คอลัมนิสต์

'งูเห่า'เขาซื้อกันยังไง??

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  ถอดรหัสลายพราง  โดย...  พลซุ่มยิง

 

 


          ได้ข่าวว่า ‘งูเห่า’ รุ่นใหม่แถวตึกไทยซัมมิทแพงหูฉี่ ราคาพุ่งพรวดตั้งแต่ 30-120 ล้าน ก็ไม่รู้ว่าคนซื้อใช้มาตรฐานอะไรเป็นเกณฑ์วัด เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระดับเกรดเอ ‘เก่ง’ การุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังถูกประเมินไว้เพียง 50 ล้านบาท

 

 

          เรื่องนี้คงต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีมูลหรือแค่เกมการเมือง


          เช่นเดียวกับกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ใช้เวทีรัฐสภาวันโหวตเลือกนายกฯ อ้างมีคนมาทาบทาม 2-3 รอบ ให้ยกพรรคไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมเสนอเงิน 300 ล้าน แถมตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้อีกด้วย


          แต่ที่น่าแปลกเจ้าของฉายา ‘มือปราบตงฉิน’ และตำรวจสอบสวนผู้โด่งดังในอดีตกลับไม่เอาเรื่องเอาความกับคนทำผิดและคู่แข่งทางการเมือง หากจำเหตุการณ์เมื่อต้นปีกันได้ ‘ทหาร’ ติดตามดูแลความเรียบร้อยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตามคำสั่ง คสช.ในระหว่างลงพื้นที่หาเสียง ก็ถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงพร้อมอัดคลิปวิดีโอเอามาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กส่วนตัวประจานคนทั้งประเทศได้รับรู้จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงพักแจ้งความกันมาแล้ว แต่เรื่องนี้ ‘เสรีพิศุทธ์’ กลับปล่อยผ่าน


          ถามว่าในสถานการณ์รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำมีโอกาสจะเกิดขบวนการซื้อ ‘งูเห่า’ หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ‘มี’ แต่ไม่ใช่การกว้านซื้อแบบพร่ำเพรื่อ ไม่ดูทิศทางลม อย่างที่กล่าวหากันอยู่

 

          ไม่เช่นนั้นก็จะเจอทั้งกฎหมายอาญา ม.149 และกฎหมายพรรคการเมือง 2560 ม.28 ม.29 ม.44 ม.46 ม.88 วรรคสอง โทษถึงขั้นยุบพรรคเพราะเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ


 


          เช่นเดียวกับที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ อ้างมีบุคคลขอซื้อตัว ส.ส.เกือบยกพรรค โดยการหลอกล่อด้วยเหตุผล การยุบพรรค คดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค รวมทั้งการข่มขู่ที่จะเอาถึงชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อมในช่วงโหวตเลือก ‘นายกรัฐมนตรี’ นั้นแหละ


          แล้ว ‘งูเห่า’ เขาซื้อกันอย่างไร? หลักการแรกต้องศึกษาลักษณะนิสัย ฐานะทางเศรษฐกิจของแต่ละพรรคกันก่อนว่าทุนหนาหรือแห้งกรอบ รวมถึงแหล่งที่มาก็เป็นเรื่องสำคัญ ส.ส.ระบบเขตจะอยู่ในข่ายเป้าหมายมากกว่าส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือปาตี้ลิสต์ เนื่องจากมีฐานเสียงที่ต้องรักษา การลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมพบปะมวลชน ไม่ว่าจะงานบวช-งานแต่ง-ฝังลูกนิมิต ก็ต้องทำต่อเนื่องจากเงินที่ใช้จ่ายไปแต่ละครั้งต้องควักเนื้อตัวเอง ขอเบิกจากพรรคก็ไม่ได้ โอกาสได้มาร่วมงานง่ายขึ้นกว่า


          ส่วน ‘งูเห่า’ ปรากฏตอนไหน? ก็ต้องเลือกที่เป็นวาระสำคัญ เหมือนเช่นในอดีต ภายหลังการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และพรรคร่วมรัฐบาลเดิมมีมติจะสนับสนุนให้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน ด้วยเสียงของพรรคความหวังใหม่  125 เสียง พรรคชาติพัฒนา 52 เสียง พรรคประชากรไทย 18 เสียง และพรรคมวลชน 2 เสียง รวม 197 เสียง โดย ส.ส.พรรคประชากรไทย จำนวน 12 คน ซึ่งเป็นกลุ่มของนายวัฒนา อัศวเหม  กลับสวนมติ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค ไปสนับสนุน นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี จนสามารถรวมได้ 209 เสียง จากเดิมได้เพียง 196 เสียง จนถูกเรียกว่า ‘กลุ่มงูเห่า’ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย


          แต่การโหวตเลือก ‘นายกรัฐมนตรี’ สมัยนี้ มีเสียง 250 สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการคัดเลือกของ คสช.คอยสนับสนุนอยู่แล้ว ให้จับตาช่วงการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล การถอดถอนจากตำแหน่งว่าจะเจอ ‘งูเห่า’ โผล่มากี่เสียง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ