คอลัมนิสต์

ได้เวลา'เช็คบิล'ทหาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การเปิดซักฟอกรัฐบาลของฝ่ายค้านก่อนปิดสมัยประชุมสภา ไม่ใช่แค่สัญญาณเตือนรัฐบาลประยุทธ์ เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงกองทัพ ก็ต้องเตรียมรับมือเช่นกัน

     ส่งท้ายปิดสมัยประชุมสภากันไปแล้ว ในการยื่นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติเพื่อซักถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมกรณีนำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญและการแถลงนโยบายไม่แจงที่มาของรายได้ งานนี้ฝ่ายค้าน ‘จัดหนัก จัดเต็ม’ได้สมกับการรอคอย

 

     เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารงานรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ขั้วการเมืองตรงข้ามที่ประกอบด้วย 7พรรคฝ่ายค้าน ไม่เคยได้ทำหน้าที่ถ่วงดุล ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ว่าเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส ปราศจากการทุจริต ตามที่ควรจะเป็น

     ตรงกันข้ามแค่ส่งเสียงก็ถูกเรียกมาปรับทัศนคติ หากเคลื่อนไหวก็เจอกับประกาศหรือ คำสั่ง คสช.

      เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ระบอบ ‘ประชาธิปไตย’ น่าจะเป็นช่วงเวลาดีที่สุดในการเอาคืน “พล.อ.ประยุทธ์”และคณะรัฐประหารที่กลายร่างมาเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยอาศัยกลไกทางรัฐสภา ที่เคยใช้จัดการคนมานักต่อนัก ตรวจสอบการทำหน้าที่ รวมถึงสิ่งที่ค้างคาใจกันมาตลอด 5 ปี ก็คิดบัญชีผ่านเวทีดังกล่าว

      การอภิปรายปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบและแถลงนโยบายไม่แจงที่มาของรายได้เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความเหนียวแน่นของพรรคฝ่ายค้านในการเปิดเกมรุกไปที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

     ข้อมูลที่นำมาประกอบการอภิปราย อ้างอิงจากตำราและประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริง ไม่ใช่คำกล่าวอ้างลอยๆ โดยเฉพาะไม้เด็ด หนังสือ ‘หลังม่านการเมือง’ ชนิด จี้กลางใจ คนเขียน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

      นี่ไม่ใช่แค่สัญญาณเตือนรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงกองทัพ ก็ต้องเตรียมรับมือ โดยเฉพาะการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ถือเป็นจุด ‘เปราะบาง’ที่มักจะถูกโจมตีทั้งเรื่องความจำเป็นและความคุ้มค่าตลอดจนถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดหาเชื่อว่าน่าจะถูกตรวจสอบแบบเข้มข้นจากฝ่ายค้าน

       ยังไม่รวมถึง‘กำลังพล’ของกองทัพ ที่เข้าไปมีส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ คสช. อาจถูกฟ้องกลับ ตามที่ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศเอาไว้ โดยเฉพาะ ‘ขาประจำ’พ.อ. บุรินทร์ ทองประไพ นายทหาร ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช.

       โดยในบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2562 ที่ผ่านมา พ.อ.บุรินทร์ ได้ขยับเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก พร้อมจัด ‘ทหารพระธรรมนูญ’เตรียมพร้อมดูแลกำลังพล ทุกนายที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง คสช.หากถูกคู่กรณีแจ้งความกลับจนกว่าคดีจะสิ้นสุด นอกจากนี้ยังครอบคลุมทหารที่กำลังเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ เช่น พล.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบกและทีมฝ่ายกฎหมาย

คสช.อีกคน

         หรือแม้แต่น้องรัก และลูกน้องคนสนิทของ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ หลังผันตัวเองจากข้าราชการทหาร มาเป็นข้าราชการพลเรือน‘เสธไก่อู’พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)สามัญการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร

        ภายหลังได้รับหนังสือร้องเรียนจาก นายจรูญ ไชยศร รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ขอให้สอบข้อเท็จจริง ‘เสธ ไก่อู’ ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยใช้อำนาจเพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองด้วยสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเผยแพร่เอกสารหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

       รวมทั้งคำสั่งให้โจมตี ‘อดีตนายกรัฐมนตรี’ในกลุ่มไลน์กรมประชาสัมพันธ์กับ สำนักโฆษกฯ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และวางตัวไม่เป็นกลางในทางการเมือง นอกจากนั้นขอให้ตรวจสอบความโปร่งใสการก่อสร้างอาคารฝ่ายนิทรรศการและศิลปกรรมของกรมประชาสัมพันธ์ วงเงิน 25 ล้านบาท งานนี้ทั้ง‘โจทย์เก่า-โจทย์ใหม่’ลับมีดรอ

       ‘เสธไก่อู’ เป็นอดีตนายทหารคนหนึ่งถูกจับตาจากฝ่ายการเมืองตั้งแต่เข้ามามีบทบาททางการเมืองด้วยการทำหน้าที่ ‘โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ’(คมช.)เมื่อปี 2549 ห้วง ‘บิ๊กบัง’พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ.และหัวหน้า คมช. มา สมัย‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็น ผบ.ทบ.ได้รับแต่งตัวเป็น ‘โฆษกกองทัพบก’

      จากนั้นเกิดวิกฤติการเมือง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.)ชุมนุมขับไล่รัฐบาล อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จนต้องใช้อำนาจตาม พรบ.ความมั่นคงตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอ.รส.) 'เสธไก่อู’ก็เป็นหนึ่งในทีมโฆษก ศอ.รส. ด้วยความเป็นทหาร  ‘ฝีปากกล้า’ท้าชนฝ่ายการเมืองแบบไม่เกรงกลัวทำให้มี ‘ศัตรู’รอบด้าน

    จนกระทั่งเข้าสู่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ.  พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งปี 2554 ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงจำเป็นต้องลดบทบาทของ‘เสธไก่อู’พ้นจากตำแหน่งโฆษกกองทัพบก และได้เลื่อนยศเป็น ‘พลตรี’

     หลังเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อปี 2557 ‘พล.อ.ประยุทธ์’ได้จัดตั้งรัฐบาล  ‘เสธไก่อู’ ได้รับความไววางใจอีกครั้งมานั่งตำแหน่ง 'โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี’ก่อนจะมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อต้องมานั่งตำแหน่ง ‘รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์’

      และช่วงปลายปี 2561 คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอรับโอน ‘เสธไก่อู’จากข้าราชการทหาร บรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ‘อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์’

       ล่าสุด ‘เสธไก่อู’มีชื่อกลับเข้ามาทำงานในทำเนียบอีกครั้ง ในตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนคนเก่าที่เกษียณอายุราชการ ท่ามกลางข้อร้องเรียนถึงความไม่เป็นกลางทางการเมือง และความโปร่งใสก่อสร้างอาคารฝ่ายนิทรรศการและศิลปกรรมของกรมประชาสัมพันธ์

        งานนี้ทหารคนไหน เกี่ยวข้องกับรัฐประหารและวิกฤติการเมือง ในปี 2549 ถึง ปี 2557 ตั้งแต่ระดับหัวแถวยันหางแถว คงต้องเตรียมรับมือกันดีๆ เพราะดูลีลาการตรวจสอบฝ่ายค้านแล้ว มีเสียวแทน!

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ