คอลัมนิสต์

เรือเหล็กลุงตู่ระวังไร้ฝีพาย ณ สัปปายะสภาสถาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรือเหล็กลุงตู่ระวังไร้ฝีพาย ณ สัปปายะสภาสถาน โดย...  ทีมข่าวการเมือง เครือเนชั่น

 

 

 

          เกมการเมืองเริ่มเข้มข้นและบีบรัด "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เข้าไปเรื่อยๆ


          ไหนจะเจอปัญหาซึ่งหน้าหลากวาระที่ต้องเร่งมือแก้ไข ไหนจะขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่ให้คำมั่นไว้กับสังคมให้ออกมามีแต้ม...

 

 

          แต่จังหวะช่วงลงน้ำคล้ายว่าไม่เป็นดั่งใจที่ลุงตู่วาดหวัง...


          ยามนี้ขั้วค้านลุงตู่ไล่บี้ทุกวัน กรณีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ เสมือนเป็นสิ่งที่เจ็ดพรรคฝ่ายค้านนำมาหลอนลุงตู่ได้เป็นระยะ แม้เจ็ดพรรคฝ่ายค้านไม่ยอมรับกติกาหลักและพร้อมเสนอแก้ไข แต่ก็นำบางแง่มุมในบทบัญญัติของกติกาหลักซึ่งมีที่มาจากหนึ่งในแม่น้ำห้าสายที่ก่อกำเนิดจากคสช.มาใช้


          “ลุงตู่” โดนลูบคมจากสิ่งที่คสช.เขียนไว้ และบางคนรอยลว่าจังหวะแก้เกมการเมืองของลุงตู่นั้นจะออกมามุมใด...

 

 


          เพราะเมื่อมองจังหวะของเจ็ดพรรคต้านลุงตู่ ที่ขยับออกมา หากมองเกมชิงแต้มจากมวลชนจะพบว่า แม้ ครม.ลุงตู่จะลงพื้นที่เร่งผลิตผลงานกันแล้ว แต่ผู้แทนฯ ขั้วหนุนลุงตู่นั้นบทบาทยังน้อยนักหากเทียบกับการเคลื่อนไหวของเจ็ดพรรคฝ่ายค้านที่ขยับเกมนอกรัฐสภาเนืองๆ โดยมีการปูพรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญบวกกับปัญหาปากท้อง เสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อและโลกออนไลน์


          ส่วนเกมในรัฐสภานั้น ขั้วตรงข้ามพร้อมยื่นกระทู้และญัตติเพื่อให้ สร.1 เข้ามาตอบและชี้แจงสิ่งที่ส.ส.สงสัยในหลากเรื่องราว...


          แม้รู้จังหวะที่ขั้วตรงข้ามวางไว้ดักทางเดิน...แต่จะเลี่ยงเส้นทางนี้ได้กี่คราว ?


          เพราะอย่างไรเสีย วันหนึ่ง "ลุงตู่” ก็ต้องมาตอบ...


          “กาลเวลาบนเวทีการเมืองช่วงนี้” ลุงตู่น่าจะทราบดีว่าห้าปีที่แล้วกับภาวะในวันนี้แตกต่างกันยิ่ง เพราะเมื่อหมดอำนาจ คสช.ไปแล้ว ลุงตู่ต้องอยู่ในภาวะเรือเหล็กปริ่มน้ำที่ขั้วตรงข้ามพร้อมพลิกเรือเหล็กนั้น เวลาจากนี้ไปสาหัสกว่าที่ผ่านๆ มายิ่ง

 

เรือเหล็กลุงตู่ระวังไร้ฝีพาย ณ สัปปายะสภาสถาน

 


          จากนี้ไปเจ็ดพรรคค้านลุงตู่จะหยิบทุกความพลาดมาขยายผลให้ข่าวกระพือ...แบบไม่ยั้ง


          ขณะเดียวกันทุกชีวิตของพรรคร่วมรัฐบาลรับรู้กันทั่วว่า "รัฐสภา” คือหนึ่งในจุดชี้เป็นชี้ตายของเรือเหล็กลำนี้ หากมินับญัตติและกระทู้ต่างๆ ที่ ส.ส.สามารถยื่นได้ในสมัยประชุมนี้แล้วนั้น


          “ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563, การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” คือปัจจัยที่เสี่ยงยิ่งกับชะตาของเรือเหล็กลำนี้


          แน่นอนว่า “พลังประชารัฐ” ในฐานะพรรคแกนนำมีหน้าที่รับผิดชอบองค์ประชุมในการประชุมสภา มิให้ ”ล่มปากอ่าวและมิให้แผลเปิดแบบไม่สมควร”


          ดังนั้นภาวะ "สภาล่ม” จะเกิดขึ้นหรือไม่...อยู่ที่ความรับผิดชอบของพปชร.เป็นหลักและพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องไม่ปฏิเสธหน้าที่ แต่ภาพข่าวที่ออกมา “การแพ้โหวตสองสัปดาห์ติดต่อกันในวาระพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น มันสื่ออะไรบ้าง?” แม้จะอ้างว่าเป็นเอกสิทธิ์ส.ส.และไม่แบ่งขั้วว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ?


          แต่บางมุมสื่อความให้สังคมอ่านจังหวะเกมในสภาว่า ขั้วหนุนหรือขั้วต้านลุงตู่ ขั้วใดจะได้แต้มกันก่อน...หรือจะเป็นการชิมลางบางอย่างในวันข้างหน้า ?


          ข้อชี้แจงต่างๆ นานาที่ขั้วหนุนลุงตู่เรียงหน้ามาปกป้องเรือเหล็กที่วันพุธและพฤหัสบดีจะมาลอยลำเหนือน่านน้ำเจ้าพระยาที่ย่านเกียกกายนั้น


          หากพินิจวี่แววขั้วรัฐบาลแพ้โหวตในห้องประชุมสองครั้งติดต่อกัน แม้บางคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่อย่ามองข้ามความปลอดภัย เพราะมันอาจเป็นบ่อเกิดเหตุสภาล่มในยามหน้า และวี่แววแบบนี้ก็พอที่จะเห็นเค้าลางแล้ว

 

 

 

เรือเหล็กลุงตู่ระวังไร้ฝีพาย ณ สัปปายะสภาสถาน

 


          และเมื่อมองไปยังการเปิดตัว 61 วิปรัฐบาลที่เพิ่งแต่งตั้งขึ้นมาไม่กี่วันก่อน เพื่อกำกับดูแลการทำหน้าที่ส.ส.ขั้วหนุนลุงตู่ หลังจากต้องเสียหนึ่งเสียงจากพรรคไทยศรีวิไลย์ไป นัยตรงนี้อ่านได้ไม่ยากนัก...


          วิปรัฐบาลคนหนึ่งกล่าวว่า “วี่แวว ส.ส.รัฐบาลหนีประชุมมีมาระยะหนึ่งแล้ว แม้จะมีการประสานไปตั้งแต่ต้น แต่ ส.ส.หลายคนอ้างภารกิจในพื้นที่ และบางคนขอกลับก่อน ตรงนี้พยายามบอกกล่าวกันแล้วว่าฝ่ายค้านจ้องนับองค์ประชุมอยู่ แต่หลายคนยังไม่ปฏิบัติ”


          ดังนั้นวิปรัฐบาล 61 คนนั้น แปลว่าวิปหนึ่งคนจะทำหน้าที่ประกบ ส.ส. 2-3 คนของพรรคร่วมรัฐบาลให้มาลงมติ รวมทั้งมีการขอแรง รมต.ที่ยังสวมหมวก ส.ส. ควรงดภารกิจในวันพุธ-พฤหัสบดี และมาประชุมสภาผู้แทนฯ


          แถมยังมีวิทยุทรานซิสเตอร์สิบตัว ลำโพงและทีวีวงจรปิดในสัปปายะสภาสถานกระจายทั่วทุกมุม เพราะสถานที่แห่งนี้ บางมุมยังอับสัญญาณในการติดตามตัว ส.ส.เข้าห้องประชุม


          แต่ภาพข่าวข้างต้นที่เกิดขึ้นนั้น...ในทางการเมือง มิใช่ภาพลักษณ์ที่ดีนักของขั้วหนุนลุงตู่ คำว่า "ไทยแลนด์ 4.0” วันนี้ยังใช้ได้ไม่สมบูรณ์แบบกับนักการเมืองไทยบางคน


          เพราะบางชีวิตของขั้วหนุนลุงตู่เริ่มภารกิจ "พลร่มสัมพันธ์” มาหลายเพลาแล้ว


          คำว่า พลร่มสัมพันธ์นั้น ความหมายของคนการเมืองคือ ส.ส.หนีประชุม แม้ตัวไม่อยู่แต่บัตรลงคะแนนยังอยู่กับเพื่อนในห้องประชุม


          และเพื่อนก็ลงมติแทนเพื่อนกันไป...

 

 

เรือเหล็กลุงตู่ระวังไร้ฝีพาย ณ สัปปายะสภาสถาน

 


          อย่าลืมว่าสมัยประชุมที่แล้วคดีเสียบบัตรแทนกันคืบหน้าแล้วเมื่อ "นริศร ทองธิราช” อดีต ส.ส.สกลนคร ค่ายพท. ถูกอัยการสูงสุดยื่นฟ้องศาลไปแล้ว...ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช.


          เมื่อเป็นแบบนี้หากใครหาญกล้าระวังตัวไว้ด้วย


          เพราะเกมข้างต้นในวันนั้น "เพื่อไทย” ถึงกับไปไม่เป็น...และเป็นหนึ่งในปฐมเหตุโดนยึดอำนาจ


          แว่วว่าฝ่ายค้านจับตา พลร่มสัมพันธ์ค่ายหนุนลุงตู่และจับจังหวะรอนับองค์ประชุมมาหลายวันแล้ว


          หากถูกแฉว่ามีการเสียบบัตรแทนกันเมื่อใดรับรองสนุกนึก...และพลร่มสัมพันธ์เมื่อวันวาน หากจะลงมือแบบเดิมในวันหน้า พรรคหนุนลุงตู่อาจจะมีบางชีวิตต้องดำเนินตามรอยนริศร “เรือเหล็กน่าจะจอดไม่ต้องแจว” เพราะ ส.ส.ที่มาช่วยแจวเรือเหล็กหนีไปนั่งเครื่องบินเพื่อทำหน้าที่พลร่มสัมพันธ์


          ขั้วต้านลุงตู่หยิบมาขย่มเมื่อใด สัปปายะสภาสถานเดือดแน่...


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ