คอลัมนิสต์

70 ปี สู้ไม่ถอย 'ทักษิณ' เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ชนะ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 27-28 ก.ค. 62

 

************************

 

“70 นะ ไหวเหรอ?” ไหวอยู่ เพราะจับความจากโฟนอินของอดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 23 ทักษิณ ชินวัตร เรดาร์ทำงานว่าไปได้อีก!

 

ครบรอบวันเกิด 26 กรกฎาคมปีนี้ เจ้าตัวเปรยว่าไม่ได้จัดงานอะไรใหญ่โตและไม่ได้เดินทางไปฮ่องกง แต่จะทำกันเองเล็กๆ ในครอบครัวเท่านั้น

 

แต่ที่ดูใหญ่โตเอิกเกริกกว่าเห็นจะเป็นโฟนอินร้อนๆ ในวันเดียวกันช่วงสายตามเวลาไทย ที่บรรดาแฟนคลับในต่างแดนได้จัดปาร์ตี้คล้ายวันเกิดและอวยพรให้ 

 

งานนี้แม้จะเป็นการคุยไกลของสองฝั่งแดนดิน คือจาก “ดูไบ” ถึง “แอลเอ” แต่ก็ยังสะเทือนมาถึงแดนดินไทยแลนด์เราด้วยราวกับตั้งใจ

 

 

70 ปี สู้ไม่ถอย  'ทักษิณ' เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ชนะ

 

 

โดยประเด็นที่เสี่ยแม้วพูดล้วนแล้วแต่ตอบโจทย์ได้ถูกใจคนฟังทั้งสิ้น โดยเฉพาะคำถามคาใจร้อนๆ คือการเตรียมวางมือทางการเมือง? เสี่ยแม้วตอบมาแล้วเสร็จสรรพ!

 

 

 

โฟนอินสุดอิน

 

ในไลฟ์สดดังกล่าวต้นฉบับปล่อยมาทางเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ของ จอม เพชรประดับ อดีตพิธีกรข่าวที่เป็นหนึ่งในผู้ลี้หนีรัฐประหาร

 

วันนั้นนอกจากจอมแล้วยังมีผู้มาร่วมงาน ที่มีทั้งที่ลี้ภัยและที่ปักหลักทำมาหากินที่ลอสแองเจลิสหลายคน จะเรียกว่า “แดงแอลเอ” หรือ “Red USA” ก็ได้

 

 

70 ปี สู้ไม่ถอย  'ทักษิณ' เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ชนะ

 

 

หลังอวยพรวันเกิดเรียกรอยยิ้มกันพอชุ่มชื่นใจ เสี่ยแม้วก็กล่าวขอบคุณ โดยชื่นชมว่ามีการซักซ้อมมาอย่างดี สร้างความน่าประทับใจให้เขาได้มาก

 

“คำอวยพรมีคุณค่ามากที่สุด 13 ปีแล้วที่ออกมา ท่านทั้งหลายยังไม่ลืม ถือว่าเป็นคุณูปการสำหรับผมทำให้มีกำลังใจและต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง”

 

ทั่วไปแล้วทักษิณแม้จะกล่าวถึงตัวเลขอายุว่า “70 แล้วใจหาย" แต่พอบอกว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้นแหละ คนรู้จักกันดีจับทางถูกทันทีว่ากำลังจะ "เข้าเรื่อง"

 

เพราะประโยคต่อมาเขาพูดว่า "สุขภาพดีเงินซื้อไม่ได้ต้องหาเอาเอง สุขภาพจิตผมต้องมองสองด้าน ฝั่งหนึ่งก็เล่นงานแบบไม่มีหลัก ว่ากันไปเรื่อยเปื่อย อีกฝั่งหนึ่งให้กำลังใจตลอดเวลา เราก็ต้องเอาฝั่งกำลังใจ ไม่งั้นจะอยู่ยาก”

 

“กำลังใจเหล่านี้ครับที่ทำให้ผมยังอยู่ได้ ถูกพยายามทำลายตลอดเวลา วันนี้ผมเลยซึ้งใจท่านทั้งหลายได้มาอวยพร ขอเป็นกำลังใจให้พวกท่าน แล้วพบกันที่แอลเอนะครับ”

 

ทำเอาทุกคนเฮลั่น ยิ้มแก้มปริ อินน้ำตาไหล เสมือนหนึ่งญาติในครอบครัวที่จากกันไกลสุดฟ้า เพิ่งได้พบเจอหน้ากัน แต่ที่ทุกคนรอฟังไม่ได้มีแค่นี้นะสิ!

 

 

คำตอบที่รอคอย

 

ไม่ว่ากันนาน เพราะฝ่ายคนจัดงานก็ออกเกรงใจคนแดนไกลที่สละเวลามาโฟนอินให้ ว่าแล้วจึงเข้าเรื่องเกี่ยวกับข่าวลือสำคัญทันที

 

ไม่รู้เพราะกลุ่มแดงแอลเอ ถามเพื่อเอาคำตอบจริงๆ กับกระแสข่าวที่ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือน “แพแตก” หรือจริงๆ แล้ว เจ้าของวันเกิดอยากจะฝากถึงคนฝั่งไทย จึงเลือกใช้วิธีนี้ คือยืมปากแฟนคลับถามให้ตอบ

 

แต่ที่แน่ๆ เสี่ยแม้วก็ยังมีตอบอย่างกวนโอ๊ยว่า “มือมันต้องวางตลอดอยู่แล้ว นั่งก็ต้องวางบนหน้าขาตัวเอง มันต้องวางไม่งั้นจะหัก”

 

 

70 ปี สู้ไม่ถอย  'ทักษิณ' เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ชนะ

 

 

อย่างไรก็ดีที่สุดเมื่อฝ่ายผู้รอคอยคำตอบถามย้ำเรื่อยๆ เสี่ยแม้วแม้พูดไม่ชัดว่า “วางไม่วาง” แต่สิ่งที่เขาตอบมาคนไทยฟังแล้วซึ้งเลยว่า “ยังไปต่อแน่ๆ”

 

“ผมเป็นคนไทย เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยประชาชนอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการแสดงความคิดเห็นมันเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์”

 

หรือตอนท้ายที่กล่าวว่า “เอาชัดๆ นะ ผมยังเป็นคนไทย ถึงแม้จะโดนยึดพาสปอร์ตก็ตาม ผมยังมีหัวใจเป็นคนไทย ผมยังคิดตลอดว่าผมจะต้องทำหน้าที่ช่วยประเทศไทยและคนไทย” ก็ทำเอาคนที่ร่วมงานตบมือเฮพร้อมกันกิ๊วก๊าว

 

ส่วนคำถามอีกข้อที่ไม่เล่าไม่ได้ เพราะทำเอาเสี่ยแม้วเกือบไปไม่เป็นเหมือนกันว่า “จะมีโอกาสกลับเมืองไทยไหม” แต่สุดท้ายก็ตอบออกมาได้อย่างฮาครืนว่า

 

“อันนี้ผมไม่ทราบ ผมต้องจุดธูป” (ฮา)

 

 

 

ฝันยังสด

 

คนไทยรู้จักคนชื่อทักษิณดีว่าลองได้พูดเมื่อไหร่ก็จะเต็มไปด้วยลูกหยอด ลูกอ้อน ลูกแซะ ทำนอง “กรรมการเฮงซวย ดูบอลไม่สนุก” ตามสไตล์เป๊ะ

 

แต่ถ้าเอาสาระที่เกี่ยวกับการเมืองไทยและพรรคเพื่อไทยในมุมมองของเสี่ยแม้ว ต้องบอกว่าเจ้าตัวยืนยันว่ายังสดใสและมีอนาคต!

 

เช่นว่า “เมืองไทยวันนี้มีคนทำหน้าที่แล้ว คุณสมพงษ์ก็เป็นหัวหน้าพรรค คุณสุดารัตน์ก็เป็นประธานยุทธศาสตร์ในการบริหารพรรคกันอยู่ เราก็คงไม่ต้องเป็นกังวลพรรคก็ถือว่าไปได้ดี” ก็แปลว่าพรรคยังมีทีมที่แข็งแกร่ง ไม่น่าห่วง

 

หรือที่ว่า “ผมเป็นหนี้บุญคุณประชาชน เพราะประชาชนรักและห่วงใยผม เลือกตั้งทีไรก็ชนะตลอด ถึงวันนี้จะทั้งถูกโกง ถูกอะไรก็ยังถือว่าทำได้ดีมาก แต้มสูงสุดแล้ว” ก็แปลว่าพรรคเพื่อไทยยังอยู่ในใจประชาชน 

 

 

70 ปี สู้ไม่ถอย  'ทักษิณ' เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ชนะ

 

 

หรือที่ระบุว่า “ผมเชื่อว่าประชาชนมีตัวตายตัวแทน หมดเจเนอเรชั่นหนึ่งก็มีเจเนอเรชั่นขึ้นมา รุ่นหลังๆ จะใฝ่ประชาธิปไตย ใฝ่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้นกว่าเดิม” ก็แปลว่าคนรุ่นใหม่หลอกไม่ได้

 

นอกจากนี้ยังมีในตอนท้ายที่ทำเอากองเชียร์เฮลั่น ที่เขากล่าวว่า “ใครจะไปคิดว่าประยุทธ์จะอยู่ 5 ปี แต่ใครจะไปคิดว่า 5 ปี ยังถอนรากถอนโคนความเป็นประชาธิปไตยจากหัวใจประชาชนไม่ได้”

 

เหล่านี้ล้วนแล้วเป็นคำอธิบายที่ว่าทำไมทักษิณจะยังไม่ทิ้งการเมืองไปง่ายๆ และความฝันของเขาจะยังไม่เอนดิ้งลงที่วัย 70 แน่นอน

 

ส่วนมุมอื่นที่พูดถ้าโยนลงตะกร้าแล้วกรองเอาในส่วนที่กล่าวถึงสภาพที่เป็นอยู่ของการเมืองไทยตอนนี้ ต้องบอกว่าก็น่าคิดเหมือนกัน

 

 

บทเรียนสอนใคร?

 

ประเด็นสำคัญที่ต้องฟังแม้จะเหมือนเอาฮาที่ว่า “ผมที่ต้องไปอยู่ประเทศอื่นก็เพราะว่าความซื่อบื้อ..ที่ไม่เข้าใจการเมืองของอีลิทในกรุงเทพฯ”

 

แต่มุมนี้นอกจากทักษิณเหมือนสอนตัวเองแล้ว ก็ยังบอกอะไรเราและคนบางคนได้อยู่ โดยเฉพาะที่เขามักพูดเสมอเวลาให้สัมภาษณ์สื่อ คือภาพการเมืองไทย 3 ระดับ นอกจาก “ประเทศกับประชาชน” ที่สำคัญสูงสุดแล้วยังมีกลุ่มที่เรียกว่า รีจีม” (Regime) คือชนชั้นบริหารประเทศ สำหรับบ้านเราตอนนี้เป็นกลุ่มไหนไม่ต้องทวนซ้ำ

 

และจะว่าไปกลุ่มรีจิมของเมืองไทยในวันนี้ก็คงเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันกับกลุ่มชนชั้นนำ อีลิท-Elite” ของไทยเราในตอนนี้เช่นกัน ทักษิณถามทำนองว่าเวลานี้กลุ่มรีจีมกำลังทำการเมืองเพื่อกลุ่มก้อนของตนเองหรือไม่? เพราะมันได้ทำความเสียหายแก่ประเทศอย่างมาก

 

 

70 ปี สู้ไม่ถอย  'ทักษิณ' เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ชนะ

บรรยากาศอันชื่นมื่น

 

 

“สุดท้ายก็คือความยากจนของประชาชน ความขัดแย้งของสังคม ความทุกข์ ดัชนีความสุขตกต่ำลงทุกวัน วันนี้ฝากผู้มีอำนาจทั้งหลาย ถ้าไม่รักประชาชน มันอยู่ยาก วันนี้ได้ข่าวว่าจะให้คนจนเสียภาษีด้วย” (ฮา)

 

และที่สุดของที่สุดที่ทักษิณเน้นคือโดยเฉพาะ “ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง” ที่เขาได้ทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บปวดว่า ถ้าอยากรู้ว่าจะแก้ยังไง “ให้ถามมายินดีสอน” เพราะสูตรเศรษฐกิจของไทยรักไทย ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว!!

 

มันเหมือนยารักษาโรคเพราะว่าช่วงเวลาไม่เหมือนกัน สมมุติฐานโรคไม่เหมือนกัน ไวรัสก็กลายพันธุ์ จะใช้ยาเม็ดเดิมมันรักษาไม่หาย ถ้าอยากได้ยาเม็ดใหม่ ถามผมได้ ผมยินดี” (เฮลั่น)

 

แน่นอนแม้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นแค่ลมปากของคนแดนไกลที่คนไทยก็แค่ฟังผ่าน แต่ที่แน่ๆ มันเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจคนต่างแดนด้วยกันอย่างมาก

 

ที่สุดแล้ว “ปาร์ตี้แดงเพื่อวันเกิดนายใหญ่” จึงกลายเป็นปาร์ตี้สัญญาใจว่าอย่าท้อ และให้สู้ต่อ...ก็คงได้เหมือนกัน!

 

****************//*******************

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ