คอลัมนิสต์

ข้อมูลที่พึงเฝ้าระวัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2562

 

 

          ตามข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงที่ระบุเอาไว้ว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดเพลิงสถานที่ราชการสำคัญและย่านการค้าในกรุงเทพฯ และปริมณพลนั้น เกี่ยวโยงกับหนึ่งในสองผู้นำสูงสุดของกลุ่มบีอาร์เอ็น ขบวนการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งผู้ต้องสงสัยรายนี้ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้นำในการวางแผนจากประเทศเพื่อนบ้านเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนจากค่ายทหารในจังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 อันเป็นปฐมบทของไฟใต้ที่ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งจนถึงทุกวันนี้ รวมเวลา 15 ปีเต็ม นับเป็นเรื่องที่รัฐบาลโดยเฉพาะหน่วยข่าวกรองและฝ่ายความมั่นคงให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งด้านการข่าวและมาตรการป้องกัน

 

 

          เหตุลอบวางระเบิดครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างยิ่ง แม้จะถูกมองว่าเป็นระเบิดที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นและอาจจะโยงใยกับบางฝ่ายที่สมประโยชน์ ปฏิบัติการจึงอยู่ในระดับของการดีสเครดิตรัฐหรือสร้างความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนและลดทอนความเชื่อมั่นจากนานาชาติโดยไม่ได้มุ่งหวังเอาชีวิต แต่ประเด็นที่ไม่อาจจะเลย ทั้งๆ ที่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือมาตรการด้านความมั่นคงและความเข้มข้นในการรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ถ้าหากจะมองสถานการณ์อย่างเลวร้ายเพื่อความไม่ประมาทเอาไว้ก่อนเพื่อเสาะหาความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ก่อการอาจจะยกระดับความรุนแรงหรือเป้าหมายสู่การวินาศกรรม สร้างความสูญเสียให้หนักข้อยิ่งขึ้น


          ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งรัฐบาลส่วนกลางได้เร่งรัดก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค อย่างเช่น ระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนสร้างศูนย์กลางการคมนาคมขึ้นกลางเมือง เพื่อต่อเชื่อมกับทุกภูมิภาคด้วยสนามบินนานาชาติ ระบบรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง และรถไฟทางคู่ โดยมีการจราจรทางถนน ทางเรือเป็นลูกข่ายของการต่อเชื่อมอย่างเป็นระบบ แน่นอนว่าสิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องดำเนินมาตรการไปพร้อมกัน คือด้านความปลอดภัยต้องก้าวหน้าทันสมัย เคียงขนานกับการเกิดขึ้นของสิ่งปลูกสร้างที่ดูยิ่งใหญ่โอฬาร เป็นแหล่งรวมของผู้คนนับหลายล้านคนในแต่ละวัน เพราะขณะเดียวกันที่พื้นที่สาธารณะเพิ่มมากขึ้นนั้นจุดเปราะบางที่อาจตกเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสได้เช่นกันถ้าหากว่า มาตรการหละหลวมหรือถูกละเลย

 

 


          ในอีกด้านหนึ่งความร่วมมือของประชาชนก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยของรัฐ อย่างเช่น ช่วยเป็นหูเป็นตา ให้ความเอาใจใส่และปฏิบัติตามคำแนะนำประกาศขอความร่วมมือ รวมไปถึงข้อห้ามอันเคร่งครัดของบริการสาธารณะต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมามักจะพบว่าผู้เข้ารับบริการทั้งขนส่งสาธารณะและสถานที่เปิดอย่างห้างสรรพสินค้า ศูนย์รวมขอ'ชุมชนต่างๆ มักจะละเลย ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เองก็มีไม่มากพอหรือมีฝ่ายกฎหมายหรือฝ่ายปกครองคอยสนับสุนเพื่อให้การดำเนินมาตรการเพื่อความเป็นปลอดภัยเป็นไปอย่งเข้มข้นและจริงจัง ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงดังกล่าวมานั้นบอกให้ทุกฝ่ายพึงตระหนักอย่างไม่ตื่นตระหนก แต่ก็จะประมาทหรือย่อหย่อนไม่ได้เป็นอันขาด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ