คอลัมนิสต์

อย่าให้เสียโอกาส

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บทบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2562

 

 

          ท่ามกลางความวุ่นวายในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ดูเหมือนจะเข้ารูปเข้ารอย แต่ก็ยังติดๆ ขัดๆ จนกลายเป็นปัญหาให้ผู้เกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการแก้ไข ความคาราคาซังของปัญหาฉุดรั้งการบริหารประเทศในลักษณะเดินไม่เต็มสูบ ทำให้ประเทศและคนไทยเสียโอกาสในหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจโลกซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกประเทศที่ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ในอนาคต และแน่นอนประเทศเล็กๆ อย่างเราปัญหาต่างๆ ก็ต้องเพิ่มทวีคูณ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้ตระหนักและคาดหวังให้บ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้มองเรื่องของผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะขณะนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายหลายอย่าง ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจโลก การแข่งขันในภูมิภาค และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

 


          ขณะที่ความตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ดูทีท่าจะยืดยาวไม่จบลงง่ายๆ และเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้าง ซึ่งไทยก็ไม่อยู่นอกเหนือทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ผลกระทบจะมีทั้งด้านบวกและด้านลบในแต่ละอุตสาหกรรม มีการปรับตัวเลขเศรษฐกิจกันเป็นระลอก ทุกภาคส่วนเดินหน้าแก้ไขและรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น ที่สำคัญยังรอความชัดเจนจากรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนภารกิจการฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องประกาศอย่างชัดเจนว่านโยบายขับเคลื่อนประเทศของรัฐบาลนั้นจะไปในทิศทางใดและต้องปฏิบัติได้จริง นอกเหนือจากนี้จะต้องสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเห็นถึงเสถียรภาพของรัฐบาลที่มั่นคงแข็งแกร่งสามารถบริหารประเทศไปได้อีกยาวนานด้วย


          บนความน่าสะพรึงกลัวของสงครามการค้าโลก ก็ยังมีข่าวดีและเป็นโอกาสของประเทศไทย เมื่อผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศจาก World Competitiveness Center ของ International Institute for Management Development (ไอเอ็มดี) สวิตเซอร์แลนด์ ประจำปี 2562 ทำการสำรวจและจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทั้งหมด 63 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ช่วงต้นปี 2562 พบว่าประเทศไทยมีอันดับความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นจากอันดับ 30 เป็นอันดับ 25 ซึ่งเป็นอันดับที่สูงสุดในรอบ 15 ปี ส่วนการจัดอันดับเขตเศรษฐกิจที่มีอันดับสูงสุด 5 อันดับแรกคือ สิงคโปร์เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 1 แทนที่สหรัฐ ซึ่งลดอันดับลงไปเป็นที่ 3 รองลงมาคือ ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามลำดับ


          ผลการจัดอันดับของไทยดีขึ้นใน 3 ด้าน ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของภาครัฐ และโครงสร้างพื้นฐานขณะที่การเติบโตในด้านการลงทุนต่างประเทศ ไทยมีอันดับที่ดีขึ้นเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลมีแนวทางที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในการปรับกฎระเบียบให้ทันสมัย คล่องตัว และส่งเสริมการใช้ดิจิทัลในการให้บริการให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการแก้ปัญหาปัจจัยพื้นฐานเชิงโครงสร้างในทุกด้าน และกำลังผลักดันต่อไปให้เกิดผลอย่างต่อเนื่องและในวงที่กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าหากมีรัฐบาลชุดใหม่มาบริหารประเทศโดยเร็ว การขับเคลื่อนประเทศก็จะมีประสิทธิภาพขึ้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจในระดังรากหญ้า  ที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะลดความแตกต่างด้านรายได้ระหว่างคนในเมืองกับคนชนบท ดูแลรายได้ของภาคการเกษตร เพื่อให้โครงการต่างๆ ลงไปสู่ฐานราก สู่ภาคเกษตร และกระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่นด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ