คอลัมนิสต์

คนจนเล่นหวย-คนรวยเล่นหุ้นทำไม?? ลอตเตอรี่ขายเกินราคา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

          ‘ดับเครื่องชน’ วันนี้ขอนำเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแต่ไม่มีใครยอมรับเพราะมีผลประโยชน์มหาศาลแต่ละเดือนรวมแล้วนับแสนล้านบาท

          นั่นคือธุรกิจสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เป็นความหวังและคนไทยมากมายได้ลุ้นกันเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาโลกแตกที่ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้

 

 

          เกี่ยวกับเรื่องการขายลอตเตอรี่เกินราคา ซึ่งมีมานานแล้วและคงจะมีอีกต่อไปเพราะ ‘หวยชุด’ ยังเป็นที่ต้องการด้วยความหวังว่าจะได้เงินรางวัลมหาศาล

          ที่ผ่านมาพยายามจะแก้ไขปัญหาด้วยการขอออกหวยออนไลน์ หรือหวยลอตโต้แบบเมืองนอกแต่ถูกตีกลับตกไปทุกที ด้วยข้ออ้างทางกฎหมายและถูกโจมตีว่า ‘มอมเมาประชาชน’ ให้เล่นหวยซึ่งเป็นการพนันชนิดหนึ่ง

          เมื่อเป็นปัญหาหวยรัฐบาลหรือลอตเตอรี่ไม่พอขายเลยเกิดธุรกิจ ‘หวยใต้ดิน’ หรือ ‘หวยเถื่อน’ ทั่วประเทศและขออย่าปฏิเสธว่าไม่มี เพราะใครๆ แม้เด็กน้อยก็รู้

          คนไทยระดับชาวบ้านรากหญ้านิยมแทง ‘หวยใต้ดิน’ และนี่เองเป็นธุรกิจเถื่อนที่มีผลประโยชน์เข้ามาทั้งเจ้ามือ, ยี่ปั๊ว และตำรวจบางคนที่รับส่วยรวยมหาศาลรายได้มากกว่าเงินเดือน

          ประเทศไทยนี่แปลกที่ไม่ยอมรับความจริง อย่างจะตั้งกาสิโนก็ไม่ได้แต่มี ‘บ่อนพนัน’ เต็มไปหมด และรอบๆ ประเทศตามตะเข็บชายแดนมีกาสิโนที่มีคนไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่

          แล้วใครก็ตามที่จะเอาหวยใต้ดิน-บ่อนเถื่อน หรือบ่อนมาเฟียขึ้นมาทำให้ถูกต้องก็ต้องมีอันเป็นไปเพราะจะถูกตราหน้าว่า ‘ส่งเสริมการพนัน’ และ ‘มอมเมาประชาชน’

          ‘ของเถื่อน’ ผิดกฎหมายที่มีเงินหมุนเวียนเป็นแสนๆ ล้านต่อเดือนเลยมีอยู่ตลอดไป
อ๊อด เทอร์โบ



          ขอเป็นสื่อกลางนำจดหมาย ‘ชาวบ้านผู้เดือดร้อน’ แจ้งผ่านไปยังผู้ว่าฯ กทม. และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งรับผิดชอบดูแลทุกข์สุขและความปลอดภัยของประชาชนให้จัดการด่วน

          ด้วยประชาชนเขตลาดพร้าวเจอปัญหาแก๊งวัยรุ่นสร้างความเดือดร้อนและอาจก่อเหตุเป็นอันตรายได้


          กรณีนี้ตำรวจท้องที่และ 191 ต้องทราบและรับผิดชอบ อย่าปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น

          อย่าให้เกิดเรื่องก่อนเลย ประชาชนต้องทนรับกรรมและเสี่ยงภัยเช่นนี้หรือ?
อ๊อด เทอร์โบ


 


 แก๊งวังหินอันตราย
 เรียน ผู้ว่าฯ กทม.และตำรวจนครบาล
 
        พวกผมพักอาศัยในหอพักข้างสะพานวังหิน เขตลาดพร้าว ช่วงเวลากลางคืน 5 ทุ่มถึงเกือบเช้า จะมีแก๊งวัยรุ่นร่วม 20 คน มามั่วสุมกินเหล้า, น้ำกระท่อม อยู่ใต้สะพานวังหิน และบันไดทางขึ้นบนสะพานลอย ตั้งวงบนสะพานลอยที่ชาวบ้านเดินข้ามไปมาระหว่างเขตลาดพร้าวกับเขตจตุจักร เพราะว่าชาวบ้านหลายคนต้องเดินผ่านไปมา ทำงานกะกลางคืนและกลับจากทำงานดึกเกรงจะไม่ปลอดภัย

          ขอรบกวนช่วยเป็นสื่อแจ้งไปถึงหน่วยงานราชการมาช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านผู้พักอาศัยในหอพักข้างสะพานวังหินด้วย

          มี 2 หัวโจกใหญ่ พักอยู่ในตึกแนว 3 ชั้น อยู่ใต้สะพานวังหิน และช่วยแจ้งไปถึงผู้ว่าฯ กทม.ให้มาล้อมรั้วใต้สะพานวังหินด้วย จึงจะแก้ปัญหานี้ได้ยาวนาน

          ผมเคยแจ้ง 191 พอตำรวจมาพวกนี้ก็หนีเข้าไปในชุมชน พอตำรวจกลับไปพวกนี้ก็กลับมามั่วสุมอีก อยากจะให้ สน.โชคชัย และ สน.พหลโยธิน ช่วยกันด้วยอย่าปัดความรับผิดชอบ
ชาวบ้านผู้เดือดร้อน


 


 งดถุงพลาสติกใส่ยา
 ลดโลกร้อน-ประหยัด 24 ล้าน

          ขอร่วมสนับสนุนการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกและขอเป็นสื่อกลางแจ้งให้ทราบจากกระทรวงสาธารณสุขว่า

          กระทรวงสาธารณสุขร่วมลดโลกร้อนด้วยการรณรงค์ไม่แจกถุงพลาสติกใส่ยาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงวันนี้เห็นผลได้อย่างดี ลดการใช้ถุงไปได้ 87% คิดเป็นมูลค่าถึง 24 ล้านบาท

          นอกจากวงการค้าปลีกแล้ว ที่มีการเคลื่อนไหวต่อปัญหาถุงพลาสติกเช่นกัน โดยที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งยกเลิกการให้ถุงพลาสติกที่ใส่ยาสำหรับผู้ป่วย(เฉพาะถุงหิ้วไม่ใช่ถุงซิป) เพื่อลดขยะพลาสติก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 พร้อมกับรณรงค์ให้นำถุงผ้า กระเป๋า หรือตะกร้ามารับยาที่โรงพยาบาลแทนการใช้ถุงพลาสติก

          ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจเลยทีเดียว นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงว่า

          ผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 จนถึง 31 มีนาคม 2562 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561 สามารถลดปริมาณการสั่งซื้อถุงพลาสติกได้ถึง 87% หรือ 344,043.2 กิโลกรัม ช่วยประหยัดเงินในการสั่งซื้อถุงหิ้วพลาสติกได้กว่า 24 ล้านบาท

          ผู้รับบริการพึงพอใจกับการรณรงค์และคิดว่าการใช้ถุงผ้าใส่ยาใช้ดีกว่าการใช้ถุงหิ้วพลาสติกมากกว่า 90% รวมทั้งส่วนใหญ่สะดวกที่จะนำถุงผ้ามาจากบ้านและไม่คิดว่าเป็นการเพิ่มภาระ

          กระทรวงสาธารณสุขเตรียมที่จะขยายผลไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งเงินที่ประหยัดได้จากการไม่ซื้อถุงพลาสติกใส่ยาจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาระบบบริการเพื่อประชาชนต่อไป


logoline

ข่าวที่น่าสนใจ