คอลัมนิสต์

ตู้พนัน-ตู้สล็อตทำลายอนาคตเด็ก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

          ‘ดับเครื่องชน’ ได้รับการร้องเรียนจากพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนจากร้อยเอ็ดว่าเวลานี้เกือบทุกหมู่บ้านมี ‘ตู้การพนัน-ตู้สล็อต’ ซึ่งเป็นต้นน้ำของความเลวร้ายต่างๆ ตามมาเป็นลูกโซ่

 

 

          ตู้พนันเหล่านี้สร้างรายได้มหาศาลให้แก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลมีเงินและเป็นผู้มีความใกล้ชิดกับตำรวจและผู้นำชุมชน ซึ่งจะต้องถอนรากถอนโคนโดยด่วน

          ปล่อยไว้จะเป็นตัวการทำลายเด็กนักเรียนและเยาวชนไทยให้หมดอนาคต

          ที่บอกว่า ‘ตู้พนัน’ สารพัดรูปแบบเหล่านี้จะล่อใจให้เด็กหนีโรงเรียนมาเล่นและมีการพนัน โดยเด็กๆ เอาเงินค่าข้าวค่าขนมที่พ่อแม่ให้มาโรงเรียนมาเล่น

          พอเงินหมดก็ต้องขโมยมาเล่น แล้วพอมั่วสุมกันหนักเข้าก็ลามปามไปถึงยาเสพติด ต่อด้วยการตั้งแก๊งก่ออาชญากรรม

          อย่าถามว่าแล้วตำรวจไม่จับกุมจัดการตามกฎหมาย เพราะใครๆ ก็รู้ว่า ‘เงิน’ เก็บส่วยตู้สล็อต-ตู้พนัน เป็นรายได้หลัก ส่วน ‘เงินเดือน’ เป็นรายได้เสริม !

          นี่คือประเทศไทยที่สังคมกำลังดิ่งนรกและอนาคตมืดมนหากไม่จัดระเบียบและทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์นับแต่บัดนี้

อ๊อด เทอร์โบ


 

 

 ข้อแนะนำทำ ‘สมาธิ’
          ขอเป็นสื่อกลางการแนะนำวิธีการฝึกสมาธิจาก ‘พญ.อรภา เข็มทอง’ จิตแพทย์ รถ.จิตเวชนครราชสีมา ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ และเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจอย่างมาก

          ขอขอบคุณ ‘นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน’ ผอ.รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ที่ให้ข้อเท็จจริงว่า

          สภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมเศรษฐกิจและเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคปัจจุบัน ล้วนก่อความเครียดให้ประชาชนได้ง่าย การคลายเครียดมีหลายวิธีที่ได้ผล เช่น การออกกำลังกาย แต่ประชาชนบางคนอาจไม่สะดวก หรือมีข้อจำกัดต่างๆ รพ.จิตเวชนคราชสีมาฯ

 



          จึงมีข้อแนะนำให้ใช้วิธีการฝึกทำสมาธิ ซึ่งเป็นการผ่อนคลายความเครียดที่ลึกซึ้งที่สุด มีรูปแบบที่ง่าย สามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง ทำที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปทำที่วัด สามารถทำได้ทุกอิริยาบถ ไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ ผู้ที่กำลังนอนป่วยก็ทำได้

          หลักสำคัญของการทำสมาธิคือการเอาใจไปจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียว คือการนับลมหายใจของตัวเองเป็นหลัก และยุติการคิดเรื่องอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง การทำสมาธิจะช่วยให้จิตใจสงบ ปลอดความคิดฟุ้งซ่าน ความกังวล เศร้า โกรธ ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียด


 


 ‘สมาธิ’ คลายเครียด
 ฝึกเป็นประจำป้องกันโรค

          วิธีการฝึกสมาธิโดยการนับลมหายใจมีเพียง 3 ขั้นง่ายๆ ดังนี้

          ขั้นที่ 1 ให้นั่งหรือนอนแล้วหลับตาเพื่อตัดสิ่งรบกวนทั้งหมดและหายใจเข้า-ออกช้าๆ จากนั้นให้เริ่มนับลมหายใจเข้า-ออก คือลมหายใจเข้านับ 1 หายใจออกก็นับ 1, หายใจเข้านับ 2 หายใจออกก็นับ 2 นับไปเรื่อยๆ ลักษณะเดียวกันจนถึง 5 แล้วให้เริ่มนับ 1 ใหม่ นับไปจนถึง 6 แล้วกลับมาเริ่มนับ 1 ใหม่จนถึง 7 และเพิ่มจำนวนเป็น 8, 9, 10 เมื่อครบ 10 ถือเป็น 1 รอบแล้วจึงเริ่มนับ 1 ใหม่ไปจนถึง 10 และทำซ้ำๆ กันจนใจสงบและนิ่งขึ้น โดยผู้ที่เริ่มฝึกครั้งแรกอาจจะนับเลขผิดพลาดได้ เนื่องจากอาจยังไม่มีสมาธิพอหรืออาจจะมีความคิดอื่นๆ ผุดขึ้นมาระหว่างนับลมหายใจ ไม่ต้องกังวลใจ ขอให้พยายามตั้งสติใหม่ ประการสำคัญเมื่อมีความคิดแทรกขึ้นมาขอให้รับรู้และปล่อยไป ไม่เก็บมาคิดต่อสมาธิจะดีขึ้น

          ขั้นที่ 2 เมื่อใจสงบมากขึ้นแล้วให้เริ่มนับลมหายใจเข้า-ออกเร็วขึ้นไปอีก และต่อเนื่องกันคือหายใจเข้านับ 1 หายใจออกนับ 2 ไปจนถึง 10 และขั้นที่ 3 หากนับลมหายใจเข้า-ออกได้เร็ว และไม่ผิดพลาดแสดงว่าจิตใจสงบมากแล้ว คราวนี้ให้ใช้สติมารับรู้รับลมหายใจเข้า-ออกเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องนับเลขและไม่คิดเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นมีแต่เรื่องสงบเท่านั้น

          หากเราฝึกสมาธิเป็นประจำโดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและเย็น หรือก่อนนอนจะทำให้จิตใจเราสงบ เบิกบานอารมณ์เย็น สมองแจ่มใส หายเครียด จนตัวเองและคนใกล้ชิดรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

          การฝึกสมาธินี้ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก มีงานวิจัยยืนยันตรงกันว่ามีผลดีต่อร่างกายและจิตใจช่วยทำให้จิตสงบ โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟินส์ หรือสารแห่งความสุขออกมาช่วยให้ระบบประสาทสมองทำงานเป็นระเบียบ การทำงานของอวัยวะมีประสิทธิภาพดีขึ้น

          สามารถป้องกันการเกิดโรคที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดได้อย่างน้อย 6 โรค ได้แก่ โรคซึมเศร้า โรคอัลไซเมอร์ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ


 


 เครื่องหมายจราจรที่ชัดเจน
 ช่วยลดอุบัติเหตุ

          ผมเป็นคนขับรับจ้างอยู่อ่างทอง และขอแจ้งผ่านคุณอ๊อดสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องเส้นแบ่งเลนบนถนนปัจจุบันนี้ทำไมไม่สะท้อนแสงในเวลากลางคืน เครื่องหมายจราจรตามถนนที่สะท้อนแสงสำหรับเตือนผู้ใช้เส้นทางก็หายาก

          ผมขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเรื่องนี้ไปพิจารณาสักนิดนะครับ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยเฉพาะถนนสายเอเชียและถนนที่แยกออกไปเข้าตัวจังหวัดและอำเภอต่างๆ มีปัญหามากๆ ยิ่งเวลานี้เข้าหน้าฝนขับรถไม่เห็นเส้นแบ่งถนนหรือแบ่งเลนเลยครับ ไม่เฉพาะตัวผมแต่รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย

          ผมไม่รู้ว่าถนนเส้นไหนอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง, กรมทางหลวงชนบท หรือหน่วยงานอื่นๆ แต่ขอให้ช่วยกันปรับปรุงเส้นแบ่งเลน โดยเฉพาะให้มีเส้นสะท้อนแสงในตอนกลางคืน

          โปรดเห็นใจและช่วยเหลือประชาชนผู้ต้องขับรถเวลากลางคืนด้วยเถิดครับ
ช้าง (อ่างทอง)


 


ตอบ คุณ ‘ช้าง’ อ่างทอง
          จดหมายของคุณเข้าใจง่ายๆ และตรงไปตรงมาดี เพราะเวลานี้มีการแบ่งความรับผิดชอบในการซ่อมสร้างถนนจนประชาชนเข้าใจผิดและไม่รู้ว่าจะร้องเรียนไปที่ไหน แต่สรุปประมาณว่าให้ทุกหน่วยงานช่วยเหลือปรับปรุงแก้ไขด้วย

          ท่านที่ขับรถไปต่างจังหวัดหรือแม้กระทั่งในเขต กทม. ย่อมเข้าใจถึงความสำคัญของเส้นแบ่งเลนถนนได้ดีเพราะคนขับรถจะได้รักษาเส้นทางของตนและเรื่องเส้นสะท้อนแสงยิ่งต้องให้มีสภาพดีเวลากลางคืนจะได้เห็นชัดเจน

          ขณะนี้เข้าสู่หน้าฝน เวลาฝนตกหนักทัศนวิสัยไม่ดีก็ได้อาศัยเส้นสะท้อนแสงนี่แหละเป็นหลักในการขับรถ และทางที่ดีหากมีปัญหาเรื่องการมองเห็นขอแนะนำให้เข้าปั๊มน้ำมันพักก่อนดีกว่าปลอดภัยกว่า

          ด้วยความปรารถนาดีและขอให้ทุกท่านเดินทางโดยปลอดภัยทุกประการ อย่าเมาแล้วขับ เวลาง่วงหรือเพลีย ต้องหยุดพัก อย่าขับรถเร็วเกินอัตรากฎหมายกำหนด !!!
อ๊อด เทอร์โบ



 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ