คอลัมนิสต์

จตุพร พรหมพันธุ์ ควรให้ภาคประชาชนนำธงแก้รธน.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ทีมข่าวการเมืองเครือเนชั่น

 

 

 


          รัฐนาวาลุงตู่ชุดปัจจุบันที่นำเรือเหล็กลงร่องน้ำต่อจากรัฐบาลลุงตู่ที่ใช้เรือแป๊ะมาเมื่อห้าปีที่แล้ว โดยวันนี้บางฝ่ายที่ไม่เห็นชอบกับกติกาหลักของบ้านเมืองที่บังเกิดในยุคคสช.นั้น เมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว บางมาตราที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บังคับใช้นั้น สมควรที่จะมีการแก้ไขเพราะวันนี้ประชาธิปไตยกลับมาแล้ว

 

 

 

          ดังนั้นกระแสการจุดประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งทั้งจากพรรคการเมืองปีกฝ่ายค้าน รวมทั้งองค์กรภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวกันระยะหนึ่งแล้ว


          เพราะกติกาหลักของประเทศตอนนี้ ในบางหมวดนั้น(ที่มาของฝ่ายการเมือง)จะเป็นจุดที่คล้ายว่าเป็นการล็อกเส้นทางให้อดีตคสช.ยังคงสภาพบริหารประเทศต่อไปหลังยึดอำนาจมาแล้วห้าปี แม้วันนี้และวันหน้าคสช.จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ออกไปบ้าง

 

 

 

จตุพร พรหมพันธุ์ ควรให้ภาคประชาชนนำธงแก้รธน.

 


          แต่สภาพการของเรือแป๊ะยังคงรูปอยู่ในหลากองคาพยพที่ก่อกำเนิดจากกติกาหลักฉบับนี้ แปลความว่าคสช.ยังกุมสภาพการบริหารประเทศผ่านยุทธศาสตร์ชาติยี่สิบปีไปจนกว่าบทเฉพาะกาลของกฎหมายหลักฉบับนี้จะสิ้นสุดหรือมีการเสนอแก้ไข....


          แม้ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะบรรจุการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นหนึ่งในนโยบายรัฐบาลชุดนี้ และเป็นเงื่อนไขการร่วมรัฐบาลของบางพรรค แต่คล้ายว่าการขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้บังเกิดตามนโยบายรัฐบาลโดยฝ่ายรัฐบาลนั้น ความจริงเบื้องต้นที่หลายคนอ่านจังหวะการเมืองออกว่า เรื่องนี้คงต้องรอไประยะใหญ่ เพราะปัญหาปากท้องที่ตอนนี้ชาวบ้านร้องระงมกันทั่วไปและครม.ก็ได้ยินเสียงนี้จึงเตรียมที่จะแก้ไขปัญหานี้ก่อนเป็นภารกิจหลักและเร่งด่วน


          มุมมองของ จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.และอดีตคนการเมือง(พรรคไทยรักไทย, พลังประชาชน, เพื่อไทย รวมทั้งกองเชียร์พรรคเพื่อชาติที่วันนี้ยุติบทบาทดังกล่าวแล้ว) รวมทั้งยังเคยเคลื่อนไหวทางการเมืองมายาวนาน มองการเสนอแก้ไขกติกาหลักของประเทศไว้อย่างไร...คำตอบอยู่ที่นี่


          “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาล็อกไว้หลายชั้นและแก้ไขยากที่สุด แต่มันจะเกิดและสำเร็จได้หากภาคประชาชนนำ เพราะปลายทางแล้วนั้นทุกฝ่ายจะไหลมารวมกันอยู่ดีว่าควรแก้ไข”



 

 

จตุพร พรหมพันธุ์ ควรให้ภาคประชาชนนำธงแก้รธน.

 

 


          ทำไมมองว่าการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญควรให้ภาคประชาชนนำ?
          “รัฐบาลอย่าวิตกว่าใครนำการเคลื่อนไหว เพราะการเมืองวันนี้ภายใต้กติกาหลักที่ออกแบบมาแบบนี้ ต้องคิดให้ขาด วันนี้แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะหมดอำนาจแต่ปัญหาของประเทศยังไม่หมดไปหากกติกาหลักยังไม่มีการแก้ไข หากไม่มีการแก้ไขดัชนีการเมืองไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ผมเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่เป็นนักศึกษาจนมาถึงตำแหน่งอดีตกองเชียร์พรรคเพื่อชาติร่วมยี่สิบกว่าปี มองว่าหากการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเริ่มต้นและสำเร็จ ภาคประชาชนต้องเป็นคนขับเคลื่อนหลัก พรรคการเมืองขับเคลื่อนในลำดับรองลงไป


          หากถามว่าทำไมต้องให้ภาคประชาชนนำ เพราะการเสนอรัฐธรรมนูญฉบับธงเขียว(รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540) ก็มาจากการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2534 เพื่อให้มีส.ส.ร. ตอนนั้นฝ่ายการเมืองคัดค้านมาก แต่เมื่อภาคประชาชนขับเคลื่อนจริงและเป็นรูปธรรม ฝ่ายการเมืองก็กลับหลังหันทันที


          วันนี้หากให้พรรคการเมืองเป็นคนนำธงแก้ไข รับรองไม่มีทางสำเร็จและโดนต่อต้านว่ากระทำเพื่อตัวเอง และอย่าลืมว่าต้องพึ่งส.ว.อย่างน้อย 84 คน แต่ความจริงแล้วส.ว. 250 คนนั้น มีที่มาจากไหน ทุกคนทราบดี ดังนั้นไม่มีทางที่ส.ว.จะแตกแถวมาลงมติให้ หากจะมาก็มาทั้งหมด หากไม่มาก็ไม่มาเลยแม้แต่เสียงเดียว การที่จะทำให้ส.ว.มาลงมติได้ ภาคประชาชนต้องเดินหน้าถือธงนำและกดดันให้ส.ว.ทั้งหมดให้ความเห็นชอบ


          การแก้ไขตรงนี้ทำง่ายๆ คือ แก้รัฐธรรมนูญเพิ่มเติมให้มีการตั้งส.ส.ร.ขึ้นมา โดยวางหลักไว้ว่าหมวดที่หนึ่งและหมวดที่สองจะไม่มีการแก้ไข จากนั้นให้มีการทำตามขั้นตอนเหมือนส.ส.ร.ปี 2540 รวมทั้งมีการทำประชามติ ขั้นตอนทั้งหมดน่าจะใช้เวลาหนึ่งปีครึ่ง

 

 

 

จตุพร พรหมพันธุ์ ควรให้ภาคประชาชนนำธงแก้รธน.

 


          ระยะเวลาหนึ่งปีครึ่งนั้นหากรัฐบาลคิดได้ ไม่มีอคติและฉลาดพอ ก็ตั้งส.ส.ร.แล้วปล่อยขั้นตอนให้เดินไป รัฐบาลก็ทำงานแก้ไขปัญหาปากท้องไป การแก้รัฐธรรมนูญก็ปล่อยไปตามขั้นตอน แบบนี้รัฐบาลชุดนี้อยู่ได้โดยรวมเวลาวันนี้จนถึงวันนั้นก็ราวๆ สองปีนิดๆ เพราะอย่าลืมว่าการเมืองนั้นไม่มีใครได้ทั้งหมดไปเพียงคนเดียว หากรัฐบาลเดินหน้าร่วมแก้ไข การอยู่หรือไปของรัฐบาลจะอยู่ในจุดสมดุล และทุกฝ่ายได้ประโยชน์”

 


          หากดำเนินการแบบนี้จะสำเร็จได้อย่างไร?
          “ผมเชื่อว่าหากภาคประชาชนเดินหน้าจริงจัง นักการเมืองอยู่แถวสอง รวมทั้งมีความร่วมมือจากทุกฝ่าย แบบนี้ความเห็นของทุกฝ่ายจะไหลมาบรรจบแล้วร่วมกันเดินหน้า บ้านเมืองจะไม่มีความตึงเครียด”

 


          ตอนนี้พรรคฝ่ายค้านเดินหน้าเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ขยับ?
          “รัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำแบบนี้และเจอปัญหาเก่าและใหม่มาในชั่วโมงนี้ ผมมองว่าจนถึงตอนนี้ความพยายามของฝ่ายค้านที่จะล้มรัฐบาลก็ยังเดินไปไม่ถึงจุดนั้น อย่าลืมว่าแม้ พล.อ.ประยุทธ์จะเจอปัญหาจนไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ หากมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังกลับมาเป็นนายกฯต่ออยู่ดี เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนี้จากลงการมติของส.ว.ในการเลือกนายกฯ


          ดังนั้นหมากบนกระดานการเมืองวันนี้ทุกฝ่ายต้องอ่านให้ขาด อย่าลืมว่าปัญหาการเมืองและบางปัญหาการบริหารงานการเมืองนั้นอยู่ที่รัฐธรรมนูญที่คสช.วางแนวทางไว้ ย้ำว่าหากรัฐบาลคิดออกก็ควรให้เกิดส.ส.ร.ขึ้นมา บ้านเมืองจะเดินหน้าได้ วันนี้แม้ฝ่ายค้านจะขออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติก็ตาม แต่ผมมองว่าฝ่ายค้านควรอดเปรี้ยวไว้กินหวานก่อน เพราะหากครม.ชุดนี้เกิดการทุจริตขึ้นมาก็ช่วยไม่ได้


          วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจทำให้สังคมส่วนใหญ่เดือดร้อน รัฐบาลควรไปแก้ไขปัญหานี้และเล่นการเมืองให้น้อยลง เพราะวันนี้ทุกฝ่ายต่างมีหน้าที่ของตัวเอง หากทุกฝ่ายเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน บ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้


          แม้รัฐบาลจะบอกว่าต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก่อน แต่ผมมองว่าเรื่องนี้ก็เดินควบคู่ไปได้ โดยรัฐบาลแค่หนุนสิ่งที่ภาคประชาชนเสนอมา รัฐบาลก็ทำงานของรัฐบาลไป ฝ่ายที่เคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำงานของตัวเองไป เมื่อถึงเวลามันก็มาบรรจบกันเอง


          รัฐบาลนี้ทำงานได้หนึ่งเดือนกว่าๆ มันก็พอมองกันออกว่ารัฐบาลผสมที่มีหลายพรรคขนาดนี้ แต่ละพรรคที่ไปร่วมรัฐบาลก็พยายามเร่งผลงานของตัวเองเพราะไมรู้จุดหมายปลายทาง แปลว่าไม่รู้ว่าอายุรัฐบาลจะยาวนานเท่าใด ทุกพรรคที่ร่วมรัฐบาลจึงเร่งทำงาน แต่ผมเตือนว่าระวังการทุจริตไว้ด้วย หากเกิดขึ้นในรัฐบาลก็ไม่รู้ว่าจะมีผลเช่นใดต่อ”

 


          แต่พรรคฝ่ายค้านได้รณรงค์เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วและอ้างว่าต้องดำเนินการไม่เช่นนั้นปัญหาปากท้องของประชาชนจะแก้ไขไม่ได้?
          “ทุกพรรคต่างทำหน้าที่ของตัวเองที่มองว่ามันเป็นทางออกของบ้านเมือง หากคิดว่าผลของการดำเนินการนั้นคือความสำเร็จของบ้านเมือง ไม่ใช่ทำไปเพื่อคะแนนเสียงของตัวเอง ย้ำว่าการดำเนินการครั้งนี้ควรให้ภาคประชาชนนำ ฝ่ายการเมืองควรเดินตามและรอ เพราะหากฝ่ายการเมืองคิดแต่ผลที่ตัวเองจะได้รับ ไม่มีทางสำเร็จ”


          สิ่งที่ระบุว่า ฝ่ายการเมืองควรรอและให้ภาคประชาชนเป็นคนถือธงนั้น แปลว่าอะไร?
          “ผมมองว่า ฝ่ายการเมืองขยับไปก็ขยับลำบาก เพราะเจอด่านส.ว.ก็จบแล้ว ควรปล่อยภาคประชาชนเดินหน้าจะดีที่สุด และอย่าลืมว่า ผลการเลือกตั้งด้วยบัตรเลือกตั้งใบเดียวนั้น ถามว่าพรรคใดได้ประโยชน์ ตอบเลยว่าทุกพรรคที่มีส.ส.ในรัฐสภาวันนี้ แต่พรรคเดียวที่เสียประโยชน์คือพรรคเพื่อไทย เพราะบัตรเลือกตั้งใบเดียวนั้นเลือกได้สามอย่าง(ส.ส.เขต, ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายกฯ) ผมเชื่อว่า หากถึงหมวดนี้และมาตรานี้รับรองเลยว่าไม่มีพรรคใดเสนอแก้ไข เว้นแต่พรรคเพื่อไทย แต่คงลำบากหากจะแก้ไขได้”

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"เดอะตู่" ลาบ้านเก่า ฮึดสู้ตั้ง "พรรคใหม่"
ทิ้งเพื่อแม้ว ทุนแดงเมืองช้าง เลือกข้าง"ลุงตู่"
"จตุพร" ยันปม "จ่านิว" โคม่าเพราะเรื่องการเมือง
"เต้น" กลับเพื่อไทย "ตู่" ไปดาบหน้า

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ