ข่าว

'วัคซีนโควิด' อนาคตควรฉีดยังไง กลุ่มใดควรฉีด เปิดลักษณะการระบาดตอนนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดแถลงการณ์จากสหภาพยุโรป 'วัคซีนโควิด' ในอนาคตควรฉีดยังไง กลุ่มใดควรฉีดมากที่สุด 'หมอธีระ' เปิดลักษณะการระบาดตอนนี้เป็นแบบใด

'หมอธีระ' รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เปิดเผยข้อมูล แถลงการณ์จากสหภาพยุโรปเกี่ยวกับ 'วัคซีนโควิด' ทางหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการควบคุมโรค (European Center for Disease Prevention and Control: ECDC) และเรื่องนโยบายเกี่ยวกับเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาและป้องกันโรค (European Medicines Agency: EMA)

 

 

ซึ่งได้เผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวกับ 'วัคซีนโควิด' เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา สาระสำคัญนั้นสอดคล้องกับแถลงการณ์ของ องค์การอนามัยโลก ที่ออกมาก่อนหน้านี้

 

โดยระบุว่า 'วัคซีนโควิด' ที่จะใช้ในอนาคตจะปรับให้สอดคล้องกับสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ โดยแนะนำให้ปรับเป็น วัคซีน ที่จำเพาะต่อ สายพันธุ์ XBB (Monovalent vaccine) แม้วัคซีนรุ่นเดิมๆ ที่ใช้กันอยู่นั้นจะยังช่วยลดเสี่ยงป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ แต่ข้อมูลวิชาการปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นนั้นจะลดลงไปเมื่อเวลาผ่านไป และลดลงไปเมื่อไวรัสมีการเปลี่ยนสายพันธุ์ไปจากเดิม

 

 

ทั้งนี้การฉีดวัคซีนในอนาคตนั้น กลุ่มที่จำเป็นต้องฉีดเป็นอันดับต้นๆ คือกลุ่มเสี่ยง เช่น สูงอายุ มีโรคประจำตัว ตลอดจนผู้ที่มีอาชีพเสี่ยง อาทิ บุคลากรทางการแพทย์

 

 

นอกจากนี้ทาง EMA กำหนดให้ผู้ผลิต วัคซีน ที่จะจำหน่ายในอนาคตนั้น ต้องระบุรายละเอียดวิธีการฉีด ความถี่ในการฉีด ให้มีความชัดเจน เข้าใจได้ง่ายขึ้น ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ โดยรายละเอียดที่ระบุนั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลของวัคซีนชนิดนั้นๆ 

 

สำหรับการระบาด 'โควิด' ในกลุ่มประเทศเอเชีย (รวมไทยด้วย) ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีลักษณะเป็น ซุปสายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่มีอย่างน้อย 3 สายพันธุ์ที่ครองสัดส่วนใกล้เคียงกัน มักเป็น XBB.1.16 XBB.1.9.x และ XBB.1.5 ยกเว้นบางประเทศที่มี CH.1.1 มาร่วมด้วยในสัดส่วนที่พอกัน

 

 

กลุ่มประเทศเหล่านี้แตกต่างจากอเมริกาและยุโรป ที่การระบาดที่ผ่านมานั้นมีสัดส่วนสายพันธุ์หลักที่ชัดเจนกว่า อย่างไรก็ตาม น่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่สุดท้ายแล้วจะมีการระบาดที่มีลักษณะคล้ายกันทั่วโลก

 

 

ดังนั้นจึงมีการวิเคราะห์ว่าภาวะ ซุปสายพันธุ์ อาจทำให้มีแนวโน้มการติดเชื้อซ้ำได้มากกว่า จึงต้องเตือนให้ระวัง และมีพฤติกรรมป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยเรา ที่ตอนนี้ติดกันมากอย่างต่อเนื่องมานานถึงสองเดือนแล้ว

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ