คอลัมนิสต์

'แก๊สหัวเราะ'หวนกลับมาระบาดอีกครั้ง!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  สายตรวจระวังภัย  โดย... กิตติพงษ์ มณีฤทธิ์

 

 

          แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีทั้งหลาย โดยเฉพาะ “แลนด์มาร์คกลางกรุง” อย่าง “ถนนข้าวสาร” ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเบอร์หนึ่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากสังเกตจะเห็นการติดแผ่นป้ายกันอย่างมากมาย บ้างก็ติดลูกโป่งเอาไว้ที่หน้าร้าน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่าร้านนี้มี “ลูกโป่งแก๊สหัวเราะ” จำหน่าย

 

 

          ทว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมาและก่อนหน้านั้นได้มีการกวาดล้างจนหายไปสักใหญ่ แต่ก็ยังหวนกลับมาระบาดใหม่อีกครั้ง โดยลูกโป่งแก๊สหัวเราะนั้น ถูกนำเข้ามาโดยชาวต่างชาติ ก่อนที่คนไทยจะเล็งเห็นถึงกำไรทางการค้า เลยนำมาทำเป็นธุรกิจ เนื่องจากอุปกรณ์ในการใช้ทำลูกโป่งแก๊สหัวเราะมีความง่ายดาย เพราะเพียงแค่มีตัวบีบและลูกโป่งมัดยางเอาไว้ ซึ่งราคาที่ขายก็จะแตกต่างกันไป แล้วแต่ขนาดลูกโป่งใหญ่หรือเล็ก


          กระทั่งล่าสุดกลางดึกวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส.บช.น. และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 คนพร้อมของกลางแก๊สหัวเราะจำนวนมากในพื้นที่ท่องราตรีถนนข้าวสาร เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.ดส.บช.น. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบจำหน่าย “แก๊สไนตรัสออกไซด์” หรือ “แก๊สหัวเราะ” ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการตามสถานบันเทิงต่างๆ เป็นจำนวนมาก 

 

 

'แก๊สหัวเราะ'หวนกลับมาระบาดอีกครั้ง!

 

 


          พล.ต.ต.สุคุณ บอกว่า หลังมีข้อมูลจึงวางแผนและนำกำลังเข้าตรวจสอบผู้ลักลอบจำหน่ายแก๊สดังกล่าว กระทั่งพบผู้จำหน่ายตลอดทั้งถนนข้าวสารจำนวน 9 คน กำลังนั่งขายลูกโป่งซึ่งบรรจุแก๊สหัวเราะให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและควบคุมตัวมาสอบปากคำต่อยัง สน.ชนะสงคราม และดำเนินคดีในข้อหา “จำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “จำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ผู้ใด ผลิตหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”




          ขณะที่ นพ.ธเรศ อธิบายว่า สำหรับแก๊สไนตรัสออกไซด์ หรือแก๊สหัวเราะ ในทางการแพทย์ใช้เป็นแก๊สดมสลบก่อนการผ่าตัด หรือถอนฟัน ลดอาการปวดได้ดี ออกฤทธิ์รวดเร็ว และหมดฤทธิ์เร็วเช่นกัน ตามกฎหมายถือว่าเป็นยาที่ใช้ตามโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังใช้ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยใช้บรรจุในถุงลมนิรภัย ในรถยนต์ แต่ปัจจุบันพบการลักลอบมาจำหน่ายแก๊สไนตรัสออกไซด์เพื่อมาใช้ในทางที่ผิด นำมาสูดดมตามแหล่งสถานบริการต่างๆ เพื่อให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มและเพลิดเพลิน นั่งหัวเราะ 


          “หากสูดดมเข้าไปมาก จะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง ร่างกายไม่สามารถประสานการทำงานของอวัยวะต่างๆ ได้ อาจทำให้หกล้ม บาดเจ็บ หรือหมดสติได้ และเมื่อสูดดมบ่อยครั้งเป็นเวลานาน ทำให้เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม มึน ชา กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย เหน็บชาบริเวณนิ้วมือนิ้วเท้า รับความรู้สึกไม่ได้ เนื่องจากภาวะขาดวิตามินบี 12 ร้ายแรงสุดอาจเสียชีวิตได้ เพราะแก๊สดังกล่าวจะเข้าไปแย่งออกซิเจนในเลือด เนื่องจากปริมาณแก๊สไนตรัสออกไซด์ที่มาก และเข้าไปแทนที่ออกชิเจนในปอด และในระบบประสาทส่วนกลางจนหมดร่างกายไม่สามารถควบคุมระบบหายใจ ทำให้แขนขาอ่อนแรง สมองเสื่อม ปัญญาอ่อน ถ้าหากสูดดมเข้าไปจนสลบและไม่ถูกเยียวยาแก้ไขในทันที สมองก็จะตาย อาจะมีโอกาสเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายนิทราได้ และถ้าฟื้นกลับมา ร่างกายก็จะไม่เป็นปกติเหมือนเดิม” นพ.ธเรศ ระบุ

 

 

 

'แก๊สหัวเราะ'หวนกลับมาระบาดอีกครั้ง!

 


          สาเหตุที่ยังไม่มีการจับกุมอย่างเข้มงวด เป็นเพราะไม่มีกฎหมายมารองรับ เนื่องจากแก๊สดังกล่าวทางการแพทย์นำมาใช้ผสมเพื่อเป็นยาสลบ ยาชา ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว เพราะพบว่ามีอันตราย แต่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาบางชนิดเท่านั้น ห้ามครอบครอง เพราะเป็นสารต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 “ฐานผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท 


          แม้จะเป็นสารต้องห้าม แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ยังสามารถจำหน่ายได้โดยไม่ผิดกฎหมาย จึงกลายเป็นช่องโหว่นำแก๊สที่ว่ามาใช้ในทางที่ผิด ทำให้ “แก๊สหัวเราะ” พร้อมจะย้อนกลับมาระบาดได้ทุกเมื่อ..!!

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ