คอลัมนิสต์

เร่งตั้งครม.ขับเคลื่อนประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562

 

 

          ผ่านพ้นไปกว่า 3 เดือนนับแต่วันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ประเทศไทยเพิิ่งได้ตัวนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย แต่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรียังคงคาราคาซังไม่ลงตัวจากการแก่งแย่งต่อรองของนักการเมือง ส่งผลให้การบริหารประเทศติดๆ ขัดๆ เป็นไปด้วยความเชื่องช้า ข้าราชการแต่ละกระทรวงรอดูทีท่าของรัฐมนตรีคนใหม่รวมถึงนโยบายที่จะออกมา ทำให้การขับเคลื่อนประเทศไม่มีประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาต่างๆ ต้องชะงักงันไปด้วย ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจจนมีเสียงบ่นจากภาคธุรกิจให้ได้ยินถึงวาระเร่งด่วนที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ทั้งในเรื่องการฟื้นฟูกำลังซื้้อในประเทศ การแก้ไขปัญหาความเลื่อมล้ำ กระตุ้นการส่งออก การแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และเร่งลงทุนเมกะโปรเจกท์

 


          นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวระหว่างจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ที่ไบเทค บางนา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในช่วงที่ “เลวร้าย” ที่สุด เนื่องจากได้ตัวนายกรัฐมนตรีแล้วแต่ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งล่าช้ามาถึง 2-3 เดือน ทำให้กำลังซื้อระดับล่างหายไปอย่างชัดเจน ค่าครองชีพสูงขึ้น ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าถึง 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร และรายได้ของเกษตรกรที่ลดลง ดังนั้นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลควรทำเป็นอย่างแรกคือค่าบาทที่ช่วงนี้ควรอยู่ที่ระดับ 34 บาท แต่ต้องระวังการแก้ปัญหาค่าเงินบาท ขึ้นเร็วไป หรือลงเร็วไป ไม่ดี ต้องค่อยๆ ปรับให้อ่อนค่าลง พร้อมทั้งเสนอให้มีการตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ก่อนที่เศรษฐกิจจะเสียหายไปมากกว่านี้

 


          ล่าสุดกระทรวงการคลังเตรียมปรับคาดการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทย ลดลงจากปัจจุบันร้อยละ 3.8 สอดคล้องกับหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เพราะยังเผชิญกับแนวโน้มการส่งออกชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาการส่งออกถึงร้อยละ 77 สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวร้อยละ 5 เพราะการบริโภคในประเทศยังขยายตัวระดับน่าพอใจ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ 64.8 แม้ว่าการส่งออกติดลบร้อยละ 5.8 โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดจีนติดลบร้อยละ 7.2 ขณะที่การนำเข้าติดลบร้อยละ 0.6 สินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ เชื้อเพลิง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวสะท้อนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 2.73 ล้านคน ชะลอลงร้อยละ 1 เป็นผลจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นสำคัญทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีมูลค่า 134,560 ล้านบาท

 


          แม้ภาครัฐจะเชื่อมั่นว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแรงมาก ตลาดหุ้นขยับขึ้นต่อเรื่อง ค่าเงินบาทแข็งค่าสะท้อนเศรษฐกิจยังดี และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังรองรับปัจจัยเสี่ยงที่ผ่านมาได้ดี ยังมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะต่างชาติมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งก็ตาม แต่หากการเมืองยังคงไม่มีความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความเชื่องช้า ยังคงมีความขัดแย้งในตัวบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง คงเป็นเรื่องยุ่งยากในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน อีกทั้งยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาลในอนาคตอีกด้วย เพื่อเป็นการฝ่าฟันวิกฤติชาติให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วหมดเวลาที่นักการเมืองจะมานั่งทะเลาะกันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องได้แล้ว นายกรัฐมนตรีจะต้องใช้ความเด็ดขาดตั้งคณะรัฐมนตรีขับเคลื่อนประเทศโดยเร็ว

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ