รายงานพิเศษจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 31 ส.ค. 62
*************************
วันนี้คงไม่เพียงแค่นางงามแล้วที่ “รักเด็ก” แต่นักการเมืองก็รักเด็กเหมือนกัน
กับเรื่องราวของ "เด็กหญิงซายูริ กับ ลุงตู่ใจดี" ที่กำลังสร้างรอยยิ้มให้ “แฟนคลับลุงตู่” ชุ่มชื่นหัวใจอยู่ในขณะนี้
จะว่าไป ก็คลับคล้ายคลับคลากับ เรื่องราวของวรรณกรรมก้องโลก "คุณพ่อขายาว" ซึ่งเป็นนวนิยายจดหมาย เขียนโดย จีน เวบสเตอร์ ในปี 2455
โดยเป็นเรื่องราวของ จูดี้ แอบบอตต์ ที่กำลังศึกษาในวิทยาลัย เขียนจดหมายเล่าถึงชีวิตของเธอถึงผู้อุปการะเธอ ชายผู้ร่ำรวยที่เธอไม่เคยเห็นหน้าแต่ก็ทำเอาคนไทยทั่วไป
ถึงไม่เหมือนแต่ก็ได้ฟีล จนอดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าไปยังไงมายังไง เตี๊ยมกันมาอ๊ะป่าว ?
แต่เรื่องของเรื่องที่ลำดับจับความมาบอกกล่าวได้ตอนนี้...ก็คงประมาณนี้
ลุงตู่ตอบจดหมาย
ช่วงวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ได้โพสต์ข้อความที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบจดหมาย “ซายูริ” ในท่วงทำนองว่า ได้อ่านบันทึกที่เขียนด้วยลายมือภาษาไทยของเด็กหญิงแล้ว โดยระบุว่าทีมงานส่งมาให้ ได้อ่านด้วยความชื่นชมและประทับใจในความรักประเทศไทย รักภาษาไทย
ส่วนข้อเสนอของหนูน้อยซายูริ เกี่ยวกับเรื่องห้องสมุด ลุงตู่ก็ตอบมาว่า “ลุงก็พยายามมาตลอดที่จะส่งเสริมให้เด็กไทยรักการอ่านหนังสือ และก็อยากให้มีห้องสมุดหรือแหล่งเรียนรู้ดีๆ ที่อยู่ใกล้บ้าน”
และอื่นๆ อีกมากมายก่อนจะลงท้ายว่า “ลุงขอขอบใจหนูด้วยความปรารถนาดี และขอฝากสวัสดีถึงผู้ปกครองหนูด้วย”
ปรากฏว่า ช่วงนั้นถ้าคนไทยไม่ตามข่าวปมถวายสัตย์ไม่ครบอยู่ เรื่องนี้อาจจะเป็นสีสันได้พอๆ กับ ตอนที่ท่านผู้นำของเราออกมาแนะนำหนังสือ Animal Farm ก็ได้
แต่แม้จะเป็นอย่างนั้น ในมุมหนึ่ง คนไทยก็ต่างพากันอยากรู้ว่า ตกลงแล้ว ซายูรินี้มีตัวตนจริงหรือไม่ และถ้ามีตัวตนจริง เด็กหญิงคนนี้คือใครกัน
จนกระทั่งคนไทยก็ได้พบแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ (ฮา) ว่าเด็กหญิงที่ลุงตู่เอาภาพจดหมายเขียนด้วยลายมือของเธอมาแปะในเฟซบุ๊กโชว์หรานั้น ลุงไม่ได้มโนเอาเอง
ตัวจริงซายูริ
แหล่งข่าวที่ว่าคือเฟซบุ๊ก “สำนักพิมพ์ผีเสื้อ” ที่ได้โพสต์ข้อมูลว่า เธอชื่อ “ซายูริ ซากาโมโตะ” เป็นนักเขียนเด็กคนแรกในรอบ 44 ปีของประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลประกวดหนังสือดีเด่น ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ ในปี 2559
หนูน้อยซายูริคนเก่ง ภาพจากเฟซบุ๊ก “สำนักพิมพ์ผีเสื้อเด็กๆ”
ทั้งนี้ ช่วงที่เข้าประกวดนั้น ซายูริอายุเพียง 8 ขวบ และเป็นนักเขียนเด็กที่ได้เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยที่อายุน้อยที่สุด จากงานเขียนของเธอที่ชื่อว่า “บันทึกส่วนตัวซายูริ”
โดยซายูริคือคนแรกที่สำนักพิมพ์เลือกข้อเขียนจากเด็กๆ จำนวน 1,100 คน ซึ่งได้รับสมุดบันทึกในเวลาใกล้เคียงกัน เมื่อปี 2557 เป็นบันทึกสั้นๆ ในแต่ละวันของเธอมาตีพิมพ์
ขณะเดียวกัน "มกุฏ อรฤดี" ศิลปินแห่งชาติ บก.สำนักพิมพ์ผีเสื้อ และยังเป็น บก.หนังสือของซายูริเล่มนี้ ก็ยังได้นำบันทึกของซายูริที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเขียนตอบนายกฯ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2562 ด้วย
ซึ่งซายูริกล่าวขอบคุณนายกฯ ลุงตู่ ที่ตอบบันทึกของเธอ พร้อมกับเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของห้องสมุดในประเทศญี่ปุ่น ที่มีเรื่องราวดีๆ มากมาย
ภาพจากเฟซบุ๊ก “สำนักพิมพ์ผีเสื้อเด็กๆ”
ทั้งนี้ที่จริงช่วงปี 2561 เฟซบุ๊ก “สำนักพิมพ์ผีเสื้อเด็กๆ” เคยโพสต์เรื่องราวของซายูริไว้แล้วว่าเธอเรียนหนังสือชั้น ป.5 ที่ญี่ปุ่น และเล่าว่าเด็กประถมที่ญี่ปุ่นไม่มีโทรศัพท์มือถือ จนกว่าขึ้นชั้นมัธยมจึงได้รับอนุญาตให้ใช้ได้
และเด็กญี่ปุ่นทุกคนไปโรงเรียนใกล้บ้าน เพราะโรงเรียนทั่วประเทศมีมาตรฐานเดียวกัน เด็กทุกคนจึงเดินไปเรียนได้ ถือว่าได้ออกกำลังกาย สุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย พ่อแม่ไม่ต้องเสียเวลาไปส่งลูก พ่อแม่ได้ทำงาน
ต่อช็อตสอง
ปรากฏว่าหลังคนไทยรู้จักตัวตนของน้องซายูริคร่าวๆ แล้ว และพอจะรู้มาบ้างจากโพสต์แรกๆ ที่เขียนด้วยลายมือของเธอว่า เธอเป็นลูกผสมไทย-ญี่ปุ่น มีคุณพ่อชื่อ “โอโต้ซัง” ปัจจุบันเธอมีอายุ 11 ขวบแล้ว
ล่าสุดวันพุธที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กลุงตู่ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ก็ได้โพสต์ขอบคุณเด็กหญิงตัวกลมคนนี้อีกครั้งว่า
“ขอบคุณเด็กหญิง ซายูริ ซากาโมโตะ หนูน้อยนักเขียน ที่ได้ส่งหนังสือ บันทึกส่วนตัวให้ผม 2 เล่ม อ่านจบแล้วจะมาเล่าให้ฟังกันนะครับ”
ก็คงต้องการสื่อประมาณว่า หลังจากที่ได้แนะนำตัวและพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว หนูน้อยก็ได้ส่งหนังสือบันทึกส่วนตัวมาให้ทั้ง 2 เล่ม
วันศุกร์ที่ผ่านมา เพจสำนักพิมพ์ผีเสื้อเด็กๆ ก็โพสต์ถึงซายูริอีกครั้งว่า “ซายูริคือเด็กไทยไปเรียนหนังสือที่ญี่ปุ่น เพราะต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวที่นั่นตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และเป็นอาสาสมัครสอนภาษาไทยให้คนญี่ปุ่นปัจจุบัน”
ว่าแล้วก็ยิ่งอยากช่วยสนับสนุนเด็กที่รักการเขียนอย่างหนูน้อยซายูริจริงๆ โดยทางเพจแจ้งว่าหาได้ตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ฉบับภาษาญี่ปุ่นยังไม่เสร็จ
คนไทยลองไปหามาอ่านกันดู เรื่องราวของ ซายูริ ซากาโมโตะ เด็กที่ขึ้นภูกระดึงมาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งขนขยะลงมาด้วย 2-3 กิโลกรัม น่าจะทำให้เรามีความสุขได้
ก่อนที่ช็อตต่อไป ลุงตู่จะออกมาแนะนำให้เราอ่านบ้าง ทีนี้แหละ...จะได้คุยกับลุงรู้เรื่อง !
**************************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง