งแรก

          ครึ่งหลังเล่นไปเพียง 2 นาที ทีมชาติไทยได้ประตูนำห่าง 8-0 จากการยิงของ สิทธิโชค กันหนู ที่ซัดแฮตทริกได้สำเร็จ จากนั้นนาที 67 สถานการณ์ของ 'กวม' ย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน หลังจาก โอโก จูเด ได้รับใบเหลืองใบที่ 2 กลายเป็นใบแดง เกมมาถึงนาทีที่ 70 ทีมชาติไทยก็หนีห่างเป็น 9-0 จาก สิทธิโชค กันหนู ก่อนที่ทีมชาติไทยมาได้ประตูที่ 10 จากการยิงของ สุรเดช กลั่นขำ ในนาทีที่ 81 และช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สิทธิโชค กันหนู จะมายิงประตูที่ 5 ของตัวเองเป็นประตูปิดท้ายให้ทีมชาติไทยชนะ 11-0 คว้าชัยชนะ 2 นัดรวด มี 6 แต้มเต็ม

          หลังจบเกม 'โค้ชเนี้ยว' ส่งเสริม มาเพิ่ม สตาฟฟ์โคชทีมชาติไทย กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับผลการเล่นและฟอร์มการเล่นของลูกทีม หลังจากที่นัดแรกสามารถเอาชนะออสเตรเลียมา วันนี้ก็มีการเปลี่ยนแท็กติกการเล่นเล็กน้อย และได้ทดสอบผู้เล่นหลายคนในช่วงครึ่งหลังด้วย ซึ่งนักเตะก็สามารถโชว์ฟอร์มกันได้ดีทุกคน ส่วนนัดต่อไปกับพม่า หากเก็บชัยชนะได้จะการันตีการเข้ารอบได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราก็มั่นใจว่าเราจะทำได้ เนื่องจากเรามีข้อมูลของทีมพม่ามากพอสมควร

          สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป วันที่ 17 กันยายน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เริ่มคู่แรก 15.00 น. ออสเตรเลีย พบ ฮ่องกง และคู่ที่ 2 เวลา 18.00 น. ไทย พบ พม่า ส่วนอีกคู่ อินโดนีเซีย พบ กวม ที่ยามาฮ่า สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น.