คอลัมนิสต์

สัญญาณบวกเศรษฐกิจยังมี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2562

 

 

          นายกรัฐมนตรีระบุชัดเจนว่าการจัดตั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีจะเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม โดยมีทิศทางทำงานสานต่อนโยบายสำคัญที่ดำเนินมาแล้วให้ลุล่วง โดยหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไป อาทิ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลกซึ่งปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทย 38 ล้านคน ไม่เคยสูงเท่านี้มาก่อน และคาดการณ์ว่าอนาคตตัวเลขน่าจะสูงถึง 40 ล้านคน ส่วนสถิติการลงทุนบีโอไอในประเทศปีนี้ 3 แสนกว่าล้านบาท เป็นการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศและเพิ่มความเข้มแข็งซึ่งหากดูตัวเลขในไตรมาสแรกปีนี้ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ที่สำนักงานบีโอไอเผยตัวเลขขอรับส่งเสริมลงทุนมีโครงการยื่นขอ 387 โครงการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12% มูลค่าเงินลงทุนรวม 128,903 ล้านบาท หากนับรวมไตรมาส 2 ก็น่าจะแตะที่ 3 แสนล้าน

 


          ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอาจมีจำนวน 20.1 ล้านคน หรือขยายตัว 7.0% เทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะมีจำนวน 19.7 ล้านคน หรือขยายตัว 1.1% ส่งผลให้ทั้งปี 2562 ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยไว้ที่ประมาณ 39.0-39.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 2.0-4.0% จากปีก่อน ส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.94-1.97 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตามมีปัจจัยตัวแปรในด้านเทรนด์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนหนึ่งเป็นผลของการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก ประเด็นการแข่งขันด้านราคาจากฝั่งผู้ประกอบการในประเทศ ตลอดจนการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวกับประเทศอื่นๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยท้าทายและมีผลต่อการเติบโตท่องเที่ยวไทย

 


          ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ประเมินว่าจะค่อยๆ ปรับดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่อัตราการเติบโตเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 2.8% ทำให้จีดีพีทั้งปีเติบโตได้ที่ 3.3% ซึ่งปัจจัยหนุนมาจากการลงทุนภาคเอกชนที่ดีขึ้นจากความชัดเจนโครงการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) การบริโภคเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกที่จะเริ่มดีขึ้นจากฐานต่ำในปีก่อนและการย้ายฐานการลงทุนเข้ามาไทยเพิ่มปริมาณการส่งออก แม้ว่าช่วง 5 เดือนแรกมูลค่าการส่งออกยังติดลบต่อเนื่องทุกเดือน และติดลบรวม 4.5% ประเมินว่าจะยังติดลบต่อในเดือนมิถุนายนทำให้ครึ่งปีแรก 2562 ส่งออกยังติดลบต่อ แต่ครึ่งหลังน่าจะเป็นบวกได้ ทำให้การส่งออกทั้งปีโต 0% หรือเฉลี่ยส่งออกเดือนละ 2.0-2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกจากการค้าโลกที่ชะลอตัว

 


          ขณะเดียวกันการจัดอันดับการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบสหประชาชาติ (UN SDGs) ปี 2019 ประเทศไทยเลื่อนขึ้น 19 อันดับ จากอันดับ 59 เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่อันดับ 40 ในปีนี้ และถือเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน จากรายงานของเครือข่ายการแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Solutions Network–SDSN) และมูลนิธิ Bertelsmann Stiftung โดยปีนี้ประเทศไทยมีคะแนนตาม SDG Index ที่ 73.0 คะแนนเฉลี่ยภูมิภาค 65.7 โดยคะแนนเพิ่มขึ้นเรื่องการขจัดความยากจน การจ้างงานที่มีคุณค่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นในภาพรวมยังมีสัญญาณเป็นบวกที่จะเดินหน้าประเทศต่อไปเพียงแต่รัฐบาลใหม่ต้องวางแผนด้านเศรษฐกิจอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพและต้องขจัดปัญหาความแตกแยกในรัฐบาลผสมให้ได้อย่าให้มาฉุดรั้งประเทศ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ