ข่าว

ไทยพบรายแรก 'โอไมครอน JN.1' เปิด 13 คุณสมบัติ หากติดเชื้อ มีอาการอะไรบ้าง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไทยพบรายแรก 'โอไมครอน JN.1' ซึ่งเป็นรุ่นลูกของ โอไมครอน BA.2.86 เปิด 13 คุณสมบัติ หากติดเชื้อ มีอาการอะไรบ้าง คาด ต้นปีหน้าอาจแพร่เป็นสายพันธุ์หลักในไทย

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ เตือน การระบาดของ โอไมครอน สายพันธุ์ 'JN.1' ซึ่งเป็นรุ่นลูกของ โอไมครอน BA.2.86 หรือมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "พิโรลา" ขึ้นชื่อในความสามารถในการจับกับผิวเซลล์ปอดของผู้ติดเชื้อได้ดีที่สุด แต่ยังหลบหนีภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับโอไมครอนที่ระบาดมาก่อนหน้า เช่น EG.5.1 และ HK.3 อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกังวลว่า BA.2.86 อาจมีการกลายพันธุ์เพื่อหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นโดยพบมีการซุ่มตัวแพร่เชื้อในระดับต่ำๆมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งในไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โอไมครอน JN.1' แล้ว 1 ราย

 

 

โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 (B.1.1.529.2.86.1.1) ได้อุบัติขึ้น เป็นรุ่นลูกของ โอไมครอน BA.2.86 ซึ่งบนส่วนหนามมีการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นหนึ่งตำแหน่งคือ "L455S" ส่งผลให้ความสามารถในการจับกับผิวเซลล์ลดลงบ้างแต่ความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันกลับดีกว่า โอไมครอน BA.2.86 ทำให้ในปัจจุบันกลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดโดดเด่นในฝรั่งเศสอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของ 'โอไมครอน JN.1' ทำให้ทั้งองค์การอนามัยโลก, กรมควบคุมโรคสหรัฐฯ, อังกฤษ, อินเดีย, สิงคโปร์ ออกมาเตือนประชาชนกลุ่มเปราะบางให้เข้ามารับการฉีดวัคซีน 

 

 

รัฐบาลอินเดียแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ 'โอไมครอน JN.1' โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง โดยให้ปฏิบัติมาตรการป้องกันอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น กินร้อน ช้อนกลาง เว้นระยะห่างทางสังคม

 

 

ประเทศไทยเพิ่งพบ 'โอไมครอน JN.1' จำนวน  1 รายเมื่อ 28 ต.ค. 2566 โดยมีการแชร์รหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมที่แยกได้จากผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานครฯ ไว้บนฐานข้อมูลโควิดโลกจีเสส (GISAID) คาดว่าต้นปีหน้าอาจแพร่เป็นสายพันธุ์หลักเหมือนประเทศอื่น

 

 

แม้ว่า 'โอไมครอน JN.1' จะมีความสามารถในการแพร่เชื้อได้สูงกว่า แต่อาการโดยทั่วไปไม่รุนแรง เช่น ไอ เหนื่อยล้า มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ และมีน้ำมูกไหล ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

 

 

13 คุณสมบัติสำคัญของ 'โอไมครอน JN.1' ที่ควรทราบจากองค์การอนามัยโลก, กรมควบคุมโลกสหรัฐฯ, จีเสส(GISAID), และหน่วยงานหลักประกันสุขภาพของสหราชอาณาจักร(UK Health Security Agency)

 

 

1. คุณสมบัติการหลบหนีระบบภูมิคุ้มกันของ โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 อาจทำให้มีการติดเชื้อซ้ำในกลุ่มประชากรเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

2. ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่า โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 จะเป็นภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุขมากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีการหมุนเวียนติดต่อทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

 

3. บุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และบุคคลที่มีโรคร่วมอื่นๆ ที่รุนแรงสามารถป้องกันตนเองได้ด้วยวิธีที่ทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย

 

4. คุณสมบัติการหลบหนีระบบภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้นของ โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 เมื่อเทียบกับรุ่นพ่อแม่ โอไมครอน BA.2.86 อาจทำให้สามารถแข่งขันกับสายพันธุ์อื่นๆ ได้และกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกในปี 2567

 

5. องค์การอนามัยโลก กังวลว่าการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกมีจำนวนลดลงอย่างมากอันอาจทำให้เราระบุจำนวน โอไมครอน สายพันธุ์ที่กำลังอุบัติขึ้นในขณะนี้เช่น JN.1, XDD คลาดเคลื่อน ส่งผลให้การวางแผนการป้องกันและการรักษาผิดพลาดได้

 

6. องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับสายพันธุ์ย่อยของ SARS-CoV-2 เช่น JN.1, XDD อย่างต่อเนื่อง

 

7. ในขณะนี้ ความเสี่ยงทางสาธารณสุขที่คาดว่าจะเกิดจาก โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำสำหรับการเกิดเป็นโรครุนแรงเมื่อเทียบกับ โอไมครอน สายพันธุ์อื่นๆ

 

8. โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 มีการแพร่กระจายที่มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีการหมุนเวียนทั่วโลกในปัจจุบัน แต่ประเมินว่าไม่น่าจะถึงระดับของการระบาดครั้งแรกของ โควิด-19 หรือการระบาดของโอไมครอนครั้งแรก

 

9. สัดส่วนของผู้ป่วยที่เกิดจากการติดเชื้อ โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 กำลังเพิ่มขึ้น แต่ไม่ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อเจ็บป่วยหนักต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

10. ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสายพันธุ์ 'โอไมครอน JN.1' จะก่อให้เกิดโรคที่รุนแรงขึ้น

 

11. การแพร่ติดต่ออย่างรวดเร็วของ โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้เกิดคำถามว่ามันอาจขับเคลื่อนให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อไปทั่วโลก

 

12. วัคซีนโควิด-19 เจนเนอเรชันล่าสุด "XBB.1.5 โมโนวาเลนต์" จากการทดสอบทั้งในสัตว์และทั้งในอาสาสมัครพบว่าป้องกันการติดเชื้อจาก โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1 ได้ดี

 

13. การทดสอบทางห้องปฏิบัติการด้วย ATK, PCR และการรักษา โควิด-19 ด้วยยาต้านไวรัสยังมีประสิทธิภาพต่อ โอไมครอน สายพันธุ์ JN.1

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ