เมื่อ สไตรเกอร์ บิ๊กแดง มาผิดที่ ผิดเวลา

      งานนี้ยิ่งใหญ่! เพราะ "บิ๊กแดง"พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)เตรียมเปิดกองทัพบก ต้อนรับรถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์'จำนวน 4 คัน จาก 10 คัน นับเป็นยุทโธปกรณ์สายพันธ์สหรัฐอเมริกา ที่ได้จัดซื้อครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังไทยติด'บ่วง'รัฐประหาร'มาอย่างยาวนาน โดยมี พล.อ.โรเบิร์ต บราวน์ ผู้บัญชากองกำลังทางบกประจำภาคพื้นแปซิฟิค มาร่วมพิธี   
 

   

     การจัดซื้อรถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์'ครั้งนี้ ผ่านโครงการความช่วยเหลือทางด้านทหารของสหรัฐฯ หรือ เอฟเอ็มเอส มีการลด แลก แจก แถม อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แบ่งเป็นล็อตแรกจำนวน 37 คัน แถม 23 คัน  รวม 60 คัน พร้อมส่งมอบให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ส่วนปี 2563 เตรียมจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 50 คัน และสหรัฐฯให้อีก30 คัน  ความฝันของ "บิ๊กแดง"ที่จะตั้ง กรมยานเกราะล้อยางสไตรเกอร์ จึงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

  โดยแนวคิดของ "บิ๊กแดง" ต้องการปรับหน่วยระดับกองพล ให้เป็นแบบ กองพลน้อย ที่มีความผสมผสานระหว่างสหรัฐฯกับออสเตรเลีย ให้มีการรบแบบครบเครื่อง ด้วยยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยมีความคล่องตัว มีลักษณะเบา และเคลื่อนที่ได้ไว จนนำไปสู่การจัดซื้อ รถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์' เพื่อให้เท่าทันภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป

   สอดคล้องกับหลักนิยมทางทหาร ที่กองทัพไทยใช้แบบสหรัฐฯมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และขณะนี้ สหรัฐได้ปรับหลักนิยมไป 2 ครั้งแล้วเพื่อรองรับการสู้รบกับสมรภูมิต่างๆทั่วโลกเช่น สงครามในตะวันออกกลาง ซึ่งในช่วงหลังจะเป็นการรบในลูกผสม หรือสงครามพันธุ์ทาง Hybrid Warfare ที่ประกอบไปด้วยสงครามในแบบ และ สงครามนอกแบบ รวมถึงสงครามที่เกี่ยวข้องกับไซเบอร์

   โครงการจัดซื้อรถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์' นอกจากเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้านทหารของสองประเทศแล้ว ยังเป็นเครื่อง 'การันตี'ว่า สหรัฐอเมริกา ประเทศต้นแบบ 'ประชาธิปไตย'ยอมรับ อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ผ่านการเลือกตั้งเมื่อ มี.ค. 2562 ด้วยกลไกที่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย

    การจัดพิธีต้อนรับ รถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์' ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ "บิ๊กแดง"จึงเลือก ใช้สถานที่ 'กองทัพบก'แทนที่จะเป็นหน่วยทหารที่ยุทโธปกรณ์ดังกล่าวจะต้องไปประจำการ เหมือนที่แล้วมา เพราะต้องการแสดงให้เห็นความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา ต่อสายตาคนในประเทศและต่างชาติ ในยุค รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อต่อยอดสร้าง'เครดิต'ให้ไทยในการเดินหน้าการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น

    แต่ก็ต้องยอมรับว่า การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่ กองทัพบก ยังไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขในห้วงเศรษฐกิจประเทศอยู่ในสภาวะถดถอย ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพ พืชผลเกษตรตกต่ำ นอกจากนี้ยังมีภัยธรรมชาติ ต้องได้รับการฟื้นฟู

     รวมถึงปัญหาทางการเมือง หลังคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เขียนข้อความในทวิตเตอร์ ตั้งคำถามไปยังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ถึงการจัดลำดับความสำคัญใช้งบประมาณ แทนจะดูแลปัญหาปากท้องประชาชน ในขณะที่ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะสงครามทางเศรษฐกิจ หลายประเทศลดขนาดกองทัพ แต่รัฐบาลไทยสะสมอาวุธมากขึ้น

และเชื่อว่าในอนาคต ความเหมาะสมในการจัดซื้อ รถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์'ของกองทัพบก รวมถึงความโปร่งใสขั้นตอนการดำเนินการ จะกลายเป็นประเด็นให้ 7 พรรคฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสด ควบคู่ไปกับการผลักดัน พรบ.ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เข้าสู่สภาในเร็ววันนี้

ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่ "บิ๊กแดง"เองก็เล็งเห็น เพราะในช่วงที่ผ่านมาพยายามใช้เพจ "Smart Soldier Strong Army "ในการเผยแพร่ข้อมูลถึงความจำเป็นที่ต้อง ปรับหน่วยระดับกองพล ให้เป็นแบบ กองพลน้อย รวมถึง สเปค และ สมรรถภาพรถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์'รองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เป็นระยะๆ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นถึงความจำเป็น

   จะเหลือแต่เพียง ตอบคำถามของ ฝ่ายการเมือง ที่"บิ๊กแดง"อาจใช้โอกาสในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เพื่อเคลียร์ข้อข้องใจทุกประเด็นว่า การจัดซื้อรถยานเกราะลำเลียงพล 'สไตรเกอร์'ส่งผลดีต่อประเทศชาติ ประชาชน และคุ้มค่างบประมาณที่เสียไป เมื่อเทียบกับการดูแลปากท้องประชาชน