คอลัมนิสต์

ระเบิดการเมือง ลายเซ็น "คนหน้าเดิม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก 3-4 ส.ค.62

 

 

พลันสิ้นเสียงระเบิด ควันข่าวลือกระพือโหม ขบวนการปั่นกระแส ตามความเชื่อทางการเมืองทำงานเต็มที่ สังคมอลหม่าน รัฐบาลประยุทธ์ 2 เจอการท้าทาย จากคนกลุ่มเดิม 

 

 

เสียงระเบิดสนั่นเมืองหลวงประเทศไทย ในวันที่ไทยเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2562 ย่อมมิใช่เหตุป่วนเมืองธรรมดาสามัญ

 

โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ที่ จ.ชุมพร 2 ราย ทำเอาคนไทยพออุ่นใจ โดยเฉพาะเมื่อได้ฟังจากปากของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการแถลงช่วงบ่ายวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา

 

ท่วงทำนองว่า นี่คือการบูรณาการงานร่วมกันระหว่างตำรวจกับทหารที่เข้มแข็ง จึงสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว

 

 

ระเบิด...ใครได้-ใครเสีย

 

แต่จะไม่ให้ถามว่าใครทำ ก็คงไม่ได้ บางคนถามโซเชียล อาจได้คำตอบที่ส่วนใหญ่ออกไปในทางหนึ่ง แต่อะไรจะน่าเชื่อถือเท่ากับความคิดเห็นจากบุคคลภาครัฐ

 

อย่างที่บอกว่าหลายคนมีมุมมองเดียวกัน แต่ที่แซบคือ บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ออกมาซัดเลยว่า งานนี้หนีไม่พ้น “กลุ่มเดิมๆ แนวคิดเดิมๆ”

 

“ลักษณะเหตุการณ์รูปแบบการก่อเหตุคล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2549 เป็นกลุ่มคนเดิมๆ แนวคิดเดิมๆ มาจากสำนักเดิมๆ ที่เคยระเบิดป้อมตำรวจหลายจุด”

 

 

ระเบิดการเมือง  ลายเซ็น "คนหน้าเดิม"

 

 

หันไปข้างนักวิชาการ แม้จะเคยเป็นที่ปรึกษา รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง หรือเคยทำงานให้แก่ภาครัฐมาก่อนอย่าง รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร

 

แต่วันนี้ในฐานะนักวิชาการ เขาวิเคราะห์ว่า เหตุการณ์นี้ชัดเจนว่ามีเป้าหมาย ดิสเครดิตรัฐบาล” และอาจใช้มือก่อการบางส่วนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

ส่วนอีกเป้าหมายหนึ่งคือ การวางระเบิดใกล้เคียงกับระบบคมนาคมขนส่ง มุ่งสร้างความปั่นป่วนให้แก่ประชาชน ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัย ทำให้ตื่นตระหนก

 

อาจารย์ปณิธานชี้ว่า ทั้ง 2 เป้าหมายนี้จะเป็นแรงสะท้อนไปยังรัฐบาล ซึ่งอยู่ในสภาพที่ยังไม่ได้ตั้งตัว 100% เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็จะเกิดแรงกดดันต่อรัฐบาลทันที

 

มุมหนึ่งที่น่าสนใจคือ มุมที่ อ.ปณิธานระบุว่า คนที่วางแผน สั่งการ อาจจะเรียกว่า “คนวงใน” ก็ได้ เพราะน่าจะรู้กลไกบางอย่าง เช่น การส่งมอบพื้นที่และภารกิจของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กกล.รส. ให้แก่ตำรวจ 

 

พูดง่ายๆ ว่า รู้จุดอ่อน รู้จุดแข็งของงานความมั่นคง จึงสามารถก่อเหตุอย่างแม่นยำ ป่วนกรุงระเบิดหลายจุด 

 

 

ปลุกขวัญกำลังใจ

 

ที่สุดช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 2 สิงหาคม หลังคนไทยตกใจและสับสนในข่าวสาร ปรากฏว่าเราก็ได้พบกับการแถลงข่าวที่น่าสนใจของบุคคลสองคน

 

คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ครั้งที่ 7/2562

 

 

ระเบิดการเมือง  ลายเซ็น "คนหน้าเดิม"

 

 

ช่วงของบิ๊กตู่ จะว่าไปก็ทำเอากระจอกข่าวผิดหวังพอสมควร ที่ไม่ได้เห็นบิ๊กตู่ฮึ่มฮั่มควันออกหูกับสถานการณ์ระเบิดมากนัก เพราะมาในฐานะประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งแรก

 

หลังประชุมเสร็จ บิ๊กตู่แถลงแจ้งผลว่าได้เสนอการแก้กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2561 และมีการเพิ่มโครงสร้างศูนย์ตำรวจขึ้นจาก 9 เป็น 10 ศูนย์ เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

 

แต่ที่เน้นเลยคือ บิ๊กตู่ระบุว่าจะไม่ยอมให้มีการซื้อขายตำแหน่งโดยเด็ดขาด !

 

 

ระเบิดการเมือง  ลายเซ็น "คนหน้าเดิม"

 

 

ส่วนสถานการณ์ระเบิด บิ๊กตู่ระบุโดยสรุป ขอว่าประชาชนและสื่อ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นการกระทำของฝ่ายไหน และด้วยเหตุผลอันใด เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายได้ แต่ก็ได้ทิ้งคำถามไว้ว่า

 

อยากให้คิดว่า ทำไม 5 ปีที่ผ่านมาเรื่องแบบนี้มันลดน้อยลงไป หรือแทบจะไม่มีเลย แล้วทำไมมามีในช่วงนี้ ที่มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอยู่” 

 

“ใครก็ตามที่ทำ มันต้องไม่มีที่ยืน ทุกคนกำลังดีใจที่ได้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง การแถลงนโยบายเพิ่งจบ ก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น”

 

พอหันไปข้างตำรวจ หลังบิ๊กตู่แถลงเสร็จ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือบิ๊กแป๊ะ ผบ.ตร. ก็ได้ออกมาแถลงบ้าง โดยมุมหนึ่งระบุถึงสถานการณ์ว่ามีความเชื่อมโยงกัน 2-3 จุด เพราะเป็นระเบิดชนิดเดียวกัน

 

พร้อมระบุ ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมคล้ายกับกลุ่มที่เคยลอบวางระเบิดใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2558 แต่เป็นกลุ่มคนหน้าใหม่จึงไม่มีข้อมูลในสารบบ

 

แต่อีกมุมหนึ่ง บิ๊กแป๊ะก็ได้กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ที่ว่าฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

 

โดยแจงว่างานนี้ทางตำรวจทหารได้ทำงานร่วมกันตลอด เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าวให้เห็น ในวันนี้จึงต้องแถลงข่าวเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน

 

อย่างการปฏิบัติงานในสถานการณ์ระเบิดครั้งนี้ ก็บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เรียบร้อยภายใน 24 ชั่วโมง ฉะนั้นขอให้เชื่อมือ

 

**************//*************

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ