คอลัมนิสต์

อย่าทำร้ายเด็กตาดำๆ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2562

 

 

          เป็นข่าวที่น่าสลดใจและไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำกับ “เด็กนักเรียน” ตัวเท่าลูกมด สำหรับเหตุการณ์ฉาวโฉ่ที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” เผยแพร่คลิปขณะเจ้าหน้าที่กำลังตักอาหารแจกเด็กๆ นักเรียน โดยอาหารหนึ่งจานจะมีเพียงข้าวกับน้ำซุปเศษผักและแตงโมหนึ่งชิ้น และที่น่าหดหู่ใจหนักเข้าไปอีกคือระหว่างการตักอาหารคนตักยังบอกเด็กว่า กินไก่มากไม่ดี จะเป็นมะเร็ง ต้องกินผัก คุณครูสอนวิทยาศาสตร์แล้วใช่ไหม... กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที โดยหลังเกิดภาพสะเทือนใจ..คนไทยทั้งประเทศเรียกร้องให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และดูเหมือนว่าช่วงแรกบาปเคราะห์จะไปตกอยู่กับครูบาอาจารย์ในโรงเรียนเพราะถูกตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงทำกับเด็กตัวเล็กๆ ได้ลงคอ กระทั่ง ผอ.โรงเรียนถูกคำสั่งย้ายด่วนในทันที

 

 

          สุดท้ายความจริงกระจ่างเมื่อแท้จริงแล้วมีตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องอีกคือ “เทศบาล” ที่ดันมีนโยบายให้โรงเรียนในสังกัดทั้ง 9 โรงเรียน ส่งรายละเอียดเรื่องงบประมาณอาหารกลางวันของนักเรียนมารวบรวมที่เทศบาลเพื่อต้องการประมูลอาหารกลางวันนักเรียนรวมกันครั้งเดียวทั้ง 9 โรงเรียน แม้ก่อนหน้านี้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนจะไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่านักเรียนอาจได้รับอาหารไม่เพียงพอ หากมีผู้รับเหมาเป็นเอกชนรายเดียวรับผิดชอบอาหารกลางวันเด็กทั้ง 9 โรงเรียน ขณะที่ในอีกมุมหนึ่ง...ฝั่ง “ผู้รับเหมา” ออกมาโอดครวญว่า ทำตามเมนูและปริมาณตามสัญญาว่าจ้างของเทศบาลทุกอย่าง..ส่วนคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียลมองว่ามีคนถ่ายเพื่อกลั่นแกล้ง หรือถูกคู่แข่งทางธุรกิจเจตนาถ่ายคลิปหม้อบรรจุอาหารกลางวันที่ใกล้จะหมดมาเผยแพร่ให้เสียชื่อเสียง

 


          ทุกคนต่างมีเหตุผลที่ต้องรับฟัง...เรื่องนี้ใครถูกผิดคงต้องไปว่ากันตามกระบวนการตรวจสอบ แต่สิ่งสำคัญสุดคือเรื่องดังกล่าวต้องได้รับความกระจ่างที่เป็นรูปธรรมเพื่ออธิบายต่อสังคมให้ได้ว่า ภาพเศษน้ำแกงที่คนทั้งประเทศเห็น “มันคืออะไร” ตรงนี้ต่างหากคือสิ่งสำคัญ ใครจะดี-ร้าย หรือถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้ง ทุกอย่างต้องมีคำตอบ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนที่รับผลกระทบมากที่สุด คือ “เด็กนักเรียน” ตาดำๆ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีคำตอบให้แก่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ญาติพี่น้องของเด็กนักเรียนนับพันชีวิตในเร็ววัน

 

 



          ล่าสุดแม้นายกรัฐมนตรีจะให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน แต่ดูเหมือนว่าเรื่องทุจริตอาหารกลางวันมันลุกลามกลายเป็นไฟท่วมทุ่งไปแล้ว..เมื่อ “ป.ป.ช.” ภาค 3 ออกมาเปิดเผยว่า พบการทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบตามโรงเรียนหลายแห่งโดยพบว่ามีอยู่ 4 โรงเรียนที่มีพฤติกรรมเข้าข่าย..เช่น 1 วันโรงเรียนต้องซื้อวัตถุดิบจำนวน 1 หมื่นบาท แต่ซื้อเพียงแค่ 5 พันบาท แต่เงินส่วนต่างที่เหลือทางโรงเรียนไม่สามารถชี้แจงได้ว่า นำไปทำอะไร ฯลฯ

 


          ไม่น่าเชื่อว่า “ทำกันได้ลงคอ” ร้ายกาจมากกับพฤติกรรมอันน่าอดสู..วันนี้เด็กนักเรียนไทยต้องตกอยู่ในสภาวะที่น่าห่วงยิ่งนัก เพราะโครงการอาการโรงเรียนทั่วประเทศมีเป็นหมื่นเป็นแสนแห่ง ถ้าเกิดมีการทุจริตกันแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ คิดกันดูว่าผลร้ายที่ตามมาจะตกกับใคร เด็กนักเรียนหลายแสนชีวิตจะต้องทุกข์ทนไปกับการมีคุณภาพชีวิตห่วยๆ ทุกเมื่อเชื่อวันด้วยหรือ นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องเสียงบประมาณไปมากน้อยเพียงใดลองคิดกันเป็นตัวเลขคร่าวๆ ดู..มันเสียหายกันทั้งระบบ หยุดเถอะกับการก่อ “บาป” ในลักษณะะเช่นนี้ โดยเฉพาะกับเด็กนักเรียนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย...อย่าทำร้ายกันเพียงเพราะ “ความโลภ” ที่น่าละอายเยี่ยงนี้...

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ