คอลัมนิสต์

"แม้ว"วางมือ...? เจ๊หน่อยกุมพท. คนตึกชินเร้นกาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ทีมข่าวการเมือง เครือเนชั่น

 

 

 

          กระแสข่าวว่า "ทักษิณ ชินวัตร” ไม่เปิดบ้านในนครดูไบเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 70 ปีในไม่กี่วันข้างหน้านี้ หลายคนตีความว่าคนแดนไกลจะไม่ใส่ใจการเมืองไทยแล้ว...

 

 

          แต่นัยไม่ใช่แบบนั้น..เพราะคนที่ชื่อทักษิณยังคงติดตามจังหวะการเมืองทุกระยะและรู้ว่า "เวลาใดควรถอย ยามใดควรขยับ”


          การถอยคราวนี้ที่ส่งข้อความมาถึงมิตรสหายว่าปีนี้งดร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ร่วมกันนั้น มันคือการหมอบชั่วขณะ?


          การหมอบชั่วขณะนั้น แว่วเหตุผลมาว่าหลังการเปิดซูเปอร์ดีลจากฮ่องกงในช่วงต้นปีกับบทบาทของพรรคไทยรักษาชาตินั่นเอง ที่ตอนนั้นคนแดนไกลกล้าเล่นไพ่เสี่ยงใบสุดท้ายและโยนออกมา จากนั้นไม่นานคนแดนไกลมารู้ตัวว่า "โยนพลาด”


          แปลความการโยนไพ่ใบสุดท้ายได้ไม่ยากสำหรับนักวิเคราะห์การเมืองไทยว่า "ทักษิณพลาดในหมากครั้งสุดท้ายและหมดเวลาแก้ตัว”

 

 

 

"แม้ว"วางมือ...? เจ๊หน่อยกุมพท. คนตึกชินเร้นกาย

 


          เห็นง่ายๆ หลังจากนั้นไม่นาน “รายการ Good Monday” ที่คนแดนไกลจัดรายการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ก็ม้วนเก็บฉาก มินับรวมการโพสต์หลากเรื่องราวของเจ้าตัวในหลากช่องทางก็ค่อยๆ จางไป ส่วนลูกโอ๊คก็เช่นกันเพราะนิ่งไปพักใหญ่แล้วกับการแสดงความเห็นทางสังคมออนไลน์ เหลือแค่น้องปูที่พอจะยังมีจังหวะขยับตัวมาโพสต์บ้างบางคราว




          ดังนั้นการวางมือทางการเมืองคือละครบทหนึ่งที่วางโครงเรื่องไว้ว่าลีลาของคนแดนไกลนั้น เสมือนว่าจากนี้ไปจะอยู่นิ่งๆ แต่จริงๆ แล้วคนแดนไดลเล่นบท “แกล้งตาย” มากกว่า


          การแกล้งตายที่น่าจะยาวนานครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าตัวน่าจะรู้อะไรบางอย่างมาแล้ว...เกี่ยวกับวิถีในกาลหน้า


          แต่หลังฉากแล้วคนแดนไกลยังดูแลลูกชายคนเล็กที่ชื่อเพื่อไทย เพราะมันคือพรรคอันดับหนึ่งที่เป็นหมากตัวหลักของคนแดนไกลและคนแวดล้อม วันนี้เพื่อไทยแปรสภาพจากพลังประชาชนและไทยรักไทยในวันวาน


          คะแนนนิยมของเพื่อไทยยังคงเป็นจุดขายที่คนในภูมิภาค (ยกเว้นปักษ์ใต้รวมทั้งกทม.ชั้นใน) ที่ชาวบ้านยอมรับสูงและยากที่พรรคอื่นๆ จะเจาะได้ง่ายๆ


          ดังนั้นยากยิ่งที่คนแดนไกลจะดูดายและนิ่งเฉยกับจังหวะของเพื่อไทย แม้วันนี้พรรคสีส้มจะมาแรงและกำลังทาบรัศมีก็ตาม


          ที่ผ่านมาคนการเมืองขั้วหัวก้าวหน้าในพรรคเพื่อไทยอยากให้ภาพตระกูลชินวัตรพ้นไปจากพท. เพราะต้องการสร้างพรรคให้โตได้เอง แต่ความพยายามนี้โดนล้มโต๊ะไป จนขั้วหัวก้าวหน้าและคนเสื้อแดงบางส่วนเตรียมแผนตั้งพรรคเองแล้ว

 

 

 

"แม้ว"วางมือ...? เจ๊หน่อยกุมพท. คนตึกชินเร้นกาย

 


          ดังนั้นการแกล้งตายดังกล่าวของคนแดนไกลมิเกี่ยวกับการวางแผนเดินหมากให้พรรคเพื่อแม้วทั้งหลายเพราะคนวงในบอกว่าคนแดนไกลยังร่วมวิเคราะห์และเคาะโต๊ะอยู่และไม่กี่วันข้างหน้านี้จะรู้ว่าพรรคอะไหล่พรรคใหม่ของเพื่อไทยนั้นใครจะไปนั่งทำงานบ้าง...เนื่องจากคนแดนไกลรู้ว่าหากกติกาหลักของประเทศฉบับนี้ยังบังคับใช้...การแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ย่อยต้องนำมาใช้อีก แม้ตอนนี้เจ็ดพรรคต้านลุงตู่จะวางโปรแกรมรณรงค์ให้สังคมตื่นตัวและร่วมหนุนการแก้รัฐธรรมนูญก็ตาม


          แต่ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จนั้นน่าจะเหนื่อยยิ่งกว่าเหนื่อย....


          ดังนั้นยามนี้คนแดนไกลคิดเกมแตกเซลล์แยกคนที่ไม่ลงรอยกันออกมาแล้วเตรียมไปขึ้นโครงสร้างพรรคใหม่รวมทั้งวางกลยุทธ์กุมสภาพการเมืองท้องถิ่นให้มาอยู่ในสาแหรกเพื่อไทยให้ได้มากที่สุดก่อนจะเป็นสิ่งสมควรทำในยามนี้และยามหน้า


          เนื่องจากภาวะครม.ลุงตู่ 2 แม้ลุงตู่จะมีผนังทองแดง-กำแพงเหล็กไว้ประคอง "เรือเหล็ก” ยามลงไปเผชิญแผ่นน้ำและคลื่นลม แต่ภาวะเสียงปริ่มน้ำและความสามัคคีคนละทางที่สังคมแลเห็นกับรัฐนาวาประยุทธ์ 2 คือการบ้านที่ขั้วต้านลุงตู่ต้องทลายและมันมีโอกาสเป็นไปได้ไม่น้อยเพราะเรื่องเรือล่มปากอ่าวแบบนี้เกิดได้ทุกขณะกับการเมืองไทย


          การวางบุคคล พรรค แคมเปญ ไว้รองรับจึงต้องเร่งเคลื่อนโดยน่าจะเห็นผลเบื้องต้นในเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป


          ความจริงแล้วสาแหรกของพรรคเพื่อแม้วนั้นแม้วันนี้ไม่มี ทษช.ในสารบบ แต่ประชาชาติ เพื่อชาติ เสรีรวมไทย ยังมีช่ื่อความเป็นพรรคการเมืองปรากฏอยู่ แต่พรรคเหล่านี้มันก็มิใช่แบรนด์ที่จะใช้เพื่อบอกสังคมว่าพรรคเหล่านี้คือพรรคสาขาของเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ


          และอย่าลืม "เพื่อธรรม” ที่เคยฮือฮามาช่วงหนึ่งว่าเป็นพรรคสาขาเบอร์ต้นๆ ของพท. แต่ยามนั้นเพื่อธรรมต้องหมอบให้ทษช.รับบทพรรคสาขาอันดับสองของเพื่อไทยไปแทน


          ยามนี้พรรคเพื่อธรรมจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำมาปัดฝุ่นแล้วผนวกบางส่วนที่ทษช.ขึ้นโครงไว้แล้วเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็นแบรนด์เบอร์สองของเพื่อไทย


          ส่วนเกมปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยเพลานี้ชัดแล้วว่าการประสานสิบทิศของขั้วเมืองหลวงที่นำโดย "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” กุมสภาพบริหารพรรคเพื่อไทยได้เกือบเต็มตัว ส่วน “คนตึกชิน” คือ "ภูมิธรรม เวชยชัย" ยอมถอยตัวจากเก้าอี้พ่อบ้านพรรค ทั้งๆ ที่อยู่มาร่วมสองทศวรรษ รวมทั้ง "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล” ก็ประกาศวางมือทางการเมืองและไปลุยธุรกิจเต็มตัว


          ใครต่อใครรู้กันทั่วว่า "พี่อ้วนและเฮียเพ้ง” นั้น อยู่ในขั้นสายตรงคนแดนไกลมิน้อยหน้าเจ๊หน่อย แต่อาการที่เจ๊หน่อยปล่อยให้คนในขั้วออกมาตำหนิการทำงานของใครบางคนในพรรคแบบเย้ยฟ้าท้าดินนั้น รวมทั้งการแสดงพลังในหลากวาระ วันนี้ใครหลายคนยอมถอยให้เจ๊หน่อยแสดงบทนำแบบมิค่อยยินยอม...


          เมื่อเจ๊หน่อยสวมบทประธานยุทธศาสตร์พรรคที่อยู่จุดบนสุดเหนือกว่า "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรค และเว้นทางให้นักเลงวังน้ำเย็นคือ "เสนาะ เทียนทอง” รับหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคอีกทางหนึ่งเพื่อรักษาหน้าและบารมีของป๋าเหนาะไว้


          ส่วนองคาพยพที่จะเป็นแขนขาในการปฏิรูปพรรคให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีสัดส่วนมากขึ้นในสังคมไทยและเป็นสิ่งที่พรรคสีส้มตีจุดนี้แตกก่อนพรรคอื่นๆ นั้น ยามนี้คนในเครือเจ๊หน่อยเข้ามาดูแลงานนี้ อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รับหน้าที่เลขาธิการพรรค น.อ.ศิธา ทิวารี จะสวมบทกุนซือประจำกายเจ๊หน่อย รวมทั้งว่านเครือการเมืองที่เจ๊หน่อยนำมาแทรกในทุกอณูของการกุมสภาพพรรค


          แม้ขั้วเมืองหลวงจะสวมบทนำได้ในพรรคเพื่อไทยราวร้อยละ 70 และแบ่งให้แกนนำภาคอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเก๋ามารับหน้าที่ด้วยนั้น เพราะคนแดนไกลไม่ปล่อยให้เจ๊หน่อยลุยเดี่ยว ดังนั้นคนแดนไกลจึงส่งตัวแทนภาคต่างๆ มาไว้ในโครงสร้างพรรคคละเคล้าไปเพื่อคานอำนาจ


          และใครหลายคนบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่รอดูบทของเจ๊หน่อยวันนี้ว่าจะพาเพื่อไทยถึงฝั่งตามที่แจ้งเจตจำนงไว้และรอยลว่าจะเดินย้ำรอยเดิมเมื่อครั้งเป็นแม่บ้านพรรคพลังผักหรือไม่


          เกมนี้น่าติดตามยิ่ง...

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ