ข่าว

ไทยพบแล้ว 5 ราย 'EG.5.1' โอไมครอนรุ่นเหลน แพร่เชื้อไวกว่า XBB.1.16

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุ ไทยพบแล้ว 5 ราย 'EG.5.1' โอไมครอนรุ่นเหลน พบแพร่เชื้อไวกว่า XBB.1.16 ร้อยละ 45 ขณะ WHO จับตาโอไมครอน 8 สายพันธุ์

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวพบ 'โควิด19' สายพันธุ์ 'EG.5.1' แพร่เร็วกว่า XBB.1.16 นั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ EG.5.1 หรือ XBB.1.9.2.5.1 เป็นสายพันธุ์ย่อยของ โอไมครอน  XBB.1.9.2.* มีตำแหน่งกลายพันธุ์เพิ่มเติมบนโปรตีนหนาม คือ S:F456L (กรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 456 เปลี่ยนจากฟีนิลแอลานีน เป็น ลิวซีน) และ S:Q52H (กรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 52 เปลี่ยนจากกลูตามีน เป็น ฮีสติดีน)

 

 

ทั้งนี้อัตราการแพร่เชื้อในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ในภาพรวมทั่วโลก พบว่า สูงกว่าสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 ร้อยละ 45

 

สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชีย ระหว่างวันที่ 4 มิ.ย. -  4 ก.ค. 2566 พบว่า XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด คิดเป็น 13.71% รองลงมาคือสายพันธุ์ XBB.1.9.1 คิดเป็น 8.68% และสายพันธุ์ 'EG.5.1' คิดเป็น 7.33% 

 

 

สถานการณ์ของสายพันธุ์ 'EG.5.1' ทั่วโลก อ้างอิงจากฐานข้อมูลกลาง GISAID แบ่งตามภูมิภาค ดังนี้

  • เอเชีย 1,385 ราย
  • ยุโรป 203 ราย
  • โอเชียเนีย 35 ราย
  • อเมริกาเหนือ 360 ราย
  • อเมริกากลาง 4 ราย
  • อเมริกาใต้ 1 ราย

 

(ข้อมูล ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2566) 

 

 

สายพันธุ์ EG.5.1 ในภูมิภาคเอเชีย พบรายงานจาก 11 ประเทศโดยลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ สาธารณรัฐจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง อิสราเอล ลาว อินโดนีเซีย ไต้หวัน ไทย และ อินเดีย สำหรับประเทศไทยพบสายพันธุ์ EG.5.1 จำนวน 5 ราย รายงานครั้งแรกใน เดือน เม.ย. 2566 จํานวน 1 ราย เดือนพฤษภาคม 2566 จํานวน 3 ราย และเดือนมิถุนายน 2566 จํานวน 1 ราย ทั้งนี้ ยังไม่พบข้อมูลเรื่องการเพิ่มความรุนแรง 

 

 

นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า สถานการณ์โดยรวมในปัจจุบันพบว่า XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดของประเทศไทย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 17-23 มิ.ย. 2566 ผลการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก่อ โรคโควิด19 จำนวน 74 ราย พบเป็นสายพันธุ์ลูกผสม XBB.* 73 ราย (นับรวม XBB.1*, XBB.1.9*, XBB.2.3*, XBB.1.5*, XBB.1.16*) คิดเป็น 98.6% และสายพันธุ์ลูกผสม XBL (XBB.1.5* ผสมกับ BA.2.75*) 1 ราย สัดส่วนสายพันธุ์ที่ตรวจในสัปดาห์นี้สองอันดับแรก ได้แก่ สายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16* และ XBB.1.9.1* คิดเป็น 56.76% และ 16.22 % ตามลำดับ ซึ่งไม่พบ EG.5.1 ในสัปดาห์นี้

 

 

โควิด19

 

ปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก ให้ความสำคัญกับการติดตาม โอไมครอน จำนวน 8 สายพันธุ์ จากพื้นฐานของข้อมูลการเพิ่มความชุกหรือความได้เปรียบด้านอัตราการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ และการกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการได้เปรียบในการก่อโรค ได้แก่

 

สายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง หรือ Variants of Interest (VOI) 2 สายพันธุ์ ได้แก่

  • XBB.1.5*
  • XBB.1.16*

 

สายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ Variants under monitoring (VUM) 6 สายพันธุ์ ได้แก่

  • BA.2.75*
  • CH.1.1*
  • XBB*
  • XBB.1.9.1*
  • XBB.1.9.2*
  • XBB.2.3*

 

 

"กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังคงเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของเชื้อก่อโรค 'โควิด19' อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต" นพ.ศุภกิจ กล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ