ดูไบคอนเนกชั่น เอื้อพี่น้อง "ชินวัตร"

 

***********************

 

เกือบครบสองปีเต็มที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยลาบ้านเกิดไป วันนี้คนไทยได้รู้พร้อมกันว่าเธอได้กลายเป็นพลเมืองเซอร์เบียไปแล้วเรียบร้อย

 

พูดง่ายๆ ว่าถ้ากลับบ้านเกิดไม่ได้ ชีวิตนี้ต้องมีที่ที่เป็นบ้านสักหลังรองรับ จากที่เราเห็นข่าวช่วงที่ผ่านมาสาวปูนั้นไปมาแล้วทั้งดูไบ วนไปฮ่องกง ทำธุรกิจโดยใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาจดทะเบียนเป็นกรรมการเพียงผู้เดียวของ พี.ที. คอร์ปอเรชั่น พอกลับมาอังกฤษ ก็ยังได้วีซ่าพำนักที่นั่นอีกตั้ง 10 ปี

 

แต่วันนี้เซอร์เบียคือที่ที่รองรับอดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 28 วัย 52 คนนี้

 

 

 

ทำไมเซอร์เบีย?

 

เซอร์เบียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่าน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป เมืองหลวงคือกรุงเบลเกรด ทิศเหนือติดต่อกับฮังการี ทิศตะวันออกติดต่อกับโรมาเนียและบัลแกเรีย ทิศใต้ติดกับมาซิโดเนียและแอลเบเนีย และติดต่อกับมอนเตเนโกร โครเอเชีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ทางทิศตะวันตก

 

 

ธงชาติเซอร์เบีย

 

 

คำพูดที่ทักษิณกล่าวกับบีบีซีไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังคงเป็นทักษิณผู้ช่างฟุ้งฝอยตามสไตล์ เขาบอกว่างานนี้เป็นเรื่องของคนคุ้นเคยทั้งสิ้น “ผมเพื่อนฝูงกันทั้งนั้น มีอะไรที่ทำประโยชน์ให้เขาเราก็ทำ…”

 

“เป็นคนคุ้นเคยกัน เป็นความสัมพันธ์ที่เขาเห็นว่า เขาได้อ่านประวัติเรา รู้เรื่องเราเยอะ อะไรเกิดขึ้นในไทย รู้ว่าเราทำอะไรให้ประชาชนได้ เขาอยากให้เราไปช่วยคิดให้เกิดประโยชน์ เมื่อเราทำประโยชน์ให้บ้านเมืองเราไม่ได้ เราก็ไปช่วยเขา ที่บ้านเราเอายาเม็ดเก่า ยาหมดอายุของผมไปใช้ อยากให้ผมช่วยอะไรก็บอก”

 

อย่างที่รู้การให้สัญชาติคนนอกนั้น ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ๆ รัฐใดรัฐหนึ่งจะทำได้ง่ายๆ อย่างกรณีของทักษิณที่ลี้ภัยไปตั้งแต่ปี 2551 ก็วนเวียนต่างแดนอยู่พักหนึ่งมาได้สัญชาติมอนเตเนโกรในปี 2553

 

 

 

 

แต่วันนั้นสื่อไทยประโคมข่าวว่า รัฐบาลมอนเตเนโกรให้สัญชาติเสี่ยแม้วโดยไม่มีพิธีรีตองอะไร อาจเพราะรู้ดีว่าทักษิณเป็นใครและเป้าหมายของที่นั่นคือความหวังว่าเศรษฐีไทยจะเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ที่นั่น !

 

ศ.ดร.สุรชัย ศิริไกร ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายว่า เหตุของความง่ายในการได้สัญชาตินั้น ผู้หลบหนีคดีมักขอสัญชาติได้กับประเทศเล็กๆ หรือมีขนาดเศรษฐกิจไม่ใหญ่นัก บางประเทศแค่นำเงินไปลงทุนตามจำนวนที่รัฐบาลกำหนด ก็ได้สัญชาติและสถานะพลเมืองแล้ว แต่หากเป็นประเทศใหญ่ๆ หรือประเทศมหาอำนาจ จะมีเงื่อนไขยุ่งยากมาก ยกเว้นพวกลี้ภัยทางการเมือง

 

วันนี้รัฐบาลเซอร์เบีย ที่ให้สัญชาติฝ่ายน้องสาวก็บอกเช่นกันว่า ที่ให้นั้นมีเงื่อนไขทางกฎหมายว่าต้องเป็นกรณีที่ไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศ

 

 

เส้นสายลายใคร

 

ข้อมูลระบุว่า การตัดสินใจให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นพลเมืองชาวเซอร์เบีย ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี "อานา เบอร์นาบิช” โดยเรื่องนี้ตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้นหลังจากการตัดสินใจของรัฐบาลในวันที่ 28 มิถุนายน

 

รัฐบาลเซอร์เบียได้ระบุว่า ยิ่งลักษณ์กลายเป็นชาวเซอร์เบีย “ภายใต้มาตรา 19 (1) และ (3) ของกฎหมายว่าด้วยการเป็นพลเมือง” ซึ่งหมายความว่าการมอบสัญชาติให้ยิ่งลักษณ์จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณรัฐเซอร์เบีย

 

 

 

 

อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางคำถามว่า ทางการเซอร์เบียไม่ได้ประกาศต่อสาธารณชนในการตัดสินใจในครั้งนี้ ซึ่งอาจต้องติดตามไปว่าจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่

 

แต่ที่แน่ๆ จากการที่ทักษิณคุยว่าสำเร็จได้เพราะคนคุ้นเคยช่วย เห็นจะมีมูล และข้อมูลจากไทยโพสต์ขุดเจอว่าทักษิณนั้นมีความใกล้ชิดกับ Bogoljub Karic นักการเมืองและนักธุรกิจชาวเซอร์เบียด้านคมนาคม และอสังหาริมทรัพย์ กว้างขวางย่านยุโรปตะวันออกและรัสเซีย

 

กันยายนปีที่แล้ว สองพี่น้องจากไทยได้พบนักธุรกิจคนนี้ที่เบลารุส ซึ่งคาดว่าการได้รับสัญชาติเซอร์เบียของยิ่งลักษณ์นั้น จะได้รับการช่วยเหลือจากชายคนนี้

 

 

 

 

 

หรือข้อมูลจากเพจ ณัฐพันธุ์ กรุงเทพ กรุงเทพ ทันใจ สายตรงตระกูลชิน ที่ระบุว่า ทักษิณมีสายสัมพันธ์กับ เชคเคาะลีฟะฮ์ หรือ เชคนะฮ์ยาน ประธานาธิบดีคนที่สองแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครอาบูดาบี (ดำรงตำแหน่งสืบต่อจากพระราชบิดา) รวมถึงความสัมพันธ์กับ มิโล ยูคาโนวิช อดีตประธานาธิบดีมอนเตเนโกร และ อาเล็กซานดาร์ วูซีส ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเซอร์เบีย

 

และยังบอกว่า การเป็นพลเมืองของเซอร์เบียนั้น เป็นที่ชัดเจนว่าจะมีการลงทุนการเงินในบริษัทที่เริ่มต้นในเซอร์เบีย หรือมีส่วนร่วมในการแปรรูปในบริษัทบางแห่ง

 

 

พี่ฝั่งโน้น น้องฝั่งนี้

 

จริงหรือไม่อย่างไร ต้องตามกันต่อไป แต่ถ้าพิจารณาทางหนึ่ง เซอร์เบีย และ มอนเตเนโกร ก็ไม่ใช่ชาติอื่นไกลกันเลย เพราะสองชาติเคยเป็นประเทศเดียวกันที่รวมอยู่ในสหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย

 

ต่อมาได้แยกตัวออกมาภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต กระทั่งปี 2546 ได้รวมตัวกับเซอร์เบีย กลายเป็น “สหภาพเซอร์เบียและมอนเตเนโกร”

 

 

 

 

ผ่านมาจนปี 2549 ปรากฏว่า อยู่กันไปก็มีปัญหาทางชนชาติ พอวันที่ 21 พฤษภาคม 2549 (ก่อนที่ฝั่งไทยรัฐบาลทักษิณจะถูกยึดอำนาจไม่กี่เดือน) มอนเตเนโกรได้ทำประชามติเพื่อยุติการรวมเป็นสหภาพกับเซอร์เบีย 

 

ผลออกมาว่า ประชากรจำนวนเกินครึ่งของผู้ออกเสียงสี่แสนกว่าคน สนับสนุนให้มอนเตเนโกรแยกจากเซอร์เบียและจัดตั้งประเทศใหม่

 

รัฐสภามอนเตเนโกรจึงประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2549 แยกออกมาเป็น “สาธารณรัฐมอนเตเนโกร” และ “สาธารณรัฐเซอร์เบีย”

 

ที่ผ่านมาสาธารณรัฐเซอร์เบียเคยให้สัญชาติแก่ชาวต่างชาติมาหลายคน เช่น เรล์ฟ ไฟนส์ นักแสดงชาวอังกฤษ, สตีเฟ่น ซีกัล ดาวบู๊ฮอลลีวู้ด, เซอร์เก โพลูนิน นักบัลเล่ต์ชื่อดัง รวมไปถึงนักกีฬาอีกหลายคน

 

 

 

 

วันนี้อดีตนายกฯ ไทยคนพี่อยู่มอนเตเนโกร และอดีตนายกฯ ไทยคนน้องอยู่เซอร์เบีย คำว่า “บ้านพี่-เมืองน้อง” ระหว่างสองประเทศนี้จึงชัดเจนกว่าอะไรทั้งหมด

 

ที่สำคัญสองที่นี้ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทยเหมือนกันด้วย แถมฝ่ายน้องก็จะยังใช้หนังสือเดินทางเซอร์เบียไปได้มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า รวมไปถึงกลุ่ม 28 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปด้วย มันเด็ดก็ตรงนี้ !

 

**************//*************