คอลัมนิสต์

งบค้างท่อ 86 ล้าน กมธ.ถก 18 ก.ย.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

.

 

 

          กมธ. 35 คณะเร่งเครื่องเคลียร์งบค้างท่อ87.5ล้าน ถก 18 ก.ย.นี้ แจก1แสนต่อหัว ขัดเส้นก่อนสิ้นก.ย. นี้ ด้าน“สมาชิก”โต้ผลาญงบ แจงตั้งกมธ.ทำเงินค้างท่อ ยันใช้จ่ายเบี้ยประชุมส่วนใหญ่ ขณะที่ “ธรรมนัส” นัดสื่อเปิดใจปมร้อนวันนี้  

 

 

 

          วานนี้(15 ก.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ(กมธ.)ทั้ง 35 คณะ โดยมีการแบ่งโควตา ประธานกรรมาธิการพรรครัฐบาล 18 คณะและพรรคฝ่ายค้าน 17 คณะไปเรียบร้อยแล้ว

 

          กมธ.แต่ละคณะ ได้มีการประชุมกันโดยเรื่องแรกที่จะดำเนินการคือการใช้จ่ายงบประมาณค้างท่อ ในปีงบประมาณ 2562 ที่คณะกรรมาธิการทุกชุดต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยสัดส่วนงบประมาณที่เหลืออยู่ของคณะกรรมาธิการ รวม 87.5 ล้านบาท แบ่งเป็นคณะ 2.5 ล้านบาท


          รายงานข่าวแจ้งว่า กมธ.แต่ละคณะเตรียมจัดสรรเงินให้ส.ส.ที่เป็นกมธ.คนละ 1 แสนบาท นำไปใช้ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนกันยายน เพื่อใช้งบประมาณที่เหลือให้หมดจะได้ไม่ต้องส่งเงินคืนคลัง เพราะเกรงว่าหากมีงบประมาณเหลือในปีนี้ ปีหน้าจะถูกตัดงบประมาณจึงต้องใช้ให้หมด โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่หน่วยงานราชการทุกหน่วยดำเนินการกันมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา


          ทั้งนี้แหล่งข่าวจากกมธ.คณะหนึ่ง กล่าวยอมรับว่า งบประมาณจำนวนดังกล่าวมีอยู่จริง แต่เหตุที่มีรับเร่งใช้ในช่วงนี้ เนื่องจากการตั้งกมธ.ที่ล่าช้ามาก ทำให้งบมีงบจำนวนดังกล่าวค้างท่อจริง แต่ส่วนหนึ่งได้ใช้เป็นค่าเบี้ยประชุมก็แทบหมดแล้ว ไม่ใช่การเร่งผลาญงบตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์

 

 


          ด้านนพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยยอมรับว่า เป็นเรื่องจริงซึ่งกมธ.เพิ่งได้รับแจ้งให้ทราบ ในวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมาเท่ากับว่าเหลือระยะเวลาเพียง 17 วันเท่านั้นในการเร่งทำโครงการให้ทันกับที่ได้รับการจัดสรรให้แล้วเสร็จ ซึ่งตนพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สามารถทำโครงการที่คุ้มค่ากับภาษีประชาชนได้ทัน จึงเลือกที่จะคืนเงิน 100,000 บาท ส่งคลังต่อไป ส่วนโครงการอื่นใดของกมธ. ที่สามารถทำได้คุ้มค่าภาษีประชาชน ตนก็ยินดีที่จะสนับสนุนและเข้าร่วม


          อย่างไรก็ดีการแก้ไขปัญหาของประเทศตอนนี้ต้องเริ่มจาก การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและมีการวางแผนที่ดีมาตั้งแต่ช่วงต้นปีงบประมาณ โดยหากมีงบประมาณส่วนไหนที่เห็นแล้วว่า จะเป็นงบเหลือจ่าย ก็ควรรีบทำแผนเปลี่ยนแปลงรายการเพื่อนำงบประมาณไปใช้ทำกิจกรรมอื่นๆที่จำเป็นภายในปีงบประมาณนั้น ให้เกิดเป็นผลผลิตเพิ่มขึ้น


          “เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นปัญหาเชิงระบบด้วย ที่ต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้เกิดความสมดุล เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เงินแผ่นดิน ในส่วนของกรรมาธิการท่านอื่นก็ถือเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลว่าจะใช้หรือไม่ใช้ แต่สำหรับพลังธรรมใหม่เราขอเลือกที่จะไม่ใช้ภาษีของประชาชนโดยไม่คุ้มค่า”นพ.ระวี กล่าว


          นายกฯกำชับครม.ร่วมซักฟอก18ก.ย.
          ขณะที่การเตรียมความพร้อมการเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณและการจัดทำงบประมาณ ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ครม.ทุกคนไปร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพราะถือเป็นการอภิปราย ครม.ทั้งคณะยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปร่วมประชุมในวันดังกล่าว ทั้งนี้จะมีการหารือเรื่องดังกล่าวในการประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการตอบคำถามจากฝ่ายค้านนั้น จะไม่มีปัญหาใดๆ เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว


          “สุดารัตน์” ปัดปล่อยข่าว“ธรรมนัส”
          คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่ากรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ อ้างว่าตนเองเป็นด่านแรกของรัฐบาลที่จะถูกทำลายของผู้ที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลว่า เรื่องที่เกิดขึ้นล้วนมาจากการนำเสนอของสื่อมวลชนทั้งจากสื่อต่างประเทศและในประเทศ ไม่ได้ออกมาจากพรรคฝ่ายค้าน จึงมองว่าไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรือทำลายกัน แต่เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง


          ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาสกัดไม่ให้พรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายในวันที่ 18 ก.ย. ว ตนไม่ห่วงในเรื่องนี้ เพราะเป็นบทบาทและอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร และไม่ควรสร้างอะไรที่เป็นการผิดวัตถุประสงค์ เพราะเราต้องการใช้เวทีสภาฯ ในการแก้ไขปัญหา


          จับตา“ธรรมนัส”นัดเปิดใจสื่อวันนี้
          วันเดียวกันนายภูผา ลิกค์ ผช.เลขานุการรมว.เกษตรฯ ได้ทำหนังสือแจ้งต่อสื่อมวลชนว่าร.อ.ธรรมนัส แจ้งสื่อแถลงข่าวพร้อมทีมกฎหมาย คือ พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ พล.ต.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณในวันนี้เวลา14.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น25 อาคารทีพีแอนด์ทีถนนวิภาวดีรังสิตซอยวิภาวดีรังสิต19 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ร.อ. ธรรมนัส ระบุว่าจะมีการฟ้องร้องกลับบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายจากกรณีเรื่องคุณสมบัติและวุฒิการศึกษา ระดับ ปริญญาเอก


          เพจดังโต้การเมืองหนุนหลัง
          วันเดียวกันเพจ CSILA รายงานว่า ตามที่ได้ลงพื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ตามที่อยู่ในใบปริญญาเอกของร.อ.ธรรมนัส พบว่า มีทั้งหมด 3 ที่ ที่แรก เป็นอาคาร อยู่ติดริมถนน ที่มีป้ายชื่อระบุ California University และป้ายชื่อสถานที่ทำฟัน ตั้งอยู่ในย่านฟิลิปปินส์ทาวน์ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อเข้าไปภายในพบเจ้าหน้าที่ ซึ่งบอกด้วยว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่ทำฟัน


          เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของสำนักงานว่า หากคนไทยต้องการจะขอเทียบวุฒิการศึกษาจะทำอย่างไรได้บ้าง ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ให้ติดต่อ นาย Luis Amosolo


          ซึ่งเป็น เจ้าของอาคารและเจ้าของมหาวิทยาลัย ซึ่งนาย Luis เป็นผู้ที่มีชื่อในใบปริญญาของ ร.อ.ธรรมนัส โดยให้หมายเลขติดต่อมาด้วย เมื่อเดินตรวจสอบภายในพบว่า เป็นเพียงอาคารเล็ก มีเพียงห้องไม่กี่ห้อง ไม่มีสิ่งใดที่ระบุว่าเป็นสถาบันการศึกษา ที่ใช้ในการเรียนการสอนเลย ซึ่งแตกต่างจากมาตรฐานทั่วไปของมหาวิทยาลัยในสหรัฐ


          เจ้าของเพจ CSILA เปิดใจกับ The Reporters ยืนยันว่า การตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ได้มีเบื้องหลังทางการเมือง อย่างที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเสื้อแดง เพราะยืนยันมาโดยตลอด ว่าไม่ได้ฝักใฝ่ การเมืองฝ่ายไหน นอกจากการเป็นคนไทยที่รักความถูกต้อง และในฐานะที่อาศัยอยู่ในนครลอสแอนเจลิส มา 25 ปี เมื่อพบว่า มหาวิทยาลัยนี้ ตั้งอยู่ที่นี่ จึงต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมีความเกี่ยวข้อง กับรัฐมนตรีของไทย จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล และพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้สัญชาติอเมริกัน จึงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายตามรัฐธรรมของอเมริกาที่ให้สิทธิเสรีภาพ


          พท.ยันเดินหน้าแก้รธน.สมัยหน้า
          ขณะที่ความเคลื่อนไหวการแก้รับธรรมนูญ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างรวมเวทีเสวนา“รัฐธรรมนูญนี้เพื่อใคร? รัฐธรรมนูญใหม่เพื่อคนไทยทุกคน” ตอนหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 13ก.ย.ที่ผ่านมา สภาลงมติให้เลื่อนญัตติตั้งกมธ.ศึกษา อย่าไว้ใจ เพราะเป็นยกแรก โดยระหว่างทางต้องดูว่าจะมีพรรคการเมืองบางพรรคเบี้ยวเราหรือไม่  ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในระยะสั้นนั้น ส.ว.ต้องยกมือไม่น้อยกว่า 84 คน ถึงผ่านได้ ดังนั้น ต้องลดอำนาจส.ว.การปลด ส.ว.จึงยากวิธีทำได้ต้องให้ประชาชนกดดันช่วย ประชาชนต้องมีส่วนช่วย ถ้าให้สภาแก้ไขอย่างเดียวเขาไม่ให้แน่นอน ดังนั้น ประชาชนต้องไม่กลัวการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากไม่กลัวการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จแน่นอน ยืนยันเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในเดือน พ.ย.เมื่อไรจะพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  งบค้างท่อ 86 ล้านบาท เร่งใช้ก่อนสิ้นเดือนก.ย. แจก กมธ..หรือ ส.ส. หัวละแสน เบิกสภาฯนั้น  กมธ.หลายชุดมีกำหนดการจะนัดประชุมหารือเพื่อกำหนดทิศทางการใช้จ่าย งบประมาณดังกล่าวภายในวันที่ 18 ก.ย.2562 นี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน 

 

ที่มา :  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ