คอลัมนิสต์

อย่าเป็นตัวตลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562

 

 

          “งามไส้” ซ้ำสองในช่วงค่ำคืนวันที่ 14 สิงหาคม เมื่อรัฐบาลต้องมา “ตกม้าตาย” คาสภาด้วยการแพ้โหวตฝ่ายค้านอีกครั้ง หลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญถกข้อพิจารณาในประเด็นว่าด้วยการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร (1) สภาสิ้นอายุ หรือ สภาถูกยุบ หรือไม่มีสภาเพราะเหตุอื่นใด โดย กมธ.เสียงข้างน้อยฟากฝ่ายค้านมีความเห็นให้ตัดคำว่า “หรือไม่มีสภาเพราะเหตุอื่นใด” เนื่องจากเป็นคำที่สะท้อนให้นึกถึงการยึดอำนาจหรือการรัฐประหาร โดยการพิจารณาคราวนี้ที่ประชุมขอให้ส.ส.ที่มาจากประชาชนลงคะแนนด้วยความอิสระ ซึ่งผลการลงมติ ปรากฏว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลลงมติแพ้ฝ่ายค้านไปด้วย คะแนน 234 ต่อ 223 เสียง

 


          อืม...ตั้ง 11 เสียงนะ คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว เพราะตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม รวมระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลเพิ่งผ่านพ้นไปแค่ 40 วันเท่านั้น แต่รัฐบาลกลับพ่ายแพ้การลงมติ ส.ส.ฝ่ายค้านเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นจากการลงมติร่างข้อบังคับประชุมสภาข้อ 9(1) ว่าด้วยการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุม และที่ไม่เข้าใจสุดๆ คือเป็นการแพ้โหวตในระยะเวลาห่างกันเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งไม่รู้ว่าผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวด้วยวิธีใดถึงได้หลงลืมไม่นำบทเรียนความพ่ายแพ้มาบรรจุลงในชิพความจำของบรรดา ส.ส.แต่ละท่านให้รับรู้แก้ไขในสิ่งที่เคยพลาดพลั้งก่อนหน้านี้


          ที่น่าตลกไปกว่านั้นคือ การได้เห็น ส.ส.ที่เป็น “วิปรัฐบาล” ออกมาป่าวประกาศกันเย้วๆ ว่าจะต้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหาการแพ้โหวตให้ได้ในเร็ววันหลังจากเคยพลาดพลั้งเสียท่าไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจะนำเรื่องเข้ามาพูดคุยเป็นวาระสำคัญในพรรคร่วมรัฐบาล และในเบื้องต้นอาจต้องมีบุคคลคอยควบคุม สอดส่องไม่ให้ส.ส.ที่เข้าประชุมหายออกไปในช่วงลงมติไม่ว่ากรณีใด ซึ่งการออกมาให้สัมภาษณ์ตีรั้วล้อมคอกของวิปรัฐบาลนั้นเกิดขึ้นหมาดๆ ในช่วงเช้าวันที่ 14 สิงหาคม แต่ไม่ทันข้ามวันรัฐบาลกลับเกิดอาการ “เดจาวู” พ่ายแพ้การลงมติไปซะงั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ออกลูกขึงขังจริงจังถึงมาตรการจัดระเบียบ ส.ส.แบบ “แซบเว่อร์”


          สิ่งที่เกิดขึ้นคงหนีไม่พ้นการถูกตั้งคำถามว่า ด้วยภาวะเสียง ส.ส.ที่ปริ่มน้ำเจียนตายขนาดนี้ หากรัฐบาลไม่จริงจังที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว เห็นที “คงอยู่ยาก” เพราะการแพ้โหวต 2 ครั้งติดๆ ของ ส.ส.รัฐบาลนั้นบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะสัญญาณอันตรายที่อาจส่งผลให้รัฐบาลจบเห่ได้ไม่ยากในอนาคต หากการแพ้โหวตไปเกิดขึ้นในวาระระดับบิ๊กๆ เช่น การพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือศึกซักฟอกในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ...


          เมื่อปัญหามารอถึง “ปากเหว” รัฐบาลไม่ควรพลาดซ้ำซากอีก แต่คนคำนวณไม่เท่า “ฟ้าลิขิต” เพราะจากนี้ต่อไปคงไม่มีใครกล้าการันตีว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ดังนั้นผู้ใหญ่ในรัฐบาลต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และต้องทำในเร็ววัน จะมานั่งตายใจ ปล่อยไปตามยถากรรมแบบนี้ไม่ได้ และที่สำคัญ ส.ส.ทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง ต้องร่วมด้วยช่วยกัน ไม่นิ่งไม่ดูดาย จับมือสามัคคีอย่างแข็งขัน อย่ามัวแต่เล่นเกมการเมือง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายที่อาจตามมาจนสายเกินแก้ เพราะการแพ้โหวตลงมตินั้นไม่เพียงเป็นการสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่อาจมองว่า ส.ส.รัฐบาลเป็น “ตัวตลกไร้คุณภาพ” ที่ขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่อันพึงมีหรือไม่...?

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ