คอลัมนิสต์

คนไทยต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวัน

 

 

          ผ่านพ้นไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ดี เรือเหล็กของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่พ่วงตำแหน่งสำคัญด้านความมั่นคง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ต้องพบกับบททดสอบจากพวกผู้ไม่หวังดี ก่อเหตุป่วนบ้านป่วนเมืองหลายแห่งกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 2 สิงหาคม โดยเริ่มจากเพลิงไหม้ในเขตชุมชนย่านถนนเพชรบุรี แขวงพญาไท ซึ่งเจ้าหน้าที่พบสาเหตุมาจากระเบิดเพลิง มีการตั้งเวลาจากแผงวงจรต่อเนื่องกันถึง 4 แห่ง  ในเวลาไล่เลี่ยกันเกิดเหตุวางระเบิด 3 ครั้ง หน้าศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ย่านช่องนนทรี บริเวณหน้าอาคารมหานคร และพงหญ้าใต้บันไดบีทีเอส มีผู้บาดเจ็บ 2 คน รวมทั้งซอยพระรามเก้า 57/1 ซึ่งพนักงานทำความสะอาดของกทม.ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ท่ามกลางความระทึกขวัญของคนกทม.ที่สัญจรไปมาช่วงเช้ายันสาย

 


          แม้จะเป็นความโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสและความเสียหายไม่รุนแรงมากนัก แต่เหตุการณ์ครั้งนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะอยู่ในช่วงที่เราเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ อีกทั้งยังเป็นการประเดิมการทำหน้าที่กำกัับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติของนายกรัฐมนตรี ศูนย์กลางของเหล่าสีกากีซึ่งทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กลับถูกลูบคมด้วยการวางระเบิดในช่วงเย็นก่อนหน้า 1 วันในลักษณะเดียวกัน โชคดีที่มีผู้พบเห็นและทำลายวงจรไปก่อน และจากการทำงานของหน่วยงานความมั่นคงทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวนราธิวาสได้ 2 คน ขณะกำลังขึ้นรถทัวร์หลบหนีลงภาคใต้ และเมื่อตรวจสอบประวัติพบเกี่ยวข้องกับขบวนการเคลื่อนไหวในพื้นที่ชายแดนใต้


          ในขณะที่ประเทศชาติกำลังเดินไปด้วยดี แต่กลับมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงได้เพิ่มเติมมาตรการความปลอดภัย และฝากความเป็นห่วงมายังประชาชนว่าให้ร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้แก่รัฐบาล ขณะที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ตั้งข้อสังเกตรูปแบบของการก่อเหตุคล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2549 ที่เป็นกลุ่มคนเดิมๆ มีแนวคิดเดิมๆ และมาจากสำนักเดิมๆ เคยระเบิดป้อมตำรวจหลายจุด สิ่งที่เป็นห่วงก็คือจะมีฝ่ายการเมืองหรือพวกที่ไม่หวังดีต่อประเทศใส่ความว่าฝ่ายความมั่นคงทำเรื่องแบบนี้เอง เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว จากกลุ่มเดิมๆ ความคิดเดิมๆ มีคนสั่งการคนเดิม แต่คนลงมืออาจเป็นคนหน้าใหม่ นี่คือสิ่งบอกเหตุทางการเมือง 


          บ้านเมืองเราจมปลักอยู่ในความขัดแย้งทางการเมืองมากกว่า 10 ปี มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทำร้ายกันจนบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เกิดเหตุเผาบ้านเผาเมือง ประเทศชาติเสียหายเศรษฐกิจหยุดชะงัก จนมาถึงวันนี้ที่เพิ่งจะได้ประชาธิปไตยกลับมา ก็เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก ซึ่งครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันชัดเจนว่า “จะจัดการอย่างเด็ดขาดกับคนที่สร้างไม่สงบให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ถ้าเราร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราก็จะช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ประเทศไทยได้ หลายๆ เหตุการณ์ที่เราผ่านไปได้ด้วยดี ก็ด้วยความร่วมมือของประชาชนคนไทย วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อไม่ให้คนที่คิดร้ายกับประเทศมีที่ยืน”  เราเชื่อว่าคนไทยทุกคนมีความปรารถนาที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างมีเกียรติ มีศักดิิ์ศรี ความคิดเห็นที่แตกต่างต้องไม่นำมาซึ่งความแตกแยก มีรัฐบาลที่ใช้ธรรมาภิบาลปกครองชาติบ้านเมืองให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย คนในชาติอยู่กันอย่างสงบภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน  

  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ