คอลัมนิสต์

ไผเป็นไผ "พลังประชารัฐ" ร้อยบุปผาหรือร้อยซุ้ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ข่าวเนชั่นสุด คมชัดลึก วันที่ 1-2 มิ.ย.2562

 

          สมัยประธานเหมา เจ๋อตง ดำเนินการปฏิวัติวัฒนธรรมที่เมืองจีน ได้ประดิษฐ์วาทกรรม “ร้อยบุปผาบานพร้อมพรัก ร้อยสำนักประชันแข่งใจ” เหมือนจะบอกว่า ยอมรับให้สมาชิกพรรคมีความคิดต่างกัน เพื่อทุกคนจะแข่งขันกันสร้างสรรค์สังคมนิยมให้ก้าวรุดหน้าไป 

          เฉกเช่นเดียวกัน จุดเริ่มต้นของ พรรคพลังประชารัฐ” ก็มาจากหลากหลายกลุ่มการเมือง ทั้งที่เคยเป็น ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่น

          มีข้อมูลที่น่าสนใจ จำนวน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 116 คน แยกเป็น ส.ส.เขต 97 คน และบัญชีรายชื่อ 19 คน ปรากฏว่า ในชัยชนะ 97 เขตเลือกตั้ง มี ส.ส.หน้าใหม่ ที่มาจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่น 35 เขต ซึ่งกวาดคะแนนไปทั้งสิ้น 1,177,485 คะแนน

 

 

ซุ้มเมืองหลวง

 

          ไม่น่าเชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐ จะกวาด ส.ส.กรุงเทพฯ มาได้ 12 ที่นั่ง และเป็นแชมป์สนามเมืองหลวง ด้วยกระแสลุงตู่ไปต่อ จึงทำให้พรรคน้องใหม่แจ้งเกิดสำเร็จ

        ที่ปฏิเสธไม่ได้คือ เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ซึ่งรับบทแม่ทัพเมืองหลวง โดยเริ่มจากดึงการเมืองท้องถิ่น ที่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย มาสวมเสื้อ พปชร.ลงสนาม 

 

ไผเป็นไผ "พลังประชารัฐ" ร้อยบุปผาหรือร้อยซุ้ม

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

 

        ปรากฏว่า ในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นได้เป็น ส.ส.จำนวน 5 คนคือ กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา, กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ, จักรพันธ์ พรนิมิตร, กษิดิ์เดช ชุติมันต์ และศิริพงษ์ รัศมี

 

 

ซุ้มวังน้ำยม 2

 

        สมัยรัฐบาลไทยรักไทย “ซุ้มวังน้ำยม” ที่มี สมศักดิ์ เทพสุทิน" และ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นหัวเรือใหญ่ และ “อนุชา นาคาศัย” เป็นแม่บ้าน คอยดูแลบรรดา ส.ส.ในซุ้มประมาณ 80 คน

        วันนี้ ซุ้มวังน้ำยม หรือกลุ่มสามมิตร มีไพร่พลจำนวน 28 คน รวมทั้ง ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ

        แยกเป็นวังน้ำยม สายสุโขทัย พิจิตร และพิษณุโลก มี ส.ส.เขต 7 คน และมีส่วนที่เป็นกำลังเสริมจากภาคกลาง ที่อยู่ในการดูแลของ “เสี่ยแฮงก์ อนุชา” ซึ่งกวาดมาเกือบ 20 คน ทั้งชัยนาท, ราชบุรี, กาญจนบุรี และสระบุรี

 

ไผเป็นไผ "พลังประชารัฐ" ร้อยบุปผาหรือร้อยซุ้ม

อนุชา นาคาศัย และ สมศักดิ์ เทพสุทิน

 

ซุ้มชากังราว

 

        นอกจากกลุ่มสามมิตร ก็ยังมีแนวร่วมของสมศักดิ์-สุริยะ ได้แก่กลุ่มกำแพงหรือกลุ่มชากังราวของ “วราเทพ รัตนากร” กวาดเก้าอี้ ส.ส.มายกจังหวัด ทั้งไผ่ ลิกค์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, อนันต์ ผลอำนวย และปริญญา ฤกษ์หร่าย

        พันธมิตรของวราเทพคือ ซุ้มปากน้ำโพ นำโดย ภิญโญ นิโรจน์, วีระกร คำประกอบ, นิโรธ สุนทรเลขา และ สัญญา นิลสุพรรณ

 

 

ซุ้มมะขามหวาน

 

        แม้ช่วงเลือกตัั้ง สันติ พร้อมพัฒน์” จะเจอกระแสโจมตีมากมาย แต่ทีมสันติ ก็ยังกวาด 5 ที่นั่ง ยกจังหวัด ได้แก่ เอี่ยม ทองใจสด, วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์, จักรัตน์ พั้วช่วย, สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ และน้องใหม่ พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์

        เสี่ยสันติย่อมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มสามมิตร และกลุ่มวราเทพ เพราะรู้จักรู้ใจกันมาสมัยพรรคไทยรักไทย

 

 

ซุ้มรัตนเศรษฐ

 

        สนามเลือกตั้งอีสาน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ สอบตกกว่าร้อยละ 90 เหลืออยู่ 11 เขตในอีสานใต้ ที่เอาชนะพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยได้

 

ไผเป็นไผ "พลังประชารัฐ" ร้อยบุปผาหรือร้อยซุ้ม

สุชาติ ตันเจริญ และ วิรัช รัตนเศรษฐ

 

        ตระกูลรัตนเศรษฐ นำโดย วิรัช รัตนเศรษฐ” ได้เป็น ส.ส. 4 คนคือ ทัศนียา, อธิรัฐ, ทวิรัฐ และทัศนาพร เกษเมธีการุณ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลง น้องสาวทัศนียา พ่วงด้วย วิรัช ได้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

        ส่วน ส.ส.โคราชอีก 1 และ ส.ส.สุรินทร์ 1 คน ยังอยู่ในสายวิรัช เหลือ ส.ส.ชัยภูมิ 2 คน และโคราช 1 คนที่อยู่ในกลุ่มสามมิตร

 

 

ซุ้มรวมดาวภาคกลาง

 

        พรรคพลังประชารัฐ ได้รับชัยชนะจากสนามเลือกตั้งภาคกลาง, ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก รวมแล้วประมาณ 36 คน

        ในจำนวนนี้ แยกเป็นกลุ่มชลบุรีของตระกูล “คุณปลื้ม” 6 คน และกลุ่มบ้านริมน้ำ ของ สุชาติ ตันเจริญ” อีก 7 คน โดยส่วนใหญ่เป็น ส.ส.สายสามมิตร ที่มี “เสี่ยแฮงก์” ดูแลอยู่

 

 

ซุ้มทักษิณ

 

        ไม่มีใครคาดฝันหรอกว่า พรรคพลังประชารัฐ จะปักธงที่สมรภูมิภาคใต้ ได้ถึง 13 ที่นั่ง จากสนามสงขลา, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, ตรัง และยะลา ผู้ที่ได้เครดิตจากชัยชนะหนนี้ คงหนีไม่พ้น พ.อ.(พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อนเตรียมทหาร รุ่น 12 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

        ด้วยความหลากหลายทางความคิดของนักเลือกตั้งที่กล่าวมาทุกซุ้ม ย่อมไม่ง่ายที่จะจัดสรรปันส่วนเก้าอี้ รมต.ได้ลงตัวง่ายๆ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ